ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2073 เลือก!
ตอนที่ 2073 เลือก!
………………..
หรงซิวรับมันมา
จังหวะที่ปลายนิ้วสัมผัสค้อนด้ามนั้น คิ้วเข้าพลันขมวดฉับ ตาลงหรี่ลงในทันที
และพอเห็นเขาตอบสนองเช่นนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตน
หรงซิวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
ทั้งสองคนสบตากันอยู่พักหนึ่ง ราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอันใด
ลมปราณข้างในนี้ คลับคล้ายคลับคลาอย่างมาก
เว่ยเจ๋อจ้องมองท่าทีของสองคนนั้น แผ่นหลังชุ่มเหงื่อด้วยความวิตก
คนสองคนนี้ช่างปลิ้นปล้อนสับปลับนัก ทว่าคงไม่พบพิรุจอันใดหรอกกระมัง…
แต่ในที่เขากำลังวิตกจริตกับตัวเอง หรงซิวก็กระชับค้อนในมือแล้วเดินมาหาเขา
เว่ยเจ๋อกลั้นหายใจอย่างลุ้นระทึก
ทุกย่างก้าวของหรงซิว ราวกับเหยียบย้ำลงบนหัวใจเขา!
ในไม่ช้า หรงซิวก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าเว่ยเจ๋อ และห่างเพียงหนึ่งก้าว
ก่อนจะยื่นมันคืนให้เขา ใบหน้าหล่อแลดูผ่อนคลาย เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ
“ประมุขเว่ยมิต้องกังวลไป ข้าแค่จะคืนมันให้ท่าน”
เว่ยเจ๋อเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างลังเล เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ได้โดนแกล้ง ถึงค่อยยื่นมือออกไปรับค้อนด้ามนั้นคืน
ทันทีที่ด้ามค้อนหวนสู่มือชายสูงวัย หัวใจที่ตื่นกลัวราวแขวนอยู่บนเส้นด้าย พลันสงบลงในที
ทว่าคำพูดต่อมาของหรงซิว กลับทำให้ใจที่เพิ่งสงบลง ตื่นตูมขึ้นมาอีกครั้ง
“จริงสิ จู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่า ระหว่างที่เดินทางมาที่นี่ เหตุใดถึงไม่เห็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเว่ยเลย?”
คุณชายใหญ่ของตระกูลเว่ย คือ เว่ยซีผิง
นับตั้งแต่นั้นมา เว่ยซีผิงก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย
การที่หรงซิวกล่าวถึงเขาในตอนนี้ ทำให้ตามไม่ทันว่าเขากำลังพูดถึงใคร
เว่ยเจ๋อใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม!
เขาเผลอกำค้อนในมือแน่น แล้วหันไปมองหรงซิวอย่างรวดเร็ว
ทว่าดวงตาของหรงซิวนั้นลึกล้ำราวก้นบึ้งมหาสมุทร ดวงหน้านิ่งเฉย ไม่อาจอ่านความคิดของอีกฝ่ายได้เลย
เว่ยเจ๋ออ้ำอึ้งตอบไป
“เจ้า…ไยจู่ๆ เจ้าถึงถามเช่นนี้?”
หรงซิวกล่าวต่อ
“ไม่มีอันใด แค่พอเห็นท่านแล้วก็นึกถึงเขาขึ้นมา จึงพลั่งปากถามไปลอยๆ ประมุขเว่ย…ไม่สะดวกตอบหรือ?”
เว่ยเจ๋อชะงักไปนิด ก่อนจะพูดต่อว่า
“ก็ใช่ว่าจะตอบมิได้ เขา…หลังจากออกจากสำนักหลิงเซียวก็หายตัวไปเลย พวกข้าเองก็รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างใด”
หรงซิวยิ้มเยาะหนึ่งที
“อย่างใดเสียเขาก็เป็นบุตรของท่าน แม้ครานั้นจะทำผิดพลาดแต่ก็ไม่สมควรตาย คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะใจไม้ไส้ระกำเช่นนี้…”
เว่ยเจ๋อขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ทันที พลางกล่าวเสียงแข็ง
“เขาทำผิด และทำให้ตระกูลเว่ยของข้าอับอายขายขี้หน้า! เดิมทีมันคือสิ่งที่เขาควรได้รับอยู่แล้ว จะหาว่าข้าโหดเหี้ยมได้อย่างใด?”
ดูเหมือนว่าเมื่อกล่าวถึงเว่ยซีผิง เขาจะโมโหโกรธาขึ้นมาเสียง่ายๆ
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง…”
สีหน้าของหรงซิวฉายแววเวทนา
“น่าเสียดายจริงเชียว ได้ยินว่าเดิมทีท่านหมายมาดจะให้เขาสืบทอดต่ำแหน่งประมุขเว่ยรุ่นต่อไป”
เว่ยเจ๋อหน้าซีดเผือด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เจ้าตัวหันหลังกลับและก้าวเท้าจากไป
หรงซิวมองตามแผ่นหลังของเขาราวมีนัย แต่มิได้พูดอันใดออกมา
“นางหนู”
เสียงของถังเคอลอยแทรกความเงียบขึ้นมา
“ยินดีด้วย เจ้า… ชนะแล้ว!”
เสียงนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ทันที
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง ริมฝีปากแดงสวยแย้มยิ้มจางๆ
“ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโสถังเคอเจ้าค่ะ”
ถังเค่อเสริมต่อว่า
“มรดกของข้า ซ่อนอยู่หลังบานประตูสัมฤทธิ์ทั้งสิบบาน มีเพียงหนึ่งบานที่เป็นของจริง ตอนนี้เจ้าต้องเลือกสักบานแล้ว ถ้าเลือกถูกทุกอย่างก็จะเป็นของเจ้า! แต่ถ้าเลือกผิด…ก็ได้โทษได้เพียงว่า ข้ากับเจ้าไม่มีชะตากรรมต่อกัน”
ทุกคนล้วนหันมองหน้ากัน
เดิมทีพวกเขาคิดว่าหากชนะแล้ว ฉู่หลิวเยว่จะได้รับมรดกของถังเคอโดยตรง
ใครจะรู้ว่าต้องมาเลือกอันใดแบบนี้อีก
หนึ่งต่อสิบรือ จัดว่ามีโอกาสน้อยมาก!
แต่เหมือนว่าฉู่หลิวเยว่จะมิได้แปลกใจอันใด นางยิ้มรับแล้วพยักหน้าเบาๆ
“เจ้าค่ะ”
นางดูออกตั้งนานแล้วว่าถังเคอมิใช่คนที่จะมอบทุกสิ่งให้ใครง่ายๆ ไม่แปลกที่เขาจะทำเช่นนี้
ถังเคอแอบตกใจที่นางยินยอมตกลงในทันที
“ตอบไวเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวเลือกผิด แล้วชวดทุกอย่างไปหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า พลางระบายยิ้มตอบกลับอย่างสบายใจ
“ข้าทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ไม่ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับประสงค์ของสวรรค์เบื้องบนแล้ว สุดท้ายไม่ว่าผลจะออมาอย่างใด ข้าไม่เสียใจเลยเจ้าค่ะ”
ถังเคอชะงักไปนิด แล้วหัวเราะลั่นในที
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นางหนูนี่น่าสนใจจริงๆ เอาล่ะ เช่นนี้ตอนนี้ข้าจะเตรียมพื้นที่ให้ ส่วนเจ้าก็เลือกเองแล้วกัน!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ปราณอันทรงพลังสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามากวาดล้างพื้นที่ทั้งหมด!
จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกราวถูกบางอย่างดูดเข้าไป ครั้นลืมตาขึ้นก็พบเพียงความมืดมิด!
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง
พื้นที่อันกว้างใหญ่ว่างเปล่า เหลือเพียงนางคนเดียว
โอ้ ไม่สิ หรงซิวก็อยู่ด้วย
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงเล็กน้อย
พลันมีเสียงของถังเคอดังแทรกขึ้นมา
“เจ้ามีนามว่าหรงซิวใช่หรือไม่?”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“แม้เจ้าจะไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันเมื่อครู่ แต่ง้าวว่านเฟิงยอมรับเจ้าเป็นนายของมันแล้ว อย่างใดเสียมันก็เป็นอาวุธที่ข้าขัดเกลาเองกับมือ เพื่อเห็นแก่มันข้าจะให้โอกาสเจ้าด้วย หลังจากนางหนูเลือกเสร็จแล้ว เจ้าเองก็ได้สิทธิ์เลือกเช่นกัน”
หรงซิวยกมือประสานหมัด
“ขอบพระคุณ ท่านผู้อาวุโสถังเคอขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่เตะท่าเชิดปลายคางอย่างเง้างอน
หึ
ต้องขอบคุณการทำงานหนักของนางในตอนนั้น ไม่ง่ายเลยที่จะได้โอกาสดีๆ เช่นนี้มา
แต่หรงซิวได้มันมาง่ายๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนเขาจะไม่ได้ทำอันใดเลยนะ?
ลาภลอยเช่นนี้ หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ
“นางหนู เจ้าเลือกก่อน”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิดเล็กคิดน้อย และมองไปยังประตูทั้งสิบที่รายล้อมอยู่รอบตัวนาง
ประตูทุกบานเหมือนกันทุกประการ ไม่มีความแตกต่างใดๆ
ถ้าเป็นคนอื่นคงใช้ดวงสุ่มเอาตามมีตามเกิด
อนิจจามิใช่กับคนอย่างนาง
เมื่อคิดเช่นนั้น โบ่ผสานนภาก็ปรากฎขึ้นในมือนาง
เค้ง!
โล่ผสานนภาปักลงกับพื้น เกิดรอยแตกราวยาวกระจายไปทั่ว!
แม้แต่ห้วงมิติรอบด้านยังสั่นสะเทือนเลือนลั่น!