ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2094 ข้าตั้งใจ ตอนที่ 2095 แผนการของพี่เป่า
ตอนที่ 2094 ข้าตั้งใจ
“อันใดนะ!”
ซูหลีตกใจอย่างมากดวงตาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้และเกือบสงสัยว่าตนเองฟังผิดไป
“ยาอายุวัฒนะของปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่? นี่ นี่…”
ปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่นั้น ระดับเหนือกว่าปรมาจารย์โอสถและเป็นการมีอยู่ของระดับสูงที่สุดในเซียนหมอ
ต้องรู้ไว้ว่าแม้แต่ในสำนักหลิงเซียว ผู้ที่ไปถึงระดับปรมาจารย์โอสถก็นับว่ามีน้อยนัก
อีกทั้งผู้อาวุโสส่วนใหญ่ล้วนมีอายุมาก
ดังเช่นผู้อาวุโสวั่นเจิงในตอนนั้น
ถือได้ว่าเขาเป็นผู้อาวุโสเซียนหมอชั้นยอดในสำนักหลิงเซียว แต่เมื่อเขาเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่ก็มีอายุเกินร้อยปีไปแล้ว
ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี และนางต้องแบกรับความท้าทายในการสกัดยาอายุวัฒนะในระดับปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่ จึงไม่แปลกใจเลยที่ซูหลีจะมีปฏิกิริยาใหญ่โตเช่นนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับฉู่หลิวเยว่ ซูหลีจึงมิอาจพูดสงสัยอะไรในตัวนางได้ และแม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไรออกมาก็ตาม แต่ฉู่หลิวเยว่ก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“ท่านซู ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ข้าจะลองดู หากสำเร็จก็นับว่าเป็นเรื่องดี ท่านคิดอย่างไร?”
อันที่จริงหลังจากที่นานฟื้นความทรงจำได้ไม่นาน นางก็ก้าวหน้าจนเลื่อนขึ้นเป็นเซียนหมอ
สำหรับปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่…แม้ว่านางยังไม่ได้เลื่อนขึ้น แต่ก็ใกล้สัมผัสถึงระดับขั้นนั้นแล้ว
ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากอย่างประจวบเหมาะพอดี
แม้จะฝืนใจ แม้จะยากเย็นแสนเข็น นางก็จะลอง!
เมื่อซูหลีเห็นสีหน้ามั่นใจของนาง ก็รู้สึกเบาใจมากขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้
ผู้ที่ทำให้โล่ผสานภายอมรับเป็นนายได้ ย่อมเป็นผู้ที่มีความพิเศษ!
ฉู่หลิวเยว่พูดด้วยรอยยิ้มขึ้นว่า
“ท่านโปรดวางใจ ในใจข้าทราบดี”
เมื่อพูดจบนางก็เริ่มหยิบสมุนไพรมาไว้ด้านนอกอีกครั้ง
นางเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อีกทั้งสมุนไพรที่ต้องการนางก็มีพร้อมทั้งหมด ไม่เช่นนั้นการมารอบนี้คงยุ่งยากอีกเป็นแน่
ผ่านไปชั่วครู่ ในที่สุดนางก็เตรียมสมุนไพรทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย
นางได้เตรียมสมุนไพรไว้เผื่อห้าชุด
หากล้มเหลวยังสามารถลองใหม่ได้อีกหลายครั้ง
หลังจากแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะมาที่หม้อต้มโอสถสวรรค์ นางตบด้วยฝ่ามือเดียว!
พรึบ!
เปลวไฟโปรงแสงลูกหนึ่งลุกไหม้ขึ้น!
ฉู่หลิวเยว่เริ่มจัดเรียงสมุนไพรที่อยู่ข้างกายเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ
การเคลื่อนไหวของนางรวดเร็วและคล่องแคล่วอย่างมาก
เมื่อสมุนไพรเหล่านี้ลงไปในหม้อต้มโอสถสวรรค์และถูกเปลวไฟกลืนกินจนสกัดออกเป็นหลายๆ ส่วนอย่างรวดเร็ว
ไม่นานกลิ่นยาที่ขมฝาดอ่อนๆ ก็ลอยคลุ้งขึ้นมา
ซูหลีพูดเสียงกระซิบขึ้นอย่างตื่นตกใจเล็กน้อยว่า
“นี่…นี่คือขั้นพลังปราณของปรมาจารย์โอสถจริงๆ หรือ”
นางเคยพบปรมาจารย์โอสถทั้งสองมามากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดเทียบเท่ากับฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงหน้านี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเปลวไฟ การคัดกรองสมุนไพร หรือการควบคุมกระบวนการทั้งหมด…
ฉู่หลิวเยว่ช่างยอดเยี่ยมนัก!
ซูหลีอดไม่ได้จึงมองไปทางหรงซิวที่อยู่ข้างๆ แต่กลับเห็นสีหน้าของเขาเรียบเฉย สงบนิ่ง ละไม่แสดงสีหน้าประหลาดใจแม้แต่น้อย
นับตั้งแต่ที่นางออกจากถ้ำเฟิงหลี นางก็รู้ว่าคนสองคนนี้ไม่ธรรมดา
แต่เธอไม่คิดว่าจะเก่งกาจขนาดนี้!
