ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2023 เหตุใดพวกเจ้าล้วนยังเชื่อได้ลงเล่า
ตอนที่ 2023 เหตุใดพวกเจ้าล้วนยังเชื่อได้ลงเล่า
………………..
เสียงเอ่ยถามเสียงหนึ่งนี้ ทุ้มต่ำเย็นเฉียบ กดดันหนักหนา
ทุกถ้อยทุกคำ ล้วนราวกับเป็นยอดเขาลูกหนึ่ง ทาบทับลงมาในใจของมั่วสือเชียนอย่างหนักอึ้งไร้ที่ปรียบ!
เขาต้องการอะไรน่ะหรือ
ย่อมเป็นของที่อยู่ในกายฉู่หลิวเยว่ชิ้นนั้นอย่างไรเล่า!
แต่วาจานี้ กลับไม่อาจเอ่ยออกไปได้
ความเงียบสงัดผืนหนึ่ง แทรกเข้ามาเผชิญหน้ากับผู้คนในเหตุการณ์
บรรยากาศราวกับว่าจะจับตัวแข็งอย่างไรอย่างนั้น
ผู้คนทั้งหมดต่างกลั้นใจรอคอย
เวลานี้ คล้ายว่าแม้แต่การหายใจก็ผิดแล้ว
“…เป็นการเข้าใจผิด”
สุดท้าย มั่วสือเชียนก็เปิดค่อยๆ ปากออก
ทุกถ้อยทุกคำของเขา ล้วนราวกับว่ากัดฟันพ่นออกมาอย่างไรอย่างนั้น
“ก่อนหน้านี้ สือเชียนไม่รู้ว่าซั่งกวนเยว่และท่านมีความสัมพันธ์เช่นนี้ ล่วงเกินไปมากมาย ยังหวังว่าผู้อาวุโสจะให้อภัย”
นี่เป็นการก้มหน้าประนีประนอมแล้ว!
ประดาผู้คนของถ้ำปีศาจทมิฬต่างก็ตื่นตกใจก่อนคราหนึ่งเป็นอันดับแรก ต่อมาต่างก็เผยสีหน้าเศร้าสลดสิ้นหวังไปตามๆ กัน
กระทั่งประมุขล้วนเอ่ยเช่นนี้แล้ว…
ก็ใช่…
พวกเขาสิ้นเปลืองความคิดทั้งหมดเชื้อเชิญความช่วยเหลือจากภายนอกมา สุดท้ายกลับคาดไม่ถึงว่าจะเพื่อมาพยุงเอวให้กับอีกฝ่าย
เช่นนั้นศึกนี้ จะรบกันต่อไปได้อย่างไร
“เมื่อครู่ข้าได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ เจ้าคิดอยากจะสังหารพวกนางหนูเยว่เออร์ ข้าแม้ว่าอายุจะมากแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นตาฟางหูตึง ต่อให้นับว่าเป็นความเข้าใจผิดจริง รึว่า…หลายปีก่อนผิดครั้งหนึ่ง เวลานี้ก็ยังผิดอีกครั้งหนึ่งหรือ”
มั่วสือเชียนปิดตาลงครู่หนึ่ง สูดหายใจเข้าลึก ถึงได้กดอารมณ์พลุ่งพล่านในใจกลับลงไปอย่างไม่ง่ายดาย
“…เรื่องเหล่านี้พูดไปแล้วก็ยาว เวลาเพียงครู่หนึ่ง ไร้หนทางแจกแจงให้ชัดเจนแก่ท่านได้…”
“เวลาของข้ามากมายนัก เจ้ามีเรื่องอันใดจะพูด แค่พูดมาก็ได้แล้ว หากสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างพวกเจ้าได้ ข้าก็นับว่าได้ทำเรื่องดีเรื่องหนึ่งมิใช่หรือ”
ผู้อาวุโสลำดับห้าหัวร่อเสียงหนึ่ง
แต่เมื่อเสียงหัวร่อนี้ดังไปถึงในหูของมั่วสือเชียน ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่างเสียดสีเป็นที่สุด!
เขาคล้ายว่าจะกัดฟันเหล็กทั่วทั้งปากจนแหลกละเอียดแล้ว!
เวลานี้ในเหนุการณ์นี้ ไร้หนทางเก็บกวาดแล้วอย่างแท้จริง!
ชี้แจงหรือ
ไม่ต้องชี้แจ้งอะไรเลย!
เรื่องเหล่านั้นก็เป็นเขาทำ เขาจะชี้แจงให้ชัดเจนได้อย่างไร
คิดแล้วคิดเล่า มั่วสือเชียนก็คิดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะยังมีภูเขาพึ่งพิงเช่นนี้!
เขาพยักหน้าเล็กน้อย ไม่เอ่ยแม้แต่คำหนึ่ง
เมื่อเห็นท่าทีตอบสนองนี้ของเขา ผู้อาวุโสลำดับห้าจะยังมีข้อสงสัยดีๆ อะไรได้อีกเล่า
“มั่วสือเชียน เจ้า…”
หนึ่งประโยคยังเอ่ยไม่ทันจบ มั่วสือเชียนก็พลันขยับแล้ว!
เขาเปลี่ยนกำปั้นเป็นหมัด คิดไม่ถึงว่าจะฟาดลงไปทางแดนสวรรค์โลหิตที่อยู่ตรงหน้า!
ในเมื่อที่เชิญมามิใช่ผู้ช่วยเหลือ เช่นนั้น…ก็ไม่จำเป็นต้องเคารพนบนอบอีกแล้ว!
ม่านหมอกสีดำอันเข้มข้น เข้าปกคลุมกระจกโลหิตสวรรค์ในชั่วพริบตา!
เขาต้องการจะทำลายกระจกโลหิตสวรรค์!
ด้านในนี้กักเก็บลมปราณสายหนึ่งของผู้อาวุโสลำดับห้าเอาไว้
หากกระจกโลหิตสวรรค์ถูกทำลาย เช่นนั้นผู้อาวุโสลำดับห้าก็จะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้
อีกทั้ง หากไม่มีกระจกโลหิตสวรรค์แล้ว เขาก็ไร้หนทางลงมือแล้ว
“ในเมื่อผู้อาวุโสไม่คิดจะช่วยเหลือ เช่นนั้นก็อย่าโทษพวกข้าว่าไม่เกรงใจ!”
วาจายังไม่ทันจบ มั่วสือเชียนก็ฟาดลงที่ใจกลางของกระจกโลหิตสวรรค์อย่างรุนแรงหมัดหนึ่งแล้ว!
“ประมุข!”
พวกโต้วหมิ่นเห็นเช่นนั้น ล้วนตะลึงงันคราหนึ่ง ต่างส่งเสียงอุทานกันออกมา!
พวกเขาล้วนชัดแจ้งเป็นอย่างมาก โลหิตสวรรค์นี้มีการเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นถึงที่สุดกับมั่วสือเชียน
การฝึกปราณส่วนใหญ่ของเขา ล้วนต้องอาศัยสิ่งนี้
หากได้รับบาดเจ็บมา โดยพื้นฐานแล้วก็ล้วนพึ่งพาโลหิตสวรรค์ในการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
หากโลหิตสวรรค์ถูกทำลาย ตัวเขาเองก็จะได้รับผลกระทบยิ่งใหญ่
แต่เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว เขาเองก็ไม่มีวิธีการอื่นแล้ว!
เปรี๊ยะ!
เสียงปริแตกอันกังวานใสสายหนึ่งลอยมา
บนโลหิตสวรรค์ รอยแตกสายหนึ่งแผ่ขยายออกอย่างรวดเร็ว
พรวด!
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่โลหิตสวรรค์แหลกละเอียด มั่วสือเชียนสั่นเทิ้มทั่วทั้งร่าง แล้วพ่นโลหิตออกมาทั่วพื้นอย่างแรงคำหนึ่ง!
ลมปราณรอบกายเขา ก็เปลี่ยนไปเป็นเหือดแห้งในชั่วพริบตา!
แต่การโจมตีของเขาไม่ได้หยุดลง!
ขอแค่ทำลายโลหิตสวรรค์ได้ เส้นทางเพียงหนึ่งเดียวในการมาเยือนของผู้อาวุโสลำดับห้า ก็จะถูกขาดลงไปสิ้น!
อำนาจกดดันอันน่าหวาดกลัว พลันล้นทะลักออกมาจากใจกลาง!
มั่วสือเชียนในใจพลันหนักอึ้ง ยังไม่ทันจะได้มีท่าทีตอบสนอง ก็ถูกแรงระเบิดอันบ้าคลั่งยกทะยาน!
ฉู่หลิวเยว่และหรงซิวก็ยืนอยู่ด้านข้างไม่ไกล มองด้วยตาก็เห็นว่ากำลังจะได้รับผลกระทบเช่นกัน
ทว่าในตอนที่พลังอำนาจนั้นกำลังจะเข้ามาห้อมล้อม เงาร่างสายหนึ่งจู่ๆ ก็ทะลวงออกมาจากกลางโลหิตสวรรค์นั่น!
เพล้ง!
โลหิตสวรรค์ปริแตกจนแหลกละเอียดลงมา!
ทว่าเงาร่างสายหนึ่งที่พลันมาอยู่ตรงหน้านั้น กลับขวางกั้นพลังอำนาจอันบ้าคลั่งทำลายล้างเหล่านั้นเอาไว้ที่ด้านนอกอย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ
ผู้คนทั้งหมดล้วนมองไปยังเงาร่างสายนั้น
เป็นผู้อาวุโสลำดับห้า!
