ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2050 ประตูที่เปิดเพื่อเจ้า
………………..
คนทั้งหมดหันไปมองทางต้นเสียง
เจ้าของวาจานั้นคือ ซั่งกวนจิ้ง
เว่ยเจ๋อหัวเราะหึในลำคอ
“ผู้อาวุโสซั่งกวน ท่านคิดดีแล้วหรือ? ท่านเพิ่งบอกไปเองมิใช่หรือ ว่าวันนี้ท่านมาเพื่อร่วมสนุกเท่านั้น?”
ซั่งกวนจิ้งหัวเราะลั่น พลันกล่าวว่า
“แล้วข้าต้องลังเลอันใดล่ะ? ประมุขตระกูลเว่ยยอมเอาง้าวว่านเฟิงออกมาสำแดงเดชทั้งที เช่นนั้นข้าก็ต้องลองมิใช่หรือไร? ถึงจะบอกว่าข้ามาเพื่อร่วมสนุก ไม่ได้จริงจัง แต่ดูเหมือนว่า… ตอนนี้ทุกท่านจะไม่ค่อยสนุกแล้วกระมัง? เช่นนั้น ให้ข้าลงเล่นแทนดีกว่า! อย่างใดเสียทุกท่านก็ไม่อาจอดทนรออยู่ที่นี่ได้ตลอดไป มิใช่หรือ?”
ประโยคนี้ทำเอาเว่ยเจ๋อพูดไม่ออก
“เช่นนั้น… ท่านก็ลองดูแล้วกัน!”
เขาพูดพลางถอยหลังไปสองสามก้าว
ราวกับวางแผนนั่งดูเพียงอย่างเดียว
ตัวซั่งกวนจิ้งเองไม่กลัวเรื่องเสียหน้าอยู่แล้ว และเขายังต้องกังวลอันใดอีก?
“ซั่งกวน ท่านจะไปจริงหรือ?”
หลายคนในบริเวณใกล้เคียงต้องการห้ามปรามเขา แต่ซั่งกวนจิ้งทำเพียงยิ้มรับและส่ายหัว
“กระไรกัน? แม้ประมุขเว่ยจะล้มเหลว แต่ก็ดีไม่ใช่หรือ? ในเมื่อไม่มีอันใดจะเสียแล้ว ลองดูสักตั้งจะเป็นไรไป?”
เมื่อเห็นว่าซั่งกวนจิ้งตัดสินใจแล้ว คนที่เหลือจึงเลิกห้ามเขา
“ถ้าอย่างนั้น… ก็ระวังตัวด้วย”
ซั่งกวนจิ้งยังคงแย้มยิ้ม ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า
คราวนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เขา
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่เขาจะสามารถอัดฉีดพลังปราณของตัวเองเข้าไปได้ หลังจากที่มันเพิ่งผ่านมือ
เว่ยเจ๋อมา
แต่หากมันไม่เลือกนาย สิ่งนี้ก็ไม่อาจปลดปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่
เมื่อได้ยินซั่งกวนจิ้งเอ่ยเช่นนั้น ในใจใครหลายคนก็พากันกระดี้กระด้า
อาวุธศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ และมักจะเลือกนายของมันเอง
หากไม่ได้รับโอกาสนั้น แม้จะถือสิ่งนี้มานานหลายสิบปีหรือหลายร้อยปี ก็ไม่มีประโยชน์อันใด
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือของเขา ยามนี้ยังไม่อาจเผยพลังที่แท้จริงออกมาได้
ไม่แปลกเลยที่เว่ยเจ๋อจะมาดมั่น และยอมปล่อยมันให้คนอื่นถือครองเช่นนี้
แต่ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว เหมือนว่าง้าวว่านเฟิงเองก็ยังไม่ยอมรับซั่งกวนจิ้งเป็นนายเช่นกัน
เว่ยเจ๋อหลับตาลง หัวใจที่เต้นระรัวด้วยความกังวล ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
จะบอกว่าไม่กังวล ก็คงไม่ได้
หลังจากที่เขาได้รับง้าวว่านเฟิงมา ก็ยังไม่เคยได้รับการยอมรับจากมันเลย ใจดวงนี้เจ็บช้ำมาแล้วนักต่อนัก
เสมือนคอยปกป้องกองเงินกองทอง แต่ไม่อาจหยิบใช้ได้แม้แต่สตางค์เดียว
ความรู้สึกนี้ ช่างน่าอึดอัดยิ่งนัก
การขว้างง้าวว่านเฟิงออกไปเมื่อครู่นี้ ล้วนเกิดจากความโกรธเคือง
ทว่ายามนี้ ใจที่ร้อนรุ่มนั้น สงบลงมากแล้ว แต่ก็ยังแอบเสียดายอยู่เนืองนิด
ตอนนี้เขาขอแค่ อย่ามีใครทำให้ง้าวว่านเฟิงยอมรับเป็นนายของมันได้เลย…
ซั่งกวนจิ้งมองไปที่ง้าวว่านเฟิงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระชับมันไว้ในมือ
เขาเงยหน้ามองตรง สีหน้าสงบนิ่ง พลางเริ่มมระดมพลังปราณดั้งเดิมในกาย!
แล้ว… แทงมันออกไป!
หากแต่ทุกสิ่งตรงหน้าเขายังคงนิ่งเฉย
เหมือนที่เกิดกับเว่ยเจ๋อเมื่อครู่ก่อนทุกประการ!
ซั่งกวนจิ้งขมวดคิ้วแล้วหยุดมือทันที
ยามนี้เขาสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
… การเคลื่อนไหวภายในไม่ได้เกิดจากง้าวว่านเฟิง!
สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้ใช้วิธีใด ก็ไม่สามารถเปิดได้
เว่ยเจ๋อกอดอกหัวเราะร่า
“ผู้อาวุโสซั่งกวน หลังจากมั่นใจลองสักคราแล้ว ท่านรู้สึกอย่างใดบ้าง? ข้าว่า… นี่ไม่ต่างจากข้าเมื่อครู่ก่อนเลยนา?”
ซั่งกวนจิ้งไม่สนใจคำดูถูกถากถางนั่น
ถ้าสุสานของถังเคอเปิดง่ายสิ ถึงแปลก
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้กุญแจสำคัญในการเปิดประตู ไม่ได้อยู่ที่ง้าวว่านเฟิงแล้ว
แล้วจะให้เขาไปถกเถียงด้วยเหตุใด?
“ง้าวว่านเฟิงนี้ ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญในการเปิดสุสานถังเคอ”
ซั่งกวนจิ้งขว้างง้าวว่านเฟิงออกไปอย่างไม่ใยดี แล้วพูดต่อ
เว่ยเจ๋อคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเผยความลับออกมาโต้งๆ เช่นนี้ ในใจเขาบันดาลโทสะขึ้นมาแวบหนึ่ง
แต่พอคิดดีๆ แล้ว เขาก็อาจซ่อนความจริงนี้ได้อยู่แล้ว และยังต้องห่วงอันใดอีก
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
“ผู้อาวุโสซั่งกวนหมายความว่าอย่างใด?”
ใครบางคนถามขึ้น
“ง้าวว่านเฟิงนี้ คือสมบัติชั้นยอดที่ถังเคอสร้างสรรค์ขึ้นมากับมือในยุคนั้น! มันจะไร้ค่าได้อย่างใด? ถ้าใช้มันแล้วยังไม่ได้ผลเช่นนั้น…”
พวกเขาก็หมดหวังแล้วจริงๆ
ในใจของเขาพลันกระตุกวูบ ยามเห็นลายอักขระบนนั้นแล้ว รู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยจางๆ
ราวกับ… เคยเห็นมันที่ไหน?
เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า
ลูกเพลิงสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้ง! ซั่งกวนจิ้งจะถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวเพลิงในทันที!
“ระวัง!”
ไม่มีใครคิดว่าซั่งกวนจิ้งจะพุ่งตัวออกไปเช่นนั้น
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เขาได้รับบทเรียนมาเยอะ หากหุนหันพลันแล่นพุ่งเข้าไปใกล้ คงถูกโจมตีแน่นอน!
ซั่งกวนจิ้งตอบสนองอย่างเร็ว
คราวนี้เขาเห็นชัดเลยว่าเปลวเพลิงนั้นพุ่งออกมาจากห่วงเคาะประตูสัมฤทธิ์!
สีหน้าของเขาพลันเคร่งเครียดขึ้นทันตา ก่อนจะวางค่ายกลรอบตัวอย่างไว!
แต่ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าพลังในกายเองก็จะได้รับผลกระทบจากเปลวเพลิงเช่นกัน ปราณในกายเขาเดือดดาลพุ่งพล่านจนแทบจะระเบิดออกมา!
อุณหภูมิในกายเห่อร้อน แผดเผาอย่างรวดเร็ว!
ฟู่!
ทันใดนั้นมีลูกเพลิงระเบิดออกมาจากไหล่ซ้ายของเขา!
ซั่งกวนจิ้งเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี!
นี่เป็นสัญญาณว่าร่างกายเขากำลังจะระเบิด!
แต่แล้วก็มีเปลวไฟสีทองพุ่งทะยานเข้ามาล้อมรอบเขาไว้!
เปลวเพลิงสีแดงเหล่านั้นถูกกลืนหายไปในทันที!
“ใครกัน!?”
เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว เหล่าฝูงชนพลันหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง!
แต่กลับเห็นเพียงร่างโปร่งของใครบางคนที่พุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ!
ฉู่หลิวเยว่ที่มือข้างหนึ่งจับแขนองค์ไท่จู่ไว้เพื่อเตรียมหนี!
ทว่าทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างจ้าขึ้นบนห่วงเคาะประตูสัมฤทธิ์!