ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2037 เยอะมาก
ซานซานมีความสุขขึ้นมา
“เหตุใดเจ้าไม่รีบพูดเล่า!”
เขารีบวางสมุดบัญชีในมือลง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกเพื่อต้อนรับ
สือซานรีบพูดขึ้นมาว่า
“เอ๋ พี่สามช้าก่อน! ตอนนี้นายท่านยังอยู่ที่ประตูเมือง นายท่านบอกว่าไม่ต้องไปรับ เขาอยากจะให้พี่สามจัดการเรื่องที่พักรับรอง และภูเขาที่เหมาะสมสองสามแห่ง”
“ที่พัก? ภูเขา?”
ซานซานชะงักไป
“เอาไปทำอันใดหรือ?”
สือซานเกาหัว
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ได้ยินมาว่านายท่านพาคนกับสัตว์อสูรจำนวนหนึ่งกลับมาด้วย…”
“อันใดนะ?”
ซานซานคิดไม่ถึงว่าจะได้คำตอบนี้
มุมปากของเขากระตุก
ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่พูดว่า ทางด้านม่านพลังฝั่งนั้นมีปัญหา ฝ่าบาทกับนายท่านจึงเดินทางไปดูด้วยกัน
แต่มีอันใดบางอย่างเกิดขึ้น จนทำให้ทั้งสองคนนั้นหายตัวไป
ด้วยเหตุนี้ พี่ใหญ่จึงพาหลินจือเฟยออกไปตามหาคน
ตอนนี้ได้ยินมาว่านายท่านกลับมาแล้ว พวกเขาจึงรู้สึกดีใจมาก
แต่… เหตุใดนางถึงพาคนและสัตว์อสูรกลับมาได้ล่ะเนี่ย?
เขาครุ่นคิดแล้วพูดว่า
“เข้าใจแล้ว ข้าจะส่งคนไปจัดการ”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไปด้านนอก
ตอนที่เขาเพิ่งเดินไปได้สองก้าว เขาก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วหันกลับมาถามว่า
“ไม่ถูกต้อง… หากนำคนและสัตว์อสูรกลับมา สัตว์อสูรเหล่านั้นน่าจะทำพันธสัญญากับพวกมนุษย์แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องเตรียมพื้นที่เพิ่ม…”
แต่เมื่อฟังกับคำพูดของนายท่านแล้ว เหมือนกับว่าสัตว์อสูรและมนุษย์เหล่านั้นแยกออกจากกัน
สือซานมีใบหน้ามึนงง
“เรื่อง…เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ทราบ…”
เขาไม่มีเวลาได้ไปดู เพียงแค่มีข่าวส่งกลับมาเท่านั้น เขาจึงรีบมาหาซานซาน
ท้ายที่สุดแล้วนายท่านกับพี่ใหญ่ก็ไม่อยู่ ดังนั้นซานซานจึงถือว่าเป็นคนที่มีอำนาจการตัดสินใจมากที่สุดในตอนนี้
อีกทั้งเขาก็คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก
เรื่องแบบนี้มอบหมายให้เขาจัดการจะเหมาะสมที่สุด
ซานซานครุ่นคิด
“ช่างเถอะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ท่าเรือดอกท้อมีขนาดใหญ่ขนาดนี้ แค่พื้นที่ว่างหาได้ง่าย…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ด้านนอกก็มีเสียงอึกทึกครึกโครม
ซานซานจึงหันไปมองอย่างแปลกใจ
“เกิดอันใดขึ้น…”
ฟิ้ว!
เสียงดังสนั่นทะลุอากาศ!
หัวใจของซานซานสั่นไหว จากนั้นเขาก็เห็นลูกอันใดบางอย่างกำลังลอยมาทางเขา!
เขารีบโคจรกำลังภายในเตรียมตัวลงมือ
“ซานซานอย่าขยับ!”
เสียงกระจ่างใสอันคุ้นเคยดังขึ้น
นายท่าน!
เมื่อได้ยินดังนั้นซานซานก็รีบกลั้นลมหายใจอย่างรวดเร็ว
วินาทีถัดมา ของสิ่งนั้นก็พุ่งมาหาเขาทันที!
มันกระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของซานซาน จนเกือบจะทำให้อีกฝ่ายล้มลงไป
เขารีบจับบานประตูที่อยู่ด้านข้างแล้วพยุงตัวขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมอง ถึงได้เห็นว่าตอนนี้มีอันใดบางอย่างแขวนอยู่บนตัวตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ
“ไกรสรอัสนี?”
ไกรสรอัสนีกำลังกัดตรงเสื้อกลางหน้าอกของเขาไม่ปล่อย
ซานซานเบิกตากว้าง
นี่มัน…
พรึ่บ…
เสียงกระพือปีกดังขึ้น
ซานซานเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็เห็นว่าแร้งศักดิ์สิทธิ์สุวรรณกาฬตัวหนึ่งกำลังบินตรงมาทางเขา!
นายท่านไม่ให้เขาลงมือ ซานซานก็ต้องหยิบสมุดบัญชีออกมาปกป้องตัวเองอย่างสุดกำลัง
แต่เขาเพิ่งจะหยิบของสิ่งนั้นออกมา แร้งศักดิ์สิทธิ์สุวรรณกาฬที่เห็นดังนั้นก็โฉบไป
“อ๊าก! อ๊าก! สมุดบัญชีของ…”
พรึ่บ
ซานซานกำลังจะไล่ตามมาด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีของอันใดบางอย่างตกลงมาแล้วกระแทกกับหัวเขา
กลุ่มก้อนที่อ่อนนุ่มและอุ่นร้อน
อีกทั้งเหมือนมันกำลังจะดึงผมเขาอยู่
ซานซานยกมือขึ้นไปคว้าก้อนนั้นไว้
ก้อนสีแดงชาดขนาดเท่าฝ่ามือ กำลังมองเขาด้วยแววตาดำขลับ ในแววตานั้นแฝงไปด้วยความสงสัยและไร้เดียงสา
ผมของเขากำลังพันอยู่ในอุ้งเท้าของมัน
เขารู้สึกปวดหนังศีรษะแปล๊บๆ
“เสือดาวลายเมฆสีชาด?”
ขมับของซานซานเต้นตุบๆ
การเจอหน้าเพียงครั้งแรก แต่สมุดบัญชีของเขาก็ถูกแย่งไป เสื้อผ้าก็ฉีกขาด แม้กระทั่งผมก็ถูกดึง!
นี่มันอันใดกัน?
“ดีมาก! หากมีกองกำลังแบบนี้ประสิทธิภาพในการรบของพวกเราจะต้องสูงขึ้นแน่นอน!”
เสียงละอ่อนของถวนจื่อดังขึ้นมา
ซานซานเงยหน้าไปมอง จากนั้นก็เห็นว่าเงาร่างของคนหลายคนกำลังเดินเข้ามา
คนที่กุมหน้าผากตัวเองด้วยความจนปัญญาคือ ฉู่หลิวเยว่
ส่วนคนที่อยู่ด้านข้าง มีใบหน้าตื่นเต้นยินดี และรัศมีเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้คือ ถวนจื่อ
“กลับมาก่อนเถอะ!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ในที่สุดไกรสรอัสนีที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ปล่อยมือ แร้งศักดิ์สิทธิ์สุวรรณกาฬบินวนอยู่รอบหนึ่งแล้วปล่อยสมุดบัญชีลงมา
ทั้งสองตัวนั้นถอนกำลังอย่างรวดเร็ว แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าถวนจื่อ พร้อมโค้งคำนับด้วยความเคารพ
ถวนจื่อโบกมือเล็กๆ ขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“ก้าวหน้าขึ้นมาก!”
เมื่อได้รับคำชมจากถวนจื่อ สัตว์อสูรทั้งสองตัวนั้นก็ตื่นเต้นยินดี
แม้กระทั่งเสือดาวลายเมฆสีชาดตัวเล็กที่นอนอยู่บนฝ่ามือของซานซานก็มีดวงตาสว่างสดใสขึ้น ก่อนลุกขึ้นยืน
ซานซานรู้สึกมึนงงสับสน
“นายท่าน นี่มันเรื่องอันใด…”
ปู้ด
เสียงที่แปลกประหลาดสายหนึ่งดังขึ้น
ทำให้ซานซานต้องหยุดพูดอย่างกะทันหัน
สีหน้าของเขาแข็งค้าง ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงมอง
กองอุจจาระสดใหม่นอนอยู่กลางฝ่ามือของเขาอย่างเงียบเชียบ
ตอนนี้คนที่มีความผิดติดตัวเหมือนจะตระหนักอันใดขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงหันกลับมามองหน้าเขาด้วยแววตาน่าสงสาร
เหตุการณ์นั้นตกอยู่ในความเงียบ
“คือว่า…อะแฮ่ม ก่อนหน้านี้พวกมันได้รับบาดเจ็บ ข้าจึงได้ให้ยามันไปแล้ว ช่วงนี้ระบบขับถ่ายของมันจึงค่อนข้างดี…”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุก แล้วพูดออกมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ
ซานซานหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นายท่าน?”