ในช่วงเวลานั้น นางได้อยู่กับฉู่หลิวเยว่ที่ท่าเรือดอกท้อ จึงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับฉู่หลิวเยว่มาไม่น้อย
แน่นอนว่ารวมถึงการต่อสู้ครั้งนั้นระหว่างฉู่หลิวเยว่กับอี้เหวินเทา
ยิ่งไปกว่านั้นศึกเผชิญหน้าที่นอกอาณาเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้วก็ได้ครอบครองท่าเรือดอกท้อตั้งแต่นั้นมา!
ซูหลีคิดมาตลอดว่าพรสวรรค์ของฉู่หลิวเยว่ด้านวรยุทธ์และปรมาจารย์นั้นยอดเยี่ยมที่สุด แต่ตอนนี้นางเพิ่งพบว่าแท้จริงแล้วตนเองกลับมองผิดไป
คนผู้นี้…การฝึกฝนในทุกๆ ด้านล้วนมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นเป็นที่สุด!
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ซูหลีเฝ้าดูฉู่หลิวเยว่สกัดสมุนไพรเหล่านั้นที่ละเล็กทีละน้อยอยู่ข้างๆ จากที่ตกใจในตอนแรกค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นการยอมรับ
ผู้ฝึกตนจำนวนมากมายบนโลกนี้ล้วนมีความสามารถ แต่มีความสามารถระดับสูงในการฝึกได้พียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนด้านอื่นๆ กลับธรรมดา
นางจึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด
แม้ในเวลาต่อมานางจะกลายเป็นช่างหลอมอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่การฝึกฝนในด้านจอมยุทธ์ยังคงอยู่ในระดับเก้าและมิอาจทะลวงขั้นไปถึงระดับเทพขั้นสูงได้
ถึงแม้ในบางครั้งจะมีบางคนที่มีพรสวรรค์ทำได้ทั้งสองอย่างหรือมากกว่าในเวลาเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วก็ยากนักที่จะทำได้ดีทั้งหมดในทุกๆ ด้าน
เพราะสิ่งนี้จำเป็นต้องใช้พละกำลังและเวลาเป็นอย่างมาก
คนธรรมดาทั่วไปสามารถมุ่งมั่นทำสิ่งหนึ่งได้ดีและโดดเด่นในด้านหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก นับประสาอะไรกับคนอื่นเล่า?
แต่ฉู่หลิวเยว่…
นี่มันฝืนวิถีแห่งสวรรค์จริงๆ!
ซูหลีถอดถอนใจอย่างเงียบๆ
ไม่ต้องพูดถึงคนในวัยเดียวกัน แม้แต่ผู้อาวุโสที่ฝึกตนมานานหลายปี ก็มิอาจทำได้ดีไปกว่านาง!
สิ่งนี้เป็นพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิดอย่างแท้จริง แต่ก็ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรด้วยเช่นกัน
ทั้งสองสิ่งนี้ขาดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ฉู่หลิวเยว่ยังมีพันธะสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัว ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลทั้งสอง…
บุคคลนี้ช่างน่ากลัวเกินไปยิ่งนัก!
…
ฉู่หลิวเยว่มองหม้อต้มโอสถสวรรค์ตรงหน้าอย่างใจจดจ่อ
ขณะนี้นางได้สกัดสมุนไพรออกมาหลายร้อยชนิด
แต่นี่ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
ขณะที่นางควบคุมไฟอยู่นั้น ในหัวกลับนึกถึงแต่ใบสั่งยาที่พี่เป่าให้ไว้อยู่ตลอด นางจึงระมัดระวังและมิกล้าหละหลวมแม้แต่น้อย
แต่ทำให้นางเบาใจได้เล็กน้อย นางพบว่าความสามารถด้านการสกัดยาของตนเองก้าวหน้าขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน
แม้ในเวลาอันสั้นนี้ นางไม่มีเวลามากมายนักในการปรุงยา อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณระดับความสามารถที่ก้าวหน้าขึ้นในทุกๆ ด้านของนาง เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนจะทำได้ง่ายกว่าที่คิดเอาไว้
นางใส่สมุนไพรที่เหลือลงไปตามลำดับอย่างต่อเนื่อง
…
อีกด้านหนึ่งเมื่อตู๋กูโม่เป่ากลับไปที่ก้นทะเลสาบ
เมื่อกลับไปได้เพียงครู่เดียว หลานเซียว ก็ตะคอกเสียงแข็งขึ้นและหันหลังกลับไป
เห็นได้ชัดว่าตู๋กูโม่เป่าไม่สนใจเรื่องนี้ เขาเดินตรงไปนั่งที่ตำแหน่งของตน
ผู้อาวุโสลำดับที่ห้าชี้ไปที่ด้านหน้าและถามขึ้นเป็นการหยั่งเชิง
“พี่เป่า เจ้าเพิ่งจะให้ใบสั่งยาสะกