ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2034 พบเจอ
ตอนที่ 2034 พบเจอ
………………..
บาดแผลลึกมาก เลือดสดๆ ไหลรินออกมา จนทำให้เห็นกระดูกสีขาว
เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมือนั้นโหดเหี้ยมมากขนาดไหน แม้กระทั่งสัตว์เล็กๆ ที่เพิ่งเกิดก็ยังไม่ยอมปล่อยไป
แววตาของฉู่หลิวเยว่เย็นยะเยือกลงหลายส่วน นางค่อยๆ ใช้ฝ่ามือปิดลงบนบาดแผลของลูกเสือดาวตัวนั้น
แสงสีทองจางๆ สว่างวาบออกมา
เมื่อนางยกมือขึ้นอีกครั้ง บาดแผลบนตัวของลูกเสือดาวก็เริ่มสมานกันแล้ว อีกทั้งลมปราณก็กลับมาเป็นปกติ
มันนอนอยู่บนฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่อย่างเชื่อฟัง ก่อนพลิกตัวแล้วหลับลงไปอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่กับถวนจื่อมีพันธสัญญาร่วมชีวิต สำหรับสัตว์อสูรเหล่านี้แล้วพลังที่อยู่ในร่างกายของนางสามารถรักษาบาดแผลของสัตว์อสูรเหล่านี้ได้
แต่หากให้ถวนจื่อใช้พลังโดยตรง แรงกดดันทางสายเลือดก็จะหนักหน่วงเกินไป เกรงว่าลูกสัตว์ตัวนี้คงจะไม่สามารถต้านรับไหว
การที่ฉู่หลิวเยว่เป็นฝ่ายลงมือก็จะดีที่สุด
ในตอนแรกแม่เสือดาวก็รู้สึกตื่นตระหนก ต่อมาก็รู้สึกซาบซึ้ง
แม้ว่าจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็มีสายเลือดระดับต่ำ จึงไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้
มันคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมคำรามในคอเสียงต่ำ
มันแสดงความขอบคุณและยอมจำนน!
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามอง และเห็นว่าที่คอของเสือดาวลายเมฆสีชาดก็มีรอยบาดจากการสั่งสอนด้วย
คนของถ้ำปีศาจทมิฬเหล่านั้นตายไปหมดแล้ว แต่สัตว์อสูรเหล่านี้ยังอยู่
ซึ่งไม่ได้แตกต่างอันใดจากสิ่งที่นางคิดเอาไว้
พวกเขาไม่ได้ทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรเหล่านี้ พวกเขาแค่กักขังมันแล้วใช้กลวิธีบางอย่างฝึกให้เชื่อง
ด้วยวิธีเช่นนี้พวกเขาสามารถควบคุมสัตว์อสูรจำนวนมากได้ และจำนวนของสัตว์อสูรก็มีจำนวนมากกว่าพวกเขาอีก
นางส่งลูกเสือดาวตัวนั้นกลับคืนให้แม่เสือดาว เสือดาวลายเมฆสีชาดก็เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะคาบลูกเสือดาวขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวล คนของถ้ำปีศาจทมิฬตายหมดแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครคุมขังหรือทรมานพวกเจ้าอีก”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
สัตว์อสูรเหล่านั้นมีประมาณสองร้อยกว่าตัว
แต่ประเด็นสำคัญก็คือ ภายในป่าและภูเขาที่อยู่ด้านหลังยังคงมีสัตว์อสูรเดินทางเข้ามาหาอย่างต่อเนื่อง
นางถอนหายใจยาวๆ แล้วพูดว่า
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าก็แยกย้ายไปตามทางใครทางมันเถอะ!”
พื้นที่เหมาะสมสำหรับพวกมันมากที่สุดจะต้องเป็นป่าที่ไม่มีอันใดมาผูกพันธะ
โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ พวกเจ้าจะไปที่ไหนก็ได้
แต่หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่พูดประโยคนั้นจบ สัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ขยับตัวเคลื่อนย้าย
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปแล้วโบกมืออีกครั้ง
“ไปเถอะ!”
พวกมันก็ยังไม่ขยับ
“พวกเจ้า…”
“อาเยว่ พวกมันต้องการติดตามเจ้าน่ะ!”
ในที่สุดถวนจื่อก็พูดออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมามอง
“ติดตามข้า?”
นางไม่ใช่นายท่านของพวกมัน แล้วเหตุใดต้องติดตามนางด้วยล่ะ?
ถวนจื่อกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“ใช่แล้ว! พวกมันถูกขังอยู่ที่นี่มานาน ตอนนี้เจ้าเป็นคนช่วยพวกมันเอาไว้ ดังนั้นมันซาบซึ้ง และอยากจะติดตามเจ้าไป!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นนางก็ออกตัววิ่งขึ้นมาอีกครั้ง
“อาเยว่!”
ถวนจื่อรีบมากอดต้นขาฉู่หลิวเยว่ไว้ ใบหน้าเล็กๆ เงยขึ้น ปากก็พูดว่า
“อาเยว่ เจ้าสามารถพาพวกมันกลับไปได้ แต่ห้ามทำพันธสัญญากับพวกมันอีกนะ! อาเยว่ต้องเป็นของข้าเท่านั้น!”
นางครุ่นคิด แล้วกัดเล็บของตัวเองด้วยความสับสน
“จริงด้วย! ยังมีจื่อเฉินอีก…ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นก็เป็นแค่ของพวกเราเท่านั้น! แต่อาเยว่จะต้องรักข้ามากที่สุด!”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกจึงได้แต่บีบใบหน้าเจ้าเนื้อของอีกฝ่ายไว้
“วางใจเถอะ มีเจ้าคนเดียวก็พอแล้ว ข้าจะเอาพลังที่ไหนไปทำพันธสัญญาอีก? แล้วอีกอย่างนอกจากจื่อเฉินแล้ว น่าจะไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนสามารถทนต่อแรงกดดันของเจ้าได้”
จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าบังเอิญอย่างมาก
หากสัตว์อสูรตัวใดฝีมือไม่แข็งแกร่งพอ หรือสายเลือดไม่เข้มข้นมากพอ ก็ไม่สามารถต้านทานจื่อเฉินกับถวนจื่อได้
กว่าเขาจะมาอยู่ในจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ ถวนจื่อก็รู้สึกวางใจ
“หึๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าอาเยว่นั้นดีที่สุด!”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองสัตว์อสูรเหล่านั้นด้วยความลังเล
“แล้วพวกมัน…”
“ให้พวกมันติดตามไปด้วยเถอะ!”
ถวนจื่อโบกมือขึ้น
“ใช่ว่าท่าเรือดอกท้อจะเลี้ยงไม่ไหวนี่นา!”
ฉู่หลิวเยว่พิจารณาอยู่ในใจ
แม้ว่าท่าเรือดอกท้อจะมีทรัพยากรครบทุกด้าน แต่สัตว์อสูรของที่นั่นก็มีจำนวนไม่มาก อีกทั้งอสูรศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่มีเลย
เจ้าลองคิดดูสิ!
นี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน!
ตราบใดที่พวกมันติดตามนาง หลังจากนี้นางก็จะมีโอกาสชนะจื่อเฉินมากขึ้นไม่ใช่หรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มของถวนจื่อก็สดใสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับว่านางได้วาดฝันชีวิตที่สวยงามในอนาคตแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ “…”
นางนวดหัวคิ้วของตัวเองด้วยความปวดหัว
เหมือนถวนจื่อได้ลืมไปแล้วว่า ตนเองเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ อีกทั้งยังเป็นคนที่บรรพบุรุษคัดเลือกมาด้วยตัวเอง
ไม่ว่านางจะอยากทำอันใด เผ่าหงส์ทองคำทั้งหมดก็จะติดตามนางไปทันที
สิ่งนี้ทำให้ตำแหน่งของนางนั้นสูงส่ง
แต่เมื่อเห็นท่าทีมีความสุขของนาง ฉู่หลิวเยว่ก็คร้านจะกล่าวเตือน
หลังจากนี้นางคงนึกได้เอง
นางครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพยักหน้า
“ถ้าเช่นนั้น…ก็กลับมาด้วยกันเถอะ!”
เมื่อได้ยินดังนี้ แววตาของสัตว์อสูรก็เผยความยินดี
แม้ว่าแรงกดดันที่แผ่มาจากร่างกายของถวนจื่อจะรุนแรงอย่างมาก และทำให้พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้
ท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็เป็นหงส์ทองคำที่มีเลือดบริสุทธิ์อย่างมาก!
สำหรับสัตว์อสูรเหล่านี้แล้ว สิ่งมีชีวิตที่สูงศักดิ์เช่นนั้นมีแรงดึงดูดอย่างมาก
หากสามารถติดตามอีกฝ่ายได้ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นฉู่หลิวเยว่ยังได้ช่วยเหลือพวกมันเอาไว้
ยังมีที่พักพิงที่ไหนดีไปกว่าที่นี่อีก?
ดังนั้นพวกมันจึงดีใจลิงโลด
หลังจากรับผู้บำเพ็ญเพียรที่มีพรสวรรค์เข้ามากลุ่มหนึ่ง ด้านหลังของฉู่หลิวเยว่ยังมีสัตว์อสูรระดับไม่ต่ำต้อยติดตามมาอีกด้วย
ทันใดนั้นกลุ่มก้อนในการเดินทางของนางนั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที ฉู่หลิวเยว่เดินทางไปรู้สึกมึงงงเล็กน้อย
ในตอนแรกนางก็แค่อยากเปิดม่านพลังบานนั้นของท่าเรือดอกท้อ แต่สุดท้ายมันเกิดอันใดขึ้นเนี่ย?
นี่เพิ่งผ่านมาไม่นานเอง แต่คาดไม่ถึงว่า…นางจะพาทั้งคนและสัตว์อสูรจำนวนมากกลับมาด้วย?
ตอนนั้นเองความว่างเปล่าที่อยู่ไม่ห่างไกลก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
จากนั้นเงาร่างทั้งสองก็เดินออกมาจากภายใน
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“เฉินอี หลินจือเฟย? พวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างใด?”