เพื่อเจ้าก้อนเล็กๆ ก้อนนี้ นายท่านถึงกับไม่สนใจเขาแล้วอย่างนั้นหรือ?
ฉู่หลิวเยว่จิ้มไปที่หน้าผากเล็กๆ ของถวนจื่อ
“เจ้ายังไม่ไปยอมรับผิดกับซานซานอีก?”
ถวนจื่อเดินขึ้นไปด้านหน้าอย่างเชื่อฟัง สองมือเล็กๆ ประสานกันอยู่ตรงหน้า นางแอ่นพุงออกเล็กน้อย แล้วกล่าวขอโทษว่า
“พี่ซานซาน ข้าขอโทษเจ้าค่ะ! ถวนจื่อผิดไปแล้ว!”
แต่ครั้งหน้าก็ยังจะทำอีก
ความสนุกที่หาได้ยากแบบนี้ นางจะล้มเลิกง่ายๆ ได้อย่างใด?
นางโน้มน้าวใจอยู่นานกว่าฉู่หลิวเยว่จะยอมให้นางเป็นผู้ดูแลเจ้าตัวเล็กๆ เหล่านี้
ถวนจื่อครุ่นคิดภายในใจอย่างเงียบเชียบ
ความสนุกของคนเป็นพี่ใหญ่ คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าใจได้อย่างใด?
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองนางอย่างเงียบเชียบ
ความคิดนี้มัน…
แต่อย่างน้อยซานซานไม่รู้ความคิดตอนนี้ของถวนจื่อ
เดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อันใด และเขาก็ไม่ได้โมโหจริงๆ
ถวนจื่อทำตัวน่ารักมาก เขารู้สึกปวดใจเพราะความน่ารักของนางมาก ไหนเลยจะกล้ากล่าวคำหยาบคาย
“โอ้ ถวนจื่อของพวกเราเชื่อฟังจริงๆ ! ไม่ต้องขอโทษแล้ว! พี่ซานซานไปล้างมือก็สิ้นเรื่องแล้ว! ขอแค่ถวนจื่อมีความสุขก็พอ!”
ถวนจื่อยืดตัวขึ้นมาในทันที ดวงตากลมโตเปล่งประกาย
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่ซานซานดีที่สุด!”
ซานซานมีความสุขกับคำพูดประโยคนั้นจนไม่ได้สังเกตเห็นแววตาที่มีแต่ความเจ้าเล่ห์ของถวนจื่อเลย
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมา
ในเมื่อคนบางคนรนหาที่ตายเองก็จะโทษที่นางไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้
“สือซาน เจ้าไปช่วยพี่สามจัดการเจ้าตัวเล็กเหล่านี้หน่อยสิ”
ฉู่หลิวเยว่หันมามองทางสือซาน
สือซานรีบตอบรับ แล้วเดินเข้ามาอุ้มลูกเสือดาวลายเมฆสีชาดนี้ทันที
“ซานซาน เจ้าไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่พูด
ซานซานดึงสติกลับคืนมา เขาตอบรับหนึ่งเสียง ในตอนที่กำลังจะจากไป เขาก็ชี้มายังสัตว์อสูรเหล่านี้
“นี่คือสัตว์อสูรทั้งหมด… ที่นายท่านพากลับมาด้วยหรือ”
ซานซานมองหน้าเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ
“ไม่ใช่”
“มีมากกว่านี้”
ทันใดนั้นซานซานก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
มีมากกว่านี้?
จะมากขนาดไหน…
ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างหายใจไม่ค่อยออก
“นี่มันคืออันใดกัน?”