เพียงแต่ในเวลานี้ เงาร่างของเขาคือเงามายาที่ปรากฏเป็นร่างกึ่งโปร่งแสง
เพราะนี่…ก็คือลมปราณสายนั้นของเขาที่กักเก็บอยู่กลางโลหิตสวรรค์ก่อนหน้านี้!
มั่วสือเชียนมองภาพฉากตรงหน้าอย่างตื่นตะลึงไม่รู้จบ ไม่กล้าที่จะเชื่อ
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้ โลหิตสวรรค์พังทลาย ลมปราณของเจ้าก็น่าจะสูญสลาย…ไปด้วย!”
เขาไม่ได้เอ่ยวาจาที่เหลือออกมา แต่คนในเหตุการณ์ล้วนเข้าไปใจความหมายของเขา
ผู้อาวุโสลำดับห้ากลับหันกายก่อนเป็นอันดับแรก แล้วพิจารณาฉู่หลิวเยว่อย่างละเอียดรอบหนึ่ง
“นางหนูเยว่เออร์ เมื่อครู่ตาเฒ่ารีบร้อนออกมา ไม่บาดเจ็บถึงตัวเจ้ากระมัง”
เขาเอ่ยถามอย่างกังวลและเป็นกันเอง
ฉู่หลิวเยว่อดไม่ได้ที่เอ่ยแกมหัวเราะ
“ท่านวางใจ ข้าไม่เป็นอันใด”
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอาศัยกำลังที่แท้จริงของนางในเวลานี้ ก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้อย่างหมดจด หากว่าไม่ทันจริงๆ แล้วละก็ ก็ไม่ใช่ว่ายังมีหรงซิวกับเขาอยู่ไม่ใช่หรือ
ถ้านางยังได้รับบาดเจ็บอีกล่ะก็ เช่นนั้นก็เห็นผีแล้ว
เมื่อผู้อาวุโสลำดับห้ายืนยันแล้วว่านางไม่ได้รับผลกระทบอะไร ถึงได้ผ่อนลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง
“เช่นนั้นก็ดีๆ!”
ด้านหนึ่ง เขาเดิมทีก็เอ็นดูนางหนูเยว่เออร์อยู่แล้ว อีกด้านหนึ่ง หากว่ากลับไปแล้วหลานเซียวและพี่เป่ารู้ว่าไม่ได้ปกป้องนางหนูเยว่เออร์ให้ดีล่ะก็…
จิ๊!
ผู้อาวุโสลำดับห้าก็ไม่รู้ว่าตนจะยังสามารถขลุกอยู่ในทะเลทรายจันทราสีชาดต่อไปได้หรือไม่แล้ว
เขาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งใจเฮือกหนึ่งแล้ว ถึงได้มองไปยังมั่วสือเชียน
เมื่อมั่วสือเชียนสบเข้ากับดวงตาอันโชกโชนแต่เย็นเฉียบคู่นั้น หัวใจก็พลันกระตุกวาบ
“เจ้าคิดไว้ไม่ผิด ไม่มีโลหิตสวรรค์แล้ว ข้าก็ไร้หนทางข้ามมาแล้วจริงๆ”
ผู้อาวุโสลำดับห้าลูบหนวดเล็กน้อย
“แต่…ผู้ใดบอกเจ้ากันว่า โลหิตสวรรค์พังทลายแล้ว ลมปราณสายนี้ของข้า ก็จะสูญสลายตามไปด้วย”
มั่วสือเชียนอ้าปาก กลับไม่มีเสียงใดลอดออกมา
เขาคิดเช่นนี้ ก็เพราะ…นี่เป็นเรื่องที่ทราบกันมาจากประมุขถ้ำปีศาจทมิฬในแต่ละรุ่นน่ะสิ!
ผู้ใดจะรู้ว่าทำลายโลหิตสวรรค์แล้ว ลมปราณสายนั้นไม่เพียงไม่สลายไป กลับยังออกมาได้ด้วย!
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสลำดับห้าก็ตบศีรษะคราหนึ่ง
“อ้อ…ข้านึกออกแล้ว นี่น่าจะเป็นเรื่องที่มั่วเหยาบอกเอาไว้ในตอนแรก”
มั่วเหยา ก็คือประมุขคนแรกของถ้ำปีศาจทมิฬ และก็เป็นผู้สร้างโลหิตสวรรค์นี้ด้วย
“เขาบอกกับพวกเจ้าว่า ใช้โลหิตสวรรค์นี้แล้วจะสามารถอัญเชิญข้าได้ และหากว่าทำลายมัน ก็จะสามารถตัดทางรอดของข้าได้ ถูกต้องหรือไม่”
ผู้อาวุโสลำดับห้ามองเขาปราดหนึ่งอย่างเห็นใจ
“เด็กโง่ วาจานี้เป็นข้าโกหกเขาในตอนแรก เหตุใดพวกเจ้าล้วนยังเชื่อได้ลงเล่า”