ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2049 ขอลองสักตั้ง
ตอนที่ 2049 ขอลองสักตั้ง
………………..
เคร้ง!
เสียงกระทบของโลหะดังสนั่น
ทุกคนกลั้นหายใจ พร้อมจดจ้องตาเขม็ง
ทว่าสีหน้าของเว่ยเจ๋อ กลับเปลี่ยนจากพึงพอใจเป็นในคราแรก สู่ตกใจแลสับสนในทันตา และกลายเป็นเหลือเชื่อในท้ายที่สุด!
ที่ด้านหน้า ง้าวว่านเฟิงยังคงเสียบไว้บนศิลาสีชาด แต่กลับไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว!
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ราวไม่เชื่อในสิ่งที่ปรากฏแก่ครรลองสายตา
จากนั้นเขาก็ออกแรงอีกครั้ง แล้วแทงเข้าไป!
แต่ก็ยังไม่มีอันใดเกิดขึ้น
ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนบนศิลาแผ่นนั้น!
ประตูบานใหญ่นี้… ไม่มีทีท่าจะเปิดออกเลยด้วยซ้ำ!
และเพราะออกแรงอย่างหนัก จึงทำให้มีเลือดไหลออกมาตามง่ามนิ้วทีละนิด
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เว่ยเจ๋อจะมาใส่ใจ
เหตุใดถึงเป็นแบบนี้…
นี่มันบ้าอันใดกัน!?
พลังของง้าวว่านเฟิงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ไหนจะเสียงหึ่งแปลกๆ จากศิลาตรงหน้าที่ดังออกมาเป็นระลอกอีก
แต่แล้ว…
เหตุใดถึงเปิดไม่ออก!
“ประมุขเว่ย เกิดอันใดขึ้นหรือ?”
ยามนี้ทุกคนรอบตัวเขาเริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติ พลางหันมองหน้ากันด้วยความสงสัยใคร่รู้
และห่วงประตูสัมฤทธิ์อันนั้น ก็ยังขยับเคาะอยู่กลางอากาศ!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวใจเว่ยเจ๋อแทบหยุดเต้น สีหน้าพลันซีดเผือด
…นั่นเพราะเขาคิดว่าการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ล้วนเกิดจากน้ำมือของตน แต่สุดท้ายแล้ว… มันกลับไม่ใช่แบบนั้น!
แล้วจากมุมมองของคนดูล่ะ เห็นภาพเหล่านี้แล้ว ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?
“เกิดอันใดขึ้น? ง้าวว่านเฟิงนี้คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ถังเคอหลอมขึ้นมิใช่หรือ? ไยถึงเปิดประตูไม่ได้กัน?”
“เจ้าสิ่งนี้มิน่าใช่ของปลอมกระมัง…”
“เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ สิ่งนี้ย่อมเป็นของจริง แต่ที่เปิดประตูไม่ได้ ก็เรื่องจริงเหมือนกัน”
“เหอะ! พูดพร่ำอยู่นานนับ สุดท้ายก็ไม่เป็นผลรึ? ประมุขเว่ยนี่เก่งแต่ปากจริงๆ…”
ฝูงชนรอบด้านเริ่มซุบซิบนินทากันให้ขวัก
ทุกคำพูดล้วนทะลุเข้าไปในหูของเว่ยเจ๋อ ย่ำยีหัวใจของเขาเสียป่นปี้ สองขมับร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ราวมวลเพลิง ที่กำลังจะพุ่งทะลักออกมาจากทรวงอก!
หัวเราะ! เย้ยหยัน! ดูแคลน!
สายตาที่จ้องมองมานั้น ราวกลับแสงร้อนที่แผดเผาอยู่กลางหลัง
เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติ่ง สมองขาวโพลนโล่งไปหมด ราวจับต้นชนปลายไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่แล้วเหตุใดมันถึง…
ถ้าแม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ถังเคอหลอมเองยังเปิดประตูสุสานไม่ได้ แล้วบนโลกนี้จะมีใคร หรือสิ่งใดที่ทำได้อีก?
“ไม่สิ…”
ซั่งกวนจิ้งขมวดคิ้ว พลางจ้องมองไปข้างหน้า แล้วพึมพำเบาๆ
หลายคนที่อยู่ใกล้เขาต่างหันมามอง
“มีอันใดผิดปกติหรือ?”
ซั่งกวนจริงลูบปลายคางอย่างใช้ความคิด
ครั้นมองดีๆ แล้ว ก็พบว่าดูเหมือนมันจะเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ
“หรือว่า… สุสานถังเคอจะสัมผัสได้ถึงพลังของง้าวว่านเฟิง จึงเกิดอาการเช่นนี้ หากแต่มิอาจใช้เพียงพลังเว่ยเจ๋อ ในการเปิดประตู?”
ใครบางคนเอ่ยราวคาดเดา
ซั่งกวนจิ้งไม่ได้พูดอันใด
เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
และยิ่งเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ความสงสัยนั่นก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
หากง้าวว่านเฟิงสามารถรวบรวมพลังปราณได้ถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดถึงเปิดไม่ออก?
“ประมุขเว่ย หรือเป็นเพราะว่าพลังของเจ้าไม่มากพอ เลยเปิดมันไม่ได้?”
ในที่สุด ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นจากฝูงชน
ซึ่งดูเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟังเท่าไร พูดง่ายๆ ก็คือเว่ยเจ๋อนั้นไร้ความสามารถ
แต่ตอนนี้เว่ยเจ๋อมิอาจเถียงได้
เขายิ้มเยาะออกมาทันที ก่อนจะหันไปมองคนพูด แล้วยื่นง้าวว่านเฟิงในมือไปทางคนผู้นั้น
“ถ้ามั่นใจนัก เหตุใดไม่ลองเองล่ะ?”
ทุกคนต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบสนองเช่นนี้
ชายคนนั้นชะงักไปนิด แล้วหัวเราะเบาๆ
“ประมุขเว่ยนี่ช่างมีอารมณ์ขัน ง้าวว่านเฟิงด้ามนี้คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมันเลือกนายแล้ว ผู้อื่นจักไม่สามารถใช้มันได้ การที่ท่านพูดเช่นนี้ ไม่คิดว่ามันน่าขันเกิน…”
“ง้าวว่านเฟิงยังไม่ได้เลือกนาย!”
ครั้นเว่ยเจ๋อกล่าวเช่นนั้น ทั่วทั้งลานกว้างพลันเงียบกริบ!
เสียงสนทนาทั้งหลายหายวับไปทันตา!
“ยามนี้คนอย่างเว่ยเจ๋อไม่จำเป็นต้องปั้นน้ำเป็นตัว หากผู้ใดไม่เชื่อ ก็ก้าวมาพิสูจน์เองเสีย! ในเมื่อทุกคนคิดว่าเว่ยเจ๋อผู้นี้ไร้น้ำยา เช่นนั้น… ข้าก็มอบสิ่งนี้ให้ทุกคนได้ลองเอง หากใครใช้ง้าวว่านเฟิงนี้เปิดสุสานของถังเคอได้ ข้าจักลั่นวาจา ‘ขอคารวะ’ สักที!”
“หากผู้ใดเก่งกล้า สามารถทำให้ง้าวว่านเฟิงเลือกเป็นนายของมันได้ และเอาสมบัติทั้งหมดในสุสานถังเคอไปได้ ข้าเว่ยเจ๋อผู้นี้ จักยอมรับทุกกรณี!”
ขณะพูดเขาก็โยนสิ่งนั้นออกไปข้างหน้าจริงๆ!
ง้าวว่านเฟิงลอยล่องไปในอากาศ
เส้นแสงเจิดจรัสที่เปล่งออกมาจากทัณฑ์สวรรค์จำนวนมากบนตัวง้าว ยังคงกะพริบเปล่งแสงและปล่อยแรงกดดันออกมาอยู่เรื่อยๆ
หลายคนหันมองหน้ากัน
สิ่งล่อตาล่อใจนี้ ไม่ดูเกินไปหน่อยหรือ!
แต่ทว่า…
ท้ายที่สุดแล้ว เว่ยเจ๋อก็เป็นถึงประมุขตระกูลเว่ย เป็นช่างหลอมอาวุธระดับราชา และยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์อีก
ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ หากมองจากบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ ย่อมถือว่าดีที่สุดอย่างแน่นอน
และถ้าแม้แต่เว่ยเจ๋อยังทำไม่ได้ แล้วในลานนี้ ยังจะมีใครทำได้อีก?
แม้แต่คนที่เอ่ยท้าทายเมื่อครู่ ยังมีแววลังเลเลย
ความเข้มแข็งของเขากับเว่ยเจ๋อไม่ได้ต่างกันนัก หากเสนอหน้าออกไปตอนนี้ แล้วทำไม่ได้ เช่นนั้น… ก็ขายหน้าประชาชีแย่เลยมิใช่หรือ?
เว่ยเจ๋อกวาดตามองไปรอบๆ พลางเย้ยหยันในใจ
เขายืนอยู่ใกล้ที่สุด ดังนั้นจึงรู้ดีที่สุดว่าการเคลื่อนไหวภายใน ไม่ได้เกิดจากง้าวว่านเฟิงเลย!
ไม่ว่าใครจะอาสา… ก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ!
“ฟังแล้วเข้าท่าดีนะ ข้าเองก็อยากลองดูสักตั้ง”