ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2055 ถังเคอ
ตอนที่ 2055 ถังเคอ
………………..
มือหนึ่งนางกำกระบี่ชื่อเซียว อีกมือหนึ่งจูงถวนจื่อมุ่งหน้าไปยังตรงกลาง
สายตาของหรงซิวเหลือบขึ้นจ้องมองนาง นัยน์ตาทอประกายลึกล้ำ ภายในแววตาดุจมีคลื่นก่อตัวขึ้นมาทีละน้อย แต่พริบตาก็สลายไปอย่างรวดเร็ว
ยิ่งเข้าไปใกล้ตรงกลางมากเท่าไร ฉู่หลิวเยว่ก็พบว่าแรงกดดันที่ต้องแบกรับก็ยิ่งทวีความแจ่มชัด
ทว่านางก็มิได้รู้สึกถึงจิตสังหารอันตรายจากมันแต่อย่างใด
พื้นที่ว่างนี้ใหญ่โตมาก ฉู่หลิวเยว่ย่างก้าวค่อนข้างระมัดระวัง ใช้เวลาครู่หนึ่งจึงจะไปถึงบริเวณใจกลางในที่สุด
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ฉู่หลิวเยว่ถึงได้พบว่าตำแหน่งใจกลางสุดมีลวดลายอันใดบางอย่างสลักไว้อยู่บนพื้น
เพียงแต่คงเพราะผ่านมาเนิ่นนานหลายปี มันจึงพร่าเลือนไม่คมชัด ยากจะแยกแยะออกได้
แต่จู่ๆ ฟากถวนจื่อกลับนัยน์ตาสว่างเรืองรองขึ้นมา วิ่งตะบึงเข้าไปด้วยใจเบิกบานยิ่ง
ฉู่หลิวเยว่ดึงรั้งนางเอาไว้
“ถวนจื่อ เจ้ารู้ใช่รือไม่… ว่าสิ่งนั้นคืออันใด?”
ถวนจื่อกะพริบตาปริบๆ ก่อนส่ายศีรษะ
“ไม่รู้เจ้าค่ะ!”
ฉู่หลิวเยว่ “… ไม่รู้แล้วจะไปทั้งอย่างนี้?”
“ใช่แล้ว!”
ถวนจื่อเอียงศีรษะ คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง
“…ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น แต่ยังไงก็อยากไปมากๆ อยู่ดี!”
ฉู่หลิวเยว่มองนาง ความคิดในหัวพลันแล่นพล่าน
ทำให้ถวนจื่อมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้ มันคือ…สิ่งใดกันแน่?
“อาเยว่ๆ ท่านวางใจเถอะ! ข้าสัมผัสได้ว่าด้านบนนั้นไม่อันตราย! ท่านให้ข้าไปเถอะนะ!”
“รู้แล้ว ไปก็ไป”
สัญชาตญาณของถวนจื่อแม่นยำมาแต่ไหนแต่ไร ในเมื่อนางพูดขนาดนี้แล้ว เช่นนั้น… คงไม่มีปัญหาอันใด
“รู้อยู่แล้วว่าอาเยว่ดีที่สุด!”
ถวนจื่อพลันฉีกยิ้มตาหยีอย่างสุขใจ ก่อนถูไถไปมาบนหน้าตักของนาง
ฉู่หลิวเยว่คว้ามือของนางไว้ ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าในที่สุด!
ตอนที่เท้าของนางเหยียบลงบนลายสลักรูปนั้น เสียงอื้ออึงคล้ายมีคล้ายไม่มีก่อนหน้าก็ดังสนั่นหวั่นไหวประหนึ่งอัสนีบาตฟาดผ่าลงมา!
หึ่ง!
แสงสว่างจ้าสายหนึ่งพลันสาดส่องขึ้นมาใต้เท้าของนาง!
ฉู่หลิวเยว่เอามือปิดตาโดยไม่รู้ตัว
“ตูม ตูม ตูม”!
จากนั้นก็มีอันใดบางอย่างพวยพุ่งขึ้นมาจากตรงกลาง!
ลมปราณเย็นเยียบเสียดแทงดุจคมดาบแหลมปลาบทะยานวนรอบกายนาง ก่อนจะซึมหายเข้าไปในร่างของนาง!
หลั่งไหลโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะค่อยๆ สงบลง
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้รางๆ ว่าบริเวณโดยรอบราวกับมีแสงสว่างทอประกายระยิบระยับ
นางตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนเอามือลง กวาดตามองไปรอบสี่ทิศ
ในตอนที่เห็นทัศนียภาพเบื้องหน้าได้แจ่มชัด กระทั่งตัวนางยังต้องเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ด้วยรู้สึกตะลึงงันอย่างยิ่ง ยืนตาค้างอยู่กับที่ทั้งแบบนั้น
ส่วนผู้อื่นในเหตุการณ์เองก็ล้วนตกตะลึงอยู่กับที่ ยามมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เผยสู่สายตาต่างพูดอันใดไม่ออกกันทั่วถ้วน
ณ พื้นที่ว่างขนาดใหญ่โอ่อ่า ลำแสงเส้นแล้วเส้นเล่าทยอยมารวมตัวทับซ้อนกันจนแน่นขนัด
สิ่งที่ปรากฏสู่ครรลองสายตาราวกับนภสินธุ์ทอประกายระยิบระยับจนทำเอาดวงตาพร่าเลือนกันเป็นแถบ
ยิ่งไปกว่านั้นลำแสงพวกนี้…
พวกมันเหมือนกับสายน้ำที่ไหลเอื่อย ทั้งยังทอแสงสว่างเจิดจ้า ยิ่งใหญ่หากแต่ก็มีความใสบริสุทธิ์!
ในพริบตานั้นเอง ก็ราวกับเวลาหยุดเคลื่อนไหวในทันใด
ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่ออยู่ต่อหน้ากระแสพลังมหาศาลอันน่าหวาดหวั่นล้วนหดเล็กกระจ้อยลงไปทันใด
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองอย่างเหม่อลอย
พวกนี้ทั้งหมด… เป็นสิ่งที่พุ่งออกมาจากใต้เท้านางเมื่อครู่อย่างนั้นหรือ?
ถวนจื่อร้องเสียงแหลมออกมาอย่างตื่นเต้น
“อ๊ะ… ดีจังเลย! ข้าว่าแล้วเชียว! ข้าว่าแล้วเชียว!”
นางปล่อยมือฉู่หลิวเยว่ วิ่งพุ่งผ่านเข้าไปท่ามกลางทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนราวกับคนเบิกบานใจก็มิปาน
นางเหมือนปลาที่แหวกว่ายอย่างอิสระอยู่ในผืนน้ำ ทั้งยังเหมือนเปลวเพลิงที่ลุกโหมไหวไปตามลม
สุ้มเสียงกระจ่างใสน่าเอ็นดูได้ยินชัดเป็นพิเศษยามอยู่ภายในพื้นที่ว่างอันแสนเงียบเชียบ
ยามนางผ่านไปที่ใด พลังของทัณฑ์สวรรค์ดุจอสรพิษสีเงินที่ปรี่พุ่งเข้าสู่ร่างของนางอย่างรวดเร็ว
ลมปราณบนร่างของนางเองก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ!
ฉู่หลิวเยว่มองดูฉากนี้ จากนั้นพลันกระจ่าง
มิน่าเล่า…
มิน่าถวนจื่อถึงได้กระตือรือร้นปานนี้ ที่แท้นางก็สัมผัสได้แต่แรกแล้วนี่เองว่าข้างใต้นี้มีทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนฝังซ่อนอยู่!
ที่เขาหมื่นเมรัยครั้งก่อนนางก็มีท่าทีเช่นนี้ จัดการกักเก็บพลังของทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในน้ำพุเอาไว้มหาศาลเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนเต็ม
และเหตุการณ์ครั้งนั้นเอง ก็ทำให้ถวนจื่อบุกทะลวงขีดจำกัดสูงสุด กลายร่างเป็นหงส์ทองคำได้สำเร็จ!
ภาพฉากนี้แม้ชวนให้รู้สึกคุ้นเคย แต่กลับไม่เหมือนเสียทีเดียว
เพราะว่า…
พลังทัณฑ์สวรรค์ที่กักเก็บอยู่ในตาน้ำพุเขาหมื่นเมรัย พอมาเทียบกับที่นี่แล้ว ก็เป็นแค่น้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรเท่านั้น!
ฉู่หลิวเยว่พลันเข้าใจในอันใดบางอย่าง นางก้มศีรษะมองต่ำ
พื้นดินใต้เท้าฟื้นฟูกลับอยู่ในสภาพเดิมเรียบร้อย
ส่วนลวดลายสลักด้านบนเองก็เลือนหายไปแล้วเช่นกัน
นางกระจ่างแจ้งในบัดดล
นั่นมัน… ผนึกอย่างนั้นหรือ!?
ในตอนนั้น บรรดาฝูงชนเองก็ทยอยได้สติกลับคืนมาในที่สุด
“เหตุใด… ที่นี่ถึงได้มีทัณฑ์สวรรค์เยอะขนาดนี้?”
“บางทีอาจเป็นของที่ผู้อาวุโสถังเคอหลงเหลือเอาไว้?”
