ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2060 เงียบเสียงกันให้หมด อย่ากวนสมาธินาง
ตอนที่ 2060 เงียบเสียงกันให้หมด อย่ากวนสมาธินาง
………………..
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือในอาณาจักรเสิ่นซวี่ว่า หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิบสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ได้ตกอยู่ในมือของฉู่หลิว
และด้วยเหตุดังกล่าว ส่งผลให้เหล่าตระกูลขุนนางจำนวนมากพากันยกโขยงเข้าไปในเมืองฝางโจว และแทบจะบุกเข้าไปในสำนักหลิงเซียวอยู่แล้ว
ถือเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมกันในช่วงนั้น
ทว่าผู้ที่ได้เห็นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยเนื้อตาตนเองจริงๆ นั้นมีเพียงไม่กี่คน
และยามนี้จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็นำมันออกมาให้เฉยชมเป็นขวัญตา หลายคนจึงหันมาสนใจกันให้ขวัก
หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เผยเด่นชัดแก่สายตา พร้อมเพลิงแห่งกรรมที่ลุกไหม้อยู่ภายในอย่างเงียบๆ
แรงกดดันอันหนักหน่วงพวยพุ่งออกมาเป็นระลอก!
“นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้าสิ่งนี้”
ถังเคอพลันถอนหายใจยาวพรืด ราวดำดิ่งสู่ก้นบึ้งของจิตใจ
“เจ้ากับมัน ต่างมีวาสนาต่อกัน”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มบาง
“ถือเป็นโชคของผู้น้อยเจ้าค่ะ”
ถังเคอเงียบไปพักหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่ใจกระตุบวูบ
ไม่รู้เพราะอะไร แต่นางแอบรู้สึกว่าเหมือนถังเคอจะสนใจหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ใบนี้ มากกว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เขาหลอมขึ้นมาเองเสียอีก
หรงซิวเองก็อยู่ที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าง้าวว่านเฟิงอยู่กับหรงซิว
ทว่า ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ถังเคอกลับมิได้เอื้อนเอ่ยอันใดออกมาสักคำ
แตกต่างจากตอนที่นางอัญเชิญหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ออกมา ถังเคอก็…
นางหลุบตาลงต่ำพลางระงับข้อสงสัยในใจ
สายตาจากทั่วสารทิศพลันจับจ้องมาที่นาง
อย่างไรเสียหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเองก็ใคร่รู้ในอิทธิฤทธิ์ของมันเช่นกัน
“ได้ยินว่า หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์นั่นมีไว้กลั่นโอสถ แต่คราวนี้ต้องแข่งกันอัญเชิญทัณฑ์สวรรค์ หากนางอยากชนะล่ะก็ จะต้องงัดกลเม็ดและความแข็งแกร่งด้านช่างหลอมอาวุธ มากระตุ้นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เสีย! สิ่งนี้กับการกลั่นโอสถ เรียกได้ว่าคนละเรื่องกันเลย…”
“ถูกต้อง! ข้าว่าสุดท้ายแล้ว แม้แต่พลังพื้นฐานของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ใบนี้ นางคงเรียกออกมาไม่ได้หรอกกระมัง?”
“หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในมือนางเช่นนี้ น่าเสียดายยิ่งนัก…”
ตุบ!
พลันมีเสียงหนึ่งดังสะเทือนเลือนลั่นขึ้นมา!
ทุกคนล้วนตกใจแล้วหันไปมองต้นเสียง
เป็นหรงซิวที่นำง้าวว่านเฟิงออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะแทงมันลงไปบนพื้น!
ปลายง้าวว่านเฟิงยังคงสั่นไหวเบาๆ เนื่องจากแรงอัดของพลังปราณที่ยังมิจากหาย!
พสุธาอันแข็งกร้าวแตกระแหงออกเป็นเส้นริ้วมากมาย โดยมีง้าวว่านเฟิงปักอยู่ตรงกลาง!
ต้องรู้ว่าตอนที่ทัณฑ์สวรรค์รับไม่ถ้วนถูกกระตุ้นออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทิ้งรอยแตกร้าวไว้บนดินเช่นนี้เลย
ทว่าแค่หรงซิวลงมือฉับพลัน กลับทิ้งร่องรอยที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงไว้ให้ยล!
