ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2086 ไม่ได้
ตอนที่ 2086 ไม่ได้
………………..
ซานซานเดินก้าวเข้าไปอย่างว่าง่าย ในทันที
“เฮ้อ!”
เขายื่นมือออกมา อาณาเขตห้วงมิติขนาดเล็กพลันแผดเผาขึ้นมาเป็นเปลวเพลิงสีฟ้าเข้มสายบางระลอกหนึ่ง
ทันใดนั้น อาณาเขตก็เปิดออก!
ฉู่หลิวเยว่ยกเท้าก้าวเข้าไปข้างใน ซานซานตามหลังเข้าไปติดๆ
เงาร่างของทั้งสองคนจางหายไปอย่างรวดเร็ว
…
เพิ่งจะย่ำเข้าไปก้าวหนึ่ง กลิ่นหอมฉุนของสมุนไพรก็โผเข้ามาตรงหน้า ทำให้คนจิตใจเป็นสุข
ซานซานเดินเข้ามา ยังระงับความรู้สึกประหลาดใจเอาไว้ไม่อยู่
“นายท่าน ที่แท้แล้วท่าน….โอ้สวรรค์”
ขณะซานซานกำลังพูดจู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นว่ามีเงาร่างกึ่งโปร่งใสสายหนึ่งเพิ่มขึ้นมาที่ด้านข้างฉู่หลิวเยว่ พลันตกใจเสียจนกุมหัวใจดวงน้อยของตนเองแล้วก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
“นี่ๆๆ…นี่คือใครหรือ?”
การปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้สุ้มไร้เสียง มันทำให้คนตกใจจริงๆ นะรู้หรือไม่!
ฉู่หลิวเยว่มองเขาปราดหนึ่งอย่างหน่ายแหนงเต็มเปี่ยม
“ร้องโหยหวนโวยวายอันใดกัน ยังไม่รีบทำความเคารพท่านซูอีก”
ซานซานไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที ดวงตาดวงน้อยกะพริบปริบอยู่หลายที แล้วถึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ‘ท่านซู’ ที่ฉู่หลิวเยว่บอกนั้นเป็นใคร
“ท่านซู…ท่านซูหรือ ท่านซูผู้ที่ในปีนั้นหลอมสมบัติศักดิ์สิทธิ์ออกมาห้าชิ้นน่ะหรือ?”
เขาเบิกตาโพลง แล้วถึงได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าท่านที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาท่านนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสตรีผู้หนึ่ง
ท่านซู…ยังไม่ได้ตายหรือ อีกทั้ง…ยังเป็นสตรีผู้หนึ่งหรือ
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้ว
“โง่งมไปแล้วหรือ?”
ซูหลี่เม้มริมฝีปากแล้วแย้มยิ้ม มุมปากพลันปรากฏเป็นลักยิ้มเล็กๆ ที่สองข้าง
“เป็นข้าที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันเกินไป เยว่เออร์อย่าได้โทษเขาเลย”
ซานซานถึงได้สติกลับมาในเวลานี้เอง แล้วพลันรีบร้อนยกสองมือกุมหมัด โค้งคารวะอย่างเคารพนบนอบ
“ซานซานคาร…คารวะท่านซู!”
ฉู่หลิวเยว่กุมขมับอย่างจนปัญญา
ความรู้สึกขายหน้าอย่างไม่อาจอธิบายได้ประเภทนี้…ช่างเจ็บแสบเกินบรรยายนัก!
หากมิใช่เพราะการเข้ามายังที่แห่งนี้จำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือของซานซาน นางก็ไม่พาเขามาด้วยหรอก
“วันนี้ข้าพาท่านซูมา เพราะต้องการหาสมุนไพรจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยท่านซูฟื้นคืนกายเนื้อ เรื่องนี้…เจ้ารู้วิธีการหรือไม่?”
ซานซานพลันทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“เรื่อง เรื่องนี้ข้าน้อยจะรู้ได้อย่างใด ท่านนี่ทำให้ข้าลำบากใจเกินไปแล้ว…”
ถ้าเขารู้มาก่อนว่านี่จะเป็นเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เมื่อครู่คงจะไม่เปิดปากเอ่ยอันใดเลย!
ฉู่หลิวเยว่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย
“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ ข้าและท่านซูจะไปดูที่ทางฝั่งนั้นสักหน่อย”
ซานซานรีบร้อนพยักหน้า
“โอ้ ข้าน้อยรับทราบขอรับ!”
พูดจบ ฉู่หลิวเยว่ก็มองไปทางซูหลี่
“ท่านซู เชิญด้านใน”
นี่ที่แท้แล้ว…มันเรื่องอันใดกัน
…
“อันที่จริงหลังจากกลับมา ข้าก็กำลังคิดว่าจะพาท่านเข้ามาด้วยกันอยู่ เพียงแต่ไม่อาจหาเวลาและโอกาสที่เหมาะสมได้มาโดยตลอด ยังหวังว่าท่านซูจะให้อภัย”
ฉู่หลิวเยว่เดินไปพลาง พูดไปพลาง
ซูหลี่แย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วส่ายศีรษะเล็กน้อย
“เวลาเนิ่นนานถึงเพียงนั้นก็ล้วนรอมาแล้ว เวลาเพียงชั่วขณะหนึ่งนี้ย่อมไม่เร่งร้อน หากไม่มีเจ้าเกรงว่าข้าในเวลานี้คง…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มแล้วเอ่ยถาม
“ท่านในเวลานี้ ฟื้นฟูเป็นอย่างใดบ้าง?”
ซูหลี่พยักหน้า
“มีพลังของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ช่วยเกื้อหนุน ย่อมดีขึ้นมากแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้ามาก”
ไม่ผิด
ในตอนที่ออกจากป่าศิลาในวันนั้น พวกซูหลี่สองคนก็ตามออกมาด้วยกันกับฉู่หลิวเยว่และหรงซิว
สถานการณ์ของถังเคอดีกว่าซูหลี่มาก จึงฝากไว้กับง้าวว่านเฟิงชั่วคราว
ส่วนซูหลี่แม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ลมปราณยังอ่อนแรง ฉู่หลิวเยว่จึงเชิญเข้าไปในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์
การฟื้นฟูผ่านไปได้ระยะหนึ่งแล้ว นางจึงดีขึ้นมาก
ส่วนฉู่หลิวเยว่ที่ถูกชิงเอาพลังปราณดั้งเดิมไปที่ถ้ำเร้นวายุ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่ก็ยังต้องใช้ความคิดจิตใจจำนวนหนึ่งในการซ่อมแซมร่างกาย
ไม่มีกายเนื้อ มีเพียงวิญญาณ ท้ายที่สุดก็มิใช่หนทางที่ยืดยาว
ดังนั้นหลังจากร่างกายดีขึ้นแล้ว ฉู่หลิวเยว่จึงพาซูหลี่มาด้วยกัน คิดอยากจะคัดเลือกสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาดูว่าจะสามารถช่วยนางฟื้นคืนกายเนื้อได้หรือไม่
ฉู่หลิวเยว่เคยอ่านตำราโบราณศาสตร์การรักษามานับไม่ถ้วน แต่เนื้อหาที่เกี่ยวกับด้านนี้มีการจดบันทึกไว้บนตำราน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยจริงๆ
แม้นางจะเคยช่วยจื่อเฉินฟื้นคืนกายเนื้อหนหนึ่ง แต่มนุษย์และอสูรศักดิ์สิทธิ์สุดท้ายแล้วก็ไม่เหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตก่อนหน้านี้ของซูหลีเป็นเพียงแค่จอมยุทธ์ขั้นเก้า ไม่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ นี่ก็ยิ่งจัดการได้ยากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกค่อนข้างปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่บ้าง
โครงกระดูกของจอมยุทธ์ขั้นเก้านั้นกลับว่ากันดีหน่อย แต่กุญแจสำคัญนั้นอยู่ที่การใช้ยาพวกนี้ ไม่มีประสบการณ์มาอ้างอิงได้เลย
หากไม่ใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย กายเนื้อของระดับขั้นนี้ก็จะสูญสลายไปเพราะกำลังในการแบกรับนั้นน้อยเกินไป
ครั้งนี้พาซูหลี่มา ก็เพราะคิดอยากจะปรึกษาร่วมกันดูสักหน่อยว่า ที่สุดแล้วควรจะเลือกใช้สมุนไพรเช่นใด
“ท่านสามารถฟื้นฟูได้นั้นดีที่สุด เรื่องยุ่งยากเพียงหนึ่งเดียวก็คือท่านไม่มีร่างศักดิ์สิทธิ์…”
ฉู่หลิวเยว่ถอนใจแล้วเอ่ย
“หากท่านมีร่างศักดิ์สิทธิ์ ย่อมสะดวกสบายกว่ามาก ไม่แน่ว่าไม่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือของข้า ท่านสามารถฟื้นฟูร่างศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยตนเอง”
ซูหลี่เอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“เจ้าว่าอันใดนะ?”
ฉู่หลิวเยว่ประหลาดใจ
“ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่…”
ซูหลี่พลันส่ายหน้า
“มิใช่ เมื่อครู่เจ้าบอกว่า ถ้าก่อนหน้านี้ข้าเคยมีร่างศักดิ์สิทธิ์ ก็จะสามารถฟื้นคืนร่างของตนเองได้หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเล็กน้อย
“ใช่เจ้าค่ะ”
สีหน้าของซูหลี่เปลี่ยนไปเป็นยิ่งแปลกใจ
“เรื่องนี้…ผู้ใดบอกกับเจ้าหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่เห็นสีหน้าของนางมีความไม่ถูกต้องอยู่บ้าง จึงไม่เข้าใจอยู่บ้าง
“นี่…”
“แม้ว่าข้าจะไม่เคยบรรลุขั้นเหนือเทพ แต่เพราะในตอนแรกย่ำเดินไปด้วยฐานะของช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์ กลับเคยเห็นผู้แข็งแกร่งขั้นเหนือเทพกระทั่งขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย จากที่ข้ารู้หากร่างศักดิ์สิทธิ์แหลกสลาย ผู้ฝึกตนก็ไม่อาจฟื้นคืนร่างศักดิ์สิทธิ์ของตนเองได้อีก แม้จะยืมพลังจากภายนอกเข้าช่วยเหลือ ก็ลำบากยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง เจ้าจะบอกว่าสามารถฟื้นคืนร่างศักดิ์สิทธิ์ของตนเองได้อย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ตะลึงงัน
“เป็นไปไม่ได้กระมัง ข้าเคย…”
………………..