ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2068 ต้องชนะ!
ตอนที่ 2068 ต้องชนะ!
………………..
รอบนี้ทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดผ่าลงมานั้น รุนแรงกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว!
แสงไฟสุกสกาวไปทั่วทุกสารทิศ พร่างพราวจนแสบตา
แม้แต่ร่างของฉู่หลิวเยว่ก็ถูกแสงสีขาวนวลนั่นกลืนกินไปด้วย จนแทบมองไม่เห็นเงากาย
เสียงคำรามดังกึกก้อง ตามจังหวะที่ห้ำหั่นลงมา จนแทบทำให้คนฟังหูหนวกเลยก็ว่าได้
เว่ยเจ๋อจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า พลางลืมขยับเขยื้อนกายาเสียครู่ใหญ่
นี่ฉู่หลิวเยว่…เรียกให้ทัณฑ์สวรรค์รวมตัวกันผ่าลงมาในคราเดียวได้จริงๆ หรือ!
นางทำได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้พลังปราณดั้งเดิมกับจิตวิญญาณของนาง ถูกเผาผลาญไปอย่างบ้าคลั่งแล้ว พูดตามหลักแล้วตอนนี้ นางอาจจะไม่รอดแล้วก็ได้!
แต่กลับกัน ทำไมนางถึงดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมล่ะ?
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ใช้ขวานสุริยันมรกตเท่านั้น แต่ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเข้ามาอีกแปดชิ้น!
ระหว่างอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อและสมบัติศักดิ์สิทธิ์นั้น มีช่องว่างของขุมพลังอันกว้างใหญ่ขวางกั้นอยู่
แต่เพราะมีจำนวนมากกว่า เลยทำให้สั่งสมพลังได้มากกว่า ลมปราณที่เปล่งออกมานั้นท่าทึ่งมากเพียงนั้น
อย่างน้องตอนนี้อาวุธเหล่านั้นที่กองอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ ก็เรียกทัณฑ์สวรรค์ได้นับไม่ถ้วน ไม่ได้ด้อยไปกว่าขวานสุริยันมรกตเลย!
หากนางยังเร่งเครื่องตามมาไม่หยุดเช่นนี้ เกรงว่าอีกไม่นานช่องว่างของพวกเขาทั้งสองคงจะแคบลงกว่าเดิมจนแทบเท่ากัน!
และเมื่อถึงตอนนั้น ไม่แน่ว่าเว่ยเจ๋ออาจถูกแซงหน้าก็ได้!
“มันเป็นไปได้อย่างใด!”
ไม่นานเว่ยเจ๋อก็ดึงสติกลับมา พลันสบถออกมาอย่างเหลืออด
เดิมทีเขาเกือบจะเป็นชนะอยู่แล้ว!
แต่ความยุ่งยากในตอนนี้ ทำให้เขาต้องใช้พลังงานกว่าเดิม!
แต่ไม่ว่าอย่างไร ฝั่งฉู่หลิวเยว่ก็เดินหน้าต่อไปแล้ว ต่อให้พ่นคำพรุสวาทออกมาตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อความสิ้นหวังกลืนกินจิตใจ เว่ยเจ๋อจึงทำได้เพียงสงบโทสะในใจ แล้วรวบรวมสตตั้งสมาธิไปที่ค้อนม่วงดำเบื้องหน้าอีกครั้ง
แต่พอได้ยินเสียงรบกวนจากฝั่งฉู่หลิวเยว่ที่ดังขึ้นเป็นเนืองนิตย์ หัวใจของเขาย่อมไม่อาจสงบลงได้
และอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมองเป็นครั้งคราว
เขาบอกตัวเองในใจตลอดว่า การที่ฉู่หลิวเยว่ทำเช่นนี้ ไม่เพื่อเอาชนะ หากแต่เป็นการยั่วโทสะเขา ไม่นานนางก็ทนไม่ไหวเองนั่นแหละ
ทว่าผ่านไปหนึ่งเค่อ กระทั่งหนึ่งชั่วยามผ่านไป…
ฉู่หลิวเยว่ก็ยังอยู่ตรงนั้น มิได้ล้มหายตายจากแต่อย่างใด!
ช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง แคบลงเรื่อยๆ
เว่ยเจ๋อเริ่มหมดความอดทน
เขาอยากบังคับค้อนม่วงดำตรงหน้าให้เร่งกลืนกินทัณฑ์สวรรค์เข้าไปอีก แต่เขารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
เพราะความจริงเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เว่ยเจ๋อก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
อย่างเสียการแข่งนี้ก็มีขีดจำกัด ฉะนั้นเขาจึงไม่เชื่อว่าฉู่หลิวเยว่จะทนไปได้ตลอดรอดฝั่ง
…
เสวี่ยเสวี่ยพุ่งออกมาจากกลางดงทัณฑ์สวรรค์ พลางเดินมาหมอบที่เท้าของหรงซิว มันยืดตัวอย่างเกียจคร้านแล้วเลียอุ้งเท้าของตนไปมา ก่อนจะนอนลงอย่างสบายใจ
หากมองดูดีๆ แล้วจะเห็นประจุแสงสีเงินคล้ายงูสองสามสาย เคลื่อนตัวแวบผ่านขนสีขาวราวกับหิมะของมันได้ในบางจังหวะ
ลมปราณรอบตัวของมันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก
เห็นได้ชัดว่าหลังจากออกไปวิ่งเล่นมา มันได้กลืนกินพลังไปมากมาย ความแข็งแกร่งของมันเองก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน
“แฮ่กๆ…”
ไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ!
เสวี่ยเสวี่ยหรี่ตาลงที่ละนิด รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนเล็กน้อย
หรงซิวเหลือบมองมันคราหนึ่ง
เมื่อกลืนพลังปราณมากมายในคราวเดียว กว่าเสวี่ยเสวี่ยจะย่อยมัน แล้วปรับสมดุลให้เข้ากับร่างกายของมันได้นั้น ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง
หรงซิวยกมือขึ้นเล็กน้อย เรียวนิ้วแกร่งตวัดเบาๆ
พลันมีลำแสงสีทองลอยออกมา ก่อนจะก่อตัวเป็นค่ายกลเล็กๆ ปกคลุมรอบตัวเสวี่ยเสวี่ยอย่างรวดเร็ว
เพียงมีค่ายกลนี้ปกป้องมัน เสวี่ยเสวี่ยก็จะไม่ถูกความวุ่นวายภายนอกรบกวน และมีสมาธิในการฝึกฝนปราณของมัน
เสวี่นเสวี่ยส่งเสียงครวญครางในลำคออีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็งทอประกายวิบวับ
โฮก…
ซาบซึ้งยิ่งนัก ในที่สุดก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่นายมีให้กันแล้ว!
ทว่าคำพูดต่อมาของหรงซิว กลับทำลายฝันหวานของมันเสียอย่างนั้น
“สายเลือดของเจ้ามิได้แข็งแกร่งเท่าถวนจื่อ ยามถึงขีดจำกัดแล้ว ก็จงนอนพักเสีย”
เสวี่ยเสวี่ย?
นี่นายท่านกำลังพูดอ้อมๆ ว่าข้าไม่เก่งเท่าถวนจื่อหรือ?
หรงซิวตอบกลับเสียงเย็น
“ไม่ ข้าพูดตรงๆ”
เสวี่ยเสวี่ย “…”
การได้รับคำชมจากนายท่าน นั้นยากยิ่งว่าปีนขึ้นสุราลัยอีก!
เสวี่ยเสวี่ยเหลือบมองถวนจื่อด้วยความขุ่นเคือง
นางยังคงวิ่งแจ้นอยู่ในทะเลทัณฑ์สวรรค์ สีหน้าอิ่มหนำสำราญ ราวไม่รู้จักเบื่อ
ความจริงแล้วในบรรดาอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล น้อยนักที่จะสามารถทำได้เท่าถวนจื่อ
ทัณฑ์สวรรค์ของที่นี่ เปี่ยมไปด้วยพลังอันแกร่งกล้า
หากแข็งแกร่งไม่พอ ก็เกรงว่าอาจจะเสียท่าไปนานแล้ว
แต่ไม่ใช่กับถวนจื่อ
สายเลือดของนางบริสุทธิ์เกินใคร และเมื่อเปิดจุดชีพจรทั้งห้าแล้ว กล่าวโดยพื้นฐาน พลังเหล่านี้จะไม่สามารถทำร้ายนาง ได้
นางมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก พร้อมศักยภาพสูงเหลือล้น นางจึงเคลื่อนไหวในทะเลสายฟ้าเหล่านั้นได้อย่างอิสระ
เสวี่ยเสวี่ยดีดดิ้นด้วยความไม่พอใจอยู่นาน ถึงไม่อยากจะยอมรับ แต่ถวนจื่อก็เหนือกว่ามันในด้านนี้จริงๆ
“ถ้าอยากชนะจริงๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี”
ริมฝีปากของหรงซิวขยับเอ่ยเสียงเบา
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นด้วยความตื่นเต้น พลันสบตาเรียวคมลึกล้ำดุจมหาสมุทรของผู้เป็นนาย
ในใจพลันสังหรณ์ใจแปลก
ต่อมาก็ได้ยินหรงซิวพูดทีเล่นที่จริงว่า
“แค่ไปฝึกในทะเลทรายจันทราสีชาดบ่อยๆ ก็ช่วยได้แล้ว”
ว่าแล้วเชียว!
เสวี่ยเสวี่ยหลับตาลงทันที อยากแกล้งตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
…
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า และในที่สุดการแข่งขันระหว่างคนทั้งสอง ก็เข้าสู่ช่วงชี้ชะตาแล้ว
แต่พอเห็นว่าเว่ยเจ๋อกับฉู่หลิวเยว่ยังคงผลาญพลังต่อไป ผู้คนรอบข้างจึงเผยสีหน้าสับสนงงงวยกันเป็นแถบ
สองคนนี้ สงสัยจะเพี้ยนจนกู่ไม่กลับแล้วจริงๆ
ไม่อย่างนั้นจะสู้กันจนถึงตอนนี้ได้หรือ!
“ซั่งกวนเยว่จะตามทันแล้วใช่หรือไม่? ข้ามองหลายครั้งแล้ว นางตีตื้นขึ้นมาทันแล้ว!”
“ยามนี้นางเร่งความเร็วขึ้นมาก แต่เว่ยเจ๋อเองก็ไม่ธรรมดา พวกเจ้าสังเกตหรือไม่ว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ความเร็วในการกลืนกินทัณฑ์สวรรค์ของเขายังเท่าเดิม ไม่มีแรงผันผวนอันใดเลย?”
“หือ? ที่เจ้าว่ามาก็ถูกนะ…มันดูแปลกเกินไปหรือเปล่า? ไม่ว่าอย่างใด มันก็ไม่น่าสงบได้เพียงนี้…”
“หึ ถ้าเกิดปัญหา เขาคงแพ้ไปนานแล้ว จะอยู่รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างใด? ข้าว่านะ ไม่ใช่เขาที่เก่งหรอก แต่เป็นค้อนนั่นต่างหาก ที่ดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลย!”
“และมันก็เป็นเพียงอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ เหตุใดถึงทนทานได้นานเพียงนี้…”
ทุกต่างซุบซิบนินทากัน แส่เสียงวิจารณ์ลอยเข้ากกหูไม่หยุดหย่อน
ซั่งกวนจิ้งมองสองคนนั้นอยู่สักพัก ก่อนจะถอนสายตาออกมา
ทุกครั้งที่เขามองเว่ยเจ๋อ เรียวขนงเข้มจำต้องขมวดพันกันทุกที
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ทุกคนต่างลงเสียงว่าอุปกรณ์ของเว่ยเจ๋อมีปัญหา หากแต่ไม่รู้ว่าปัญหานั้นคืออะไร
เขายืนสังเกตมานานแล้ว แต่ก็ยังจับจุดไม่ได้อยู่ดี
เสมือนว่า…ค้อนของเขา คือหลุมดำอันไร้ที่สิ้นสุด!
ครั้นคิดเช่นนี้ ซั่งกวนจิ้งก็ยิ่งเป็นกังวล
แม้ฉู่หลิวเยว่จะไถ่ตามอีกฝ่ายด้วยความเร็ว แต่มันส่งผลกระทบมากมายต่อนางในทุกๆ ด้าน
ถ้าแม้แต่ขวานสุริยันมรกตและอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อเหล่านี้อิ่มตัวแล้ว แต่การแข่งขันยังไม่จบ เช่นนั้นจะทำอย่างไร?
เขามองออกว่านางต้องการชนะจริงๆ
ทันใดนั้น เว่ยเจ๋อก็เคลื่อนไหว!
เขายืนมืออกมากำทัณฑ์สวรรค์ไว้ โลหิตสีแดงฉานไหลซึมออกมา แล้วตกลงบนค้อนม่วงดำ!
พร้อมกับเสียงร้องคำรามดังกึกก้อง!
………………..