ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2035 ระดับเทพขั้นสูง
ตอนที่ 2035 ระดับเทพขั้นสูง
………………..
เงาร่างทั้งสองเดินออกมาจากตรงกลาง ถ้าไม่ใช่เฉินอีและหลินจือเฟยที่แยกกับนางไปก่อนหน้านี้แล้วจะเป็นใคร?
เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน แววตาเผยความโล่งใจ
จากนั้นเงาร่างพวกเขาก็วูบไหว ก่อนมาหยุดตรงหน้านางแล้วทำความเคารพ
“คารวะนายท่าน”
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น
“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี เพียงแค่…พวกเจ้า…”
นางเพิ่งก้าวข้ามม่านพลังมา แม้ว่านางจะไม่ได้เคลื่อนไหวอันใด นางเพียงแค่รับสัตว์อสูรกลุ่มหนึ่งมา คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่!
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“หลังจากที่ม่านพลังเกิดความวุ่นวาย พวกเราสองคนก็ถูกแยกตัวจากนายท่านและฝ่าบาท หลังจากนั้นพวกเราก็ตามหาร่องรอยของพวกท่านมาโดยตลอด หลังจากใช้กลวิธีบางอย่างจึงสามารถสืบเบาะแสได้ ขออภัยด้วยที่ข้ามาช้าเช่นนี้”
เพียงคำพูดไม่กี่คำ เขาได้บอกเล่าเรื่องราวคร่าวๆ และเนื้อหาส่วนอื่นก็ถูกตัดทิ้งไป
แต่ฉู่หลิวเยว่รู้ดีว่า เขาตามหานางได้เร็วขนาดนี้จำเป็นจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเป็นจำนวนไม่น้อย
นางพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า
“ไม่เป็นไร พวกเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว”
เฉินอีกวาดสายตามองไปโดยรอบ
“ไม่ทราบว่าฝ่าบาท…”
ความจริงแล้วตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ เขาก็สังเกตสถานการณ์ที่อยู่โดยรอบแล้ว
นายท่านยังอยู่ แต่ฝ่าบาทหายตัวไป
อีกทั้งข้างกายของนายท่านยังมีคนติดตามมาเป็นจำนวนไม่น้อย
และหนึ่งในนั้นยังมีเชียงหว่านโจว
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีสัตว์อสูรกลุ่มใหญ่ที่ระดับไม่ต่ำต้อย
นี่มัน…
ภาพเหตุการณ์เหล่านี้มันน่าสับสนวุ่นวายมาก
ต่อให้เป็นคนฉลาดเช่นเขา ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ในทันทีว่าทั้งหมดนี้มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น
ฉู่หลิวเยว่อธิบายว่า
“เขาไปที่ทะเลทรายจันทราสีชาด อีกเดี๋ยวคงรีบกลับมา ส่วนคนเหล่านี้… ล้วนเป็นคนจากด้านนอกพรมแดนอาณาจักรเสิ่นซวี่ และสัตว์อสูรเหล่านี้ เป็นสัตว์อสูรที่คนของถ้ำปีศาจทมิฬได้เลี้ยงดูเอาไว้ที่นี่ ตอนนี้ถ้ำปีศาจทมิฬได้ถูกทำลายหมดแล้ว เดิมทีข้าอยากจะปล่อยพวกมันกลับไป แต่พวกมันอยากติดตามมา ข้าจึงจะพาพวกมันกลับท่าเรือดอกท้อด้วย บรรยากาศครึกครื้นบ้างก็ดีเหมือนกัน”
ทุกคน “…”
พาอสูรศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากกลับไปถือว่าเป็นเรื่องครึกครื้นอย่างนั้นหรือ…
ได้ยินหรือไม่!
นี่มันใช่คำพูดของคนทั่วไปหรือ!
บนใบหน้าที่เรียบนิ่งของเฉินอีมีความประหลาดใจที่หาได้ยากฉายชัดขึ้นมา
หลินจือเฟยที่อยู่ด้านข้างก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ถ้ำปีศาจทมิฬ…ถูกทำลายหมดแล้วหรือ?”
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ คาดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นเช่นนี้?
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมา
“เรื่องนี้มันยาวน่ะ กลับไปแล้วค่อยว่ากัน พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด? หากจะกลับไปท่าเรือดอกท้อลำบากหรือไม่?”
เฉินอีตอบว่า
“เรียนนายท่าน ที่แห่งนี้คือ หมื่นยอดเขา สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักเป็นแค่เพียงพื้นที่เล็กๆ ด้านนอกมีแม่น้ำทอดยาวสายหนึ่ง อยู่ห่างไกลผู้คนและเงียบสงบอย่างมาก”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
นางไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่แห่งนี้มาก่อนจริงๆ
อาณาจักรเสิ่นซวี่กว้างใหญ่มาก นางจึงไม่สามารถรู้ได้ทุกสิ่ง
ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นสถานที่ที่พวกถ้ำปีศาจทมิฬเลือกใช้กบดาน ดังนั้นจึงต้องเป็นสถานที่ที่หายาก
ฉู่หลิวเยว่พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงทำให้พวกเจ้าต้องลำบากแล้ว”
เฉินอีประสานมือ
“หลังจากที่พลัดหลงจากนายท่านและฝ่าบาทแล้ว ม่านพลังก็ปิดลง พวกเราทั้งสองคนจึงไม่สามารถติดตามไปได้ จึงทำได้เพียงหาที่แห่งนี้ ซึ่งต้องขอบคุณคุณชายหลิน”
ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วหันมองทางหลินจือเฟยอย่างประหลาดใจ
“หื้ม?”
สามารถทำให้เฉินอีพูดออกมาเช่นนี้ได้ นั่นหมายความว่าหลินจือเฟยเป็นกำลังหลักของครั้งนี้จริงๆ
“จือเฟย เจ้ารู้จักที่แห่งนี้หรือ?”
หลินจือเฟยส่ายหน้า
“ใต้เท้าเฉินอีชมเกินไปแล้ว ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นความดีความชอบของใต้เท้าเฉินอี ข้าเพียงแค่สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายเท่านั้น…”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น
ด้วยความสามารถของเฉินอี การจะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่เขากลับให้หลินจือเฟยเป็นคนลงมือ?
เหมือนสังเกตเห็นความสงสัยภายในใจของนาง เฉินอีจึงอธิบายว่า
“การที่ท่านปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เดิมทีแล้วเป็นการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของม่านพลังที่คุณชายหลินคำนวณเอาไว้ ข้าเพียงแค่ช่วยร่วมมือเท่านั้น”
เรื่องนี้ทำให้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจมาก
คาดไม่ถึงว่าหลินจือเฟยจะมีความสามารถที่น่าตกใจเช่นนี้?
“ที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลจากท่าเรือดอกท้อมากพอสมควร”
เฉินอีกล่าวเสริม
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจแล้ว
หากจะต้องสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายภายในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นปรมาจารย์ค่ายกลจำเป็นจะต้องรู้ตำแหน่งที่แน่นอน จากนั้นค่อยลงมือด้วยตนเอง
และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเฉินอีถึงให้หลินจือเฟยเป็นคนสร้างค่ายกลแห่งนี้
ด้วยความสามารถของหลินจือเฟยในตอนนี้ การจะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดเล็กด้วยตนเองก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่หากต้องการสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบก็ยังจำเป็นต้องยืมแรงจากภายนอก
ในตอนนั้น เฉินอีถึงค่อยลงมือ
แต่จะว่าไปแล้ว ความดีความชอบทั้งหมดก็ยังต้องตกอยู่ที่หลินจือเฟย
นางหันไปมองที่หลินจือเฟยแล้วพูดขึ้นว่า
“เฉินอีพูดได้ถูกต้อง ความดีความชอบทั้งหมดในครั้งนี้สมควรเป็นของเจ้า! จือเฟย เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ !”
คนที่มีความสามารถในระดับนี้ ทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น!
หลินจือเฟยเงยหน้าขึ้นแล้วมองนางด้วยแววตาเปล่งประกาย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมอย่างปิดไม่มิด
เขามีรูปร่างผอมบางดั่งต้นไผ่ ปกติแล้วเขาเป็นคนที่สงบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์
รอยยิ้มนี้ทำให้เขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
เหมือนกับลมที่พัดผ่านต้นไผ่จนทำให้รู้สึกสง่างามและบริสุทธิ์
“บุญคุณในการช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดที่จะมาตอบแทนได้ ยิ่งไปกว่านั้น—”
ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ให้ความสำคัญกับเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
ยากจะหาความเชื่อใจและชื่นชมเช่นนี้ได้ในชีวิต
หลินจือเฟยประสานหมัดทั้งสองข้างขึ้น
“ได้รับใช้นายท่านถือว่าเป็นเกียรติของข้าแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่ก็มีความสุขมาก
“ในเมื่อพวกเจ้ามาแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับท่าเรือดอกท้อกันเถอะ!”
………………..
ครั้งนี้ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาเส้นทางกลับได้เยอะมาก
“ขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า ทันใดนั้นสายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่เชียงหว่านโจว แววตาสว่างวาบพร้อมแฝงด้วยความประหลาดใจ
“ระดับเทพขั้นสูง”
………………..