“เป็นไปได้… อย่างใดเสียเขาก็เป็นช่างหลอมอาวุธระดับสูงสุดในปีนั้น สามารถดึงดูดพลังของทัณฑ์สวรรค์มาได้ ย่อมแข็งแกร่งมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว…”
”ถ้าหากได้ตีหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ก็สบายแล้วไม่ใช่หรือไร หรือว่ามรดกของผู้อาวุโสถังเคอก็คือที่นี่?“
สุ้มเสียงหลากหลายรูปแบบทยอยดังแว่วขึ้นมา
เริ่มแรกสุดสีหน้าของคนจำนวนมากเป็นงุนงงตกใจ ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นและคาดหวัง
ถึงขนาดมีคนจำนวนไม่น้อยที่ก่อเรื่องด้วยอยู่ไม่สุข
เว่ยเจ๋อยื่นมือออกไปอย่างอดไม่อยู่ หมายจะเอื้อมมือไปหาทัณฑ์สวรรค์เส้นหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเองมากที่สุด
เปรี๊ยะ!
ความรู้สึกเจ็บแลปวดแสบปวดร้อนแล่นปราดขึ้นมาจากฝ่ามือ!
เว่ยเจ๋อร้องอย่างเจ็บปวดก่อนรีบชักมือกลับ แต่บนมือก็ยังคงทิ้งรอยแผลอันน่าตกใจเอาไว้
เขาโมโหระคนตกใจ ทั้งยังบังเกิดความหวาดกลัวสุดลึกล้ำ สีหน้ายามหันมองไปทางทัณฑ์สวรรค์อีกรอบแตกต่างจากก่อนหน้านี้มากนัก
บรรดาผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างหันมามองพร้อมกัน
ซั่งกวนจิ้งแค่นหัวเราะคราหนึ่ง
กลุ่มคนต่างพากันระเบิดหัวเราะออกมา
เว่ยเจ๋อหน้าแดงหน้าดำสลับกันน่าดูชม ทว่ากลับพูดอันใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ครั้งนี้เป็นเขาที่ประมาทเกินไป พอเห็นถวนจื่อวิ่งร่าไปฝั่งโน้นอย่างสนุกสนานก็อดใจไม่ไหว ยื่นมือออกไปทั้งแบบนั้น
ทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้ที่กระจายเต็มทั่วโถงพื้นที่ว่างร่อนเร่ไปมาอย่างเชื่องช้า ทั้งยังหลบหลีกบรรดาฝูงชนด้วยตัวของมันเอง
แต่ถ้าหากมีคนไปแตะมันก่อน พวกมันก็ไม่หลบเลี่ยงแต่อย่างใด
เว่ยเจ๋อเห็นเพียงว่าลมปราณของถวนจื่อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงลืมสนิทว่านางเป็นหงส์ทองคำ คนธรรมดาย่อมมิอาจเทียบเคียงได้
เขากัดฟันกรอดพลางกล่าวว่า
ข้าทำไม่ได้ แล้วทุกท่านที่อยู่ที่นี่จะมีสักกี่คนที่ทำได้? พลังทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้เยี่ยมยอดมากก็จริง แต่…สุดท้ายแล้วหากทำได้แค่มองมันก็เท่านั้น!“
ทันทีที่กล่าวคำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มบนดวงหน้าของคนจำนวนมากพลันจางลง
นั่นสิ!
หากทำได้แค่มอง แต่ใช้การไม่ได้ เช่นนั้นไม่เท่ากับว่ามาเสียเที่ยวหรือ?
ในตอนนั้นเอง สุ้มเสียงทุ้มเข้มที่แฝงแววเจนโลกของบุรุษพลันดังขึ้น
“ทัณฑ์สวรรค์พวกนี้ทิ้งเอาไว้ให้พวกเจ้าใช้จริงๆ นั่นล่ะ”
ฉู่หลิวเยว่พลันเหลือบสายตาขึ้นไปมองทันที!
เสียงนี้ดังออกมาจากหลังประตูสำริด!
แต่ชั่วขณะนั้นกลับแยกได้ยากนักว่าดังออกมาจากประตูบานใดกันแน่
ฉู่หลิวเยว่กล่าวด้วยสุรเสียงก้องกังวาน
“ข้าน้อยซั่งกวนเยว่ ขอบังอาจถามชื่อเสียงเรียงนามของผู้อาวุโส?”
สุ้มเสียงนั้นหัวเราะร่า
“พวกเจ้าบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของข้า ยังต้องถามอีกรึว่าตัวข้าคือใคร?“
นัยน์ตาของฉู่หลิวเยว่พลันหดเล็กลง
ถังเคอ!