ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2052 มาดูเสียหน่อย
ตอนที่ 2052 มาดูเสียหน่อย
………………..
เมื่อเห็นประตูบานนั้นค่อยๆ เปิดออก ทุกคนต่างตกตะลึงอึ้งค้างอยู่กับที่
“ปะ เปิดออกแล้ว!?”
ในบรรดาฝูงชนที่เงียบกริบ ใครคนหนึ่งก็มิอาจทราบได้พึมพำอย่างไม่เชื่อสายตาตน
เว่ยเจ๋อถึงกับต้องหลับตาปี๋แล้วลืมตาขึ้นมาอีกรอบ ด้วยกลัวว่าตนมองผิดไป
ประตูบานนั้นยังคงกำลังแง้มออกทีละน้อย!
แสงสีขาวสายหนึ่งเล็ดลอดออกมาปกคลุม จนผู้ใดก็มิอาจมองเห็นหลังบานประตูได้ชัดเจนว่าเป็นอย่างใดกันแน่
แต่… มันเปิดออกแล้วจริงๆ!
ก่อนหน้านี้มีคนตายไปมากมาย ประตูก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ บัดนี้เพียงถูกฉู่หลิวเยว่เคาะเบาๆ ก็เปิดออกอย่างง่ายดาย!
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าก้าวไปด้านหน้าทันที
พริบตาต่อมา เงาร่างของนางก็หายลับไปในประตู!
ฝ่าเท้าของหรงซิวแม้นดูไม่เร็วไม่ช้า แต่ความจริงแล้วกลับว่องไวปราดเปรียวอย่างยิ่ง
เขาเงื้อมือขึ้น ง้าวว่านเฟิงที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศอย่างเงียบเชียบพลันถลาเข้าไปหา!
จากนั้น เขาก็เข้าประชิดข้างตัวซั่งกวนจิ้ง
“ผู้อาวุโสซั่งกวน พวกเราเองก็รีบตามไปกันเถอะ”
หรงซิวหลุดเสียงหัวเราะแผ่วเบาออกมาคำรบหนึ่ง
ซั่งกวนจิ้งได้สติกลับมาทันควัน
จริงด้วย!
เยว่เออร์แม่หนูนั่นเข้าไปข้างในแล้วหนา!
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ในทันใด ก่อนเดินก้าวไปข้างหน้า
เมื่อครู่ความสนใจของผู้คนล้วนตกอยู่ที่หรงซิวและฉู่หลิวเยว่ ส่วนคนทั้งสองชำนิชำนาญการปกปิดตัวตนและลมปราณมาแต่ไหนแต่ไร พวกเขาจึงเหมือนมนุษย์ล่องหนไปโดยปริยาย
จนกระทั่งตอนนี้ ยามพวกเขาที่ติดตามโดยไม่คลาดฝีเท้าเข้าไปในประตู บรรดาฝูงชนจึงเพิ่งตระหนักได้ว่าสองคนนี้เองก็ไม่ธรรมดา!
ยามเงาร่างของพวกเขาทยอยลับหายไป บรรดาฝูงชนที่จับตามองอยู่ด้านนอกยังคงจมติดอยู่ในห้วงอารมณ์ตื่นตะลึง
เป็นเว่ยเจ๋อที่มีปฏิกิริยาก่อนใครเพื่อน
“ง้าวว่านเฟิง!”
ของสิ่งนั้นเพิ่งถูกหรงซิวฉวยเอาไปง่ายๆ เลยเมื่อครู่!
แต่นั่นเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์เลยหนา!
เป็นสมบัติล้ำค่าที่เขาได้รับมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ!
“มัวแต่ยืนนิ่งเหตุใด ยังไม่รีบตามไปอีก!”
เว่ยเจ๋อแผดเสียงด้วยความโกรธขึ้ง ก่อนทะยานตัวพุ่งออกไปข้างหน้าในทันใด!
ใช้เวลาพริบตาเดียว เงาร่างของเขาเองก็เลือนหายเข้าไปหลังบานประตูเช่นกัน
คนตระกูลเว่ยได้ยินดังนั้นก็ทยอยได้สติ เมื่อเห็นว่าเว่ยเจ๋อมุ่งไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้วก็ไม่ใส่ใจอย่างอื่นอีก รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นเองผู้อื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตระหนักได้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นในที่สุด ก่อนจะต่างแย่งกันกรูไปทางประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย!
ไม่ง่ายเลยกว่าจะเปิดสุสานของถังเคอได้ เหตุใดจะไม่คว้าโอกาสเอาไว้เล่า
จะได้รับพลังสืบทอดและพัฒนาก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งหรือไม่ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับวันนี้ทั้งสิ้น!