“เท่าที่ข้ารู้คือ เหล่าผู้คน ณ ที่แห่งนี้ ล้วนมิได้ถือครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์สักคน ในเมื่อเสียเปรียบแล้วก้าวหนึ่ง ก็ไม่รู้จะงัดข้อเช่นไร ขอเพียงรอให้คนอื่นพลาดท่า แล้วโฉบฉวยเอาผลลัพธ์ตรงหน้าก็พอ…แต่ว่านะ ใต้หล้านี้จะมีเรื่องดีๆ เช่นนั้นด้วยหรือ?”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ดวงหน้างามของบุรุษยกยิ้มบางเบา ทว่าดวงตากลับแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเหยียดหยาม
ประโยคนั้นมิได้เอ่ยสาปส่งผู้ใด แต่กลับทำให้คนฟังหลายคนหน้าเห่อร้อนด้วยความละอาย
หรงซิวผู้นี้มีชื่อเสียงเรียงนามกระฉ่อนไปทั่วอาณาจักรเสิ่นซวี่ ต่างจากฉู่หลิวเยว่ที่เพิ่งมาตั้งหลักปักฐานที่นี่
นานาตระกูลผู้ดีชั้นสูง รวมถึงสำนักต่างๆ ล้วนมักจะระวังคำพูดยามอยู่ต่อหน้าเขา
หากพบเจอกันก็ต้องให้เกียรติถึงที่สุด
ไม่ทำก็ไม่ได้ นั่นเพราะชายผู้นี้ ร้ายกาจเกินใคร!
ตอนนี้เขาลงมือแล้ว ก็ถือเป็นการเตือนกลายๆ!
“เยว่เออร์จะเริ่มการแข่งขันแล้ว รบกวนทุกท่านเงียบเสียงลงเสีย อย่าได้กวนสมาธินาง”
หรงซิวพูดนิ่งๆ ราวคร้านจะเอ่ย ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แต่ดันทำเอาคนฟังฉุนเฉียวในใจไม่น้อย
ให้ตายสิ!
คนดีๆ ที่ไหนพูดแบบนี้กัน!
นางจะเริ่มแข่งแล้ว ขอให้ทุกคนเงียบเพื่อนางรึ?
ที่นี่ใครๆ ก็ต้องลงแข่งกันหมดทั้งนั้นแหละ?
คิดว่าเราใช้สนามประลองกันคนล่ะที่หรือไรกัน?
เกินไปแล้ว!
ทว่าต่อให้ทุกคนจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกไปตรงๆ
เมื่อมองจากท่าทีของหรงซิวแล้ว เขาไม่ได้สนใจเรื่องการแข่งหรอก
แต่เขาหมายหัวคนที่ “กวน” สมาธิของฉู่หลิวเยว่อยู่ต่างหาก!
และเขาทำจริงแน่ๆ!
เว่ยเจ๋อถอนหายใจยาวพรืด พลางจัดแจงอาภรณ์ของตนให้เข้าที่
ปล่อยให้พวกนั้นได้ใจไปก่อนก็แล้วกัน!
รอให้แข่งจบแล้วเห็นพวกเขาพ่ายแพ้เสียหมดท่า แล้วค่อยพลิกสถานการณ์ขึ้นมาพลันเย้ยหยันใส่อีกฝ่ายตอนนั้น ก็ยังไม่สาย!
หลังจากที่หรงซิวประกาศก้องออกไปเช่นนั้น บทสนทนารอบด้านพลันหยุดลงในทันที
และด้วยเหตุผลบางอย่าง ยามนี้ถังเคอเองก็ไม่ได้เอ่ยขัดค้านอะไร
บางทีอาจจะเป็นเพราะเห็นง้าวว่านเฟิงด้ามนั้น…
…
ซั่งกวนจิ้งเหลือบตามองหรงซิวแวบหนึ่ง แล้วถามด้วยอารามสงสัย
“หรงซิว เจ้าไม่คิดจะลงแข่งด้วยหรือ?”
เมื่อเทียบกับนางหนูเยว่เออร์แล้ว ทั้งความแข็งแกร่งและความสามารถของเขา ล้วนเหนือชั้นกว่าเป็นไหนไหน!
“หรือเจ้ายังกังวลว่านางหนูจะชนะไม่ได้…”
“ท่านอย่าเข้าใจผิดสิ”
หรงซิวรู้ทันว่าเขาคิดอะไร พลันหัวเราะออกมาหนึ่งทีแล้วอธิบาย
“ข้าแค่คิดว่ามันไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น เยว่เออร์เปิดประตูได้ และเข้ามาที่นี่ได้คนแรก แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า นางคือคนที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้รับมรดกของผู้อาวุโสถังเคอ”
ต่อให้คนอื่นจะคิดแบบไหน คัดค้านอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์
ซั่งกวนจิ้งคิดตามอย่างถี่ถ้วน และรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล จึงไม่ได้แย้งอะไร
เปรี้ยง!
เสียงกัมปนาทดังลั่น!
ซั่งกวนจิ้งและคนอื่นๆ ล้วนหันไปมองทันควัน ก่อนจะเห็นทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งฟาดผ่าลงไปที่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์!
เหล่าฝูงชนเริ่มมีคนนั่งไม่ติดที่
“เร็วมาก!”
การแข่งขันเพิ่งเริ่มขึ้นแท้ๆ และฉู่หลิวเยว่ก็เพิ่งนั่งสมาธิเอง ทำไมทัณฑ์สวรรค์ถึงผ่าลงมาแล้ว!
………………..