ในไม่ช้า บรรดาฝูงชนในที่แห่งนั้นก็กรูกันเข้าไปด้านใน
ภายในป่าศิลาจึงกลับมาเงียบสงัดอีกคราหนึ่ง
มีเพียงร่างไร้วิญญาณที่นอนทับเรียงรายและคราบเลือดเจิ่งนองบนพื้นที่พิสูจน์ได้ว่าเมื่อครู่เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นที่นี่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จู่ๆ ร่างของคนเหล่านั้นก็เริ่มเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว
ในชั่วเวลาเพียงจิบชาหนึ่งจอกก็หลงเหลือเพียงซากกระดูก
ยามสายลมพัดผ่าน ซากกระดูกเหล่านั้นก็สลายป่นปี้เป็นขี้เถ้าในพริบตา ก่อนจะปลิวหายไปตามลม
ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น
…
แสงสีขาวเจิดจ้าแสบตาเลือนหายไปในไม่ช้า ภาพตรงหน้าค่อยๆ แจ่มชัดขึ้น
มันเป็นทางเดินสายหนึ่งที่ถูกถางทางยาวลงไปด้านล่าง
ทางเดินที่ว่าเล็กแคบถึงขั้นพอให้เดินขนาบกันได้แค่สองคนเท่านั้น
บนผนังทั้งสองฟากซ้ายขวา จะมีประทีปไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นแขวนเอาไว้เป็นระยะ
ภายใต้แสงสว่างที่สาดส่องลงมารางๆ ทำให้มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนราวกับเป็นเวลากลางวันก็มิปาน
ในขณะนั้นเอง ตัวฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด สองเท้าจึงเหยียบอยู่บนบันไดขั้นแรก
นางอาศัยแสงสว่างที่ว่ามองลงไปข้างล่าง ทว่ากลับมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
ราวกับ… มันยืดขยายออกไปจนถึงใต้ดินอย่างใดอย่างนั้น!
ฉู่หลิวเยว่เพิ่มความระแวดระวังตัวจนถึงขีดสุด ทั้งยังหยิบกระบี่ชื่อเซียวออกมาถือไว้ในมือให้มั่นถึงจะเริ่มมุ่งเดินลงไป
ซั่งกวนจิ้งเดินตามหลังนาง เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบได้ชัดเจน แม้แต่เขาเองก็พรูลมหายใจหนาวเหน็บออกมาอย่างอดไม่ได้
“ผนังนี่มันแกะสลักมาจากหยกไพฑูรย์เลยหนา!“
สิ่งที่เรียกว่าหยกไพฑูรย์เป็นหินหยกล้ำค่าประเภทหนึ่ง มีเนื้อสัมผัสแข็งทนทาน เป็นวัสดุในการหลอมสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอด
หากใช้หยกไพฑูรย์ในการหลอมอาวุธ อัตราสำเร็จย่อมพุ่งขึ้นอย่างมาก
ดังนั้น หยกไพฑูรย์จึงเป็นสิ่งที่ช่างหลอมอาวุธต่างให้ความสำคัญและชื่นชอบยิ่งนัก
เพียงแต่ของสิ่งนี้กำเนิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ปริมาณมีจำกัด ทั้งยังหาพบได้ยากยิ่ง
นี่จึงทำให้หยกไพฑูรย์กลายเป็นสิ่งที่พบเจอได้ด้วยดวง หาใช่เพราะการสืบหาไม่
แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่มองออกว่านี่คือหยกไพฑูรย์
ในบรรดาอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อที่องค์ไท่จู่มอบให้นาง มีกระบี่สั้นเล่มหนึ่งที่ใช้ของสิ่งนี้ตีหลอมขึ้นมา
แต่ในครานี้ ผนังทั้งสองด้านล้วนใช้หยกไพฑูรย์ทั้งก้อนสลักขึ้นมา!
มิแปลกใจแล้วว่าเหตุใดองค์ไท่จู่ถึงได้ตกตะลึงปานนี้
“เหมือนว่าที่นี่จะเป็นสุสานของถังเคอจริงๆ! นอกจากเขาแล้ว ใต้หล้ายังมีผู้ใดมีฝีไม้ลายมือเช่นนี้อีก?“
องค์ไท่จู่ถอนหายใจยาวเหยียด เขาตวัดสายตามองเงาร่างเบื้องหน้าด้วยสายตาสลักซับซ้อนและปลดปลง
ก่อนหน้านี้ที่คนมากมายปานนั้นลองลงมือ ล้วนแต่ต้องพบกับความล้มเหลวทั้งสิ้น
แต่ทันทีที่แม่หนูนี่มาถึง ก็เปิดประตูออกได้เสียอย่างนั้น…
เรื่องเช่นนี้ มีเพียงแค่คำว่า “ฟ้าลิขิต” สองคำที่จะอธิบายได้!
แม้เขาจะรู้แต่แรกแล้วว่าแม่หนูนี่โชคดีมาแต่ไหนแต่ไร แต่ทุกครั้งก็ยังคงตกใจกับเรื่องพวกนี้ที่เกิดขึ้นกับนางอยู่ดี
ความโชคดีเช่นนี้ช่างชวนให้ผู้อื่นอดอิจฉาริษยาขึ้นมาไม่ได้เสียจริง
เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังแว่วขึ้นมาจากด้านหลัง เป็นพวกหรงซิวที่ตามมานั่นเอง
ซั่งกวนจิ้งก้าวเดินพลางเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
“แม่หนูเยว่เออร์ พวกเจ้ามาได้อย่างใดกัน”
ตอนที่เขาบอกจะมาที่นี่ก่อนหน้านี้ นางดูเหมือนไม่ได้อยากมาเลยด้วยซ้ำ
หากรู้ว่าพวกนางจะมา เขาคงพาพวกนางมาด้วยกันแล้ว
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยแกมหัวเราะเสียงเบา
“เดิมไม่ได้คิดจะมาจริงๆ แต่ภายหลังได้รู้เรื่องราวบางอย่าง ดังนั้นก็เลย… คิดว่าจะมาดูเสียหน่อย”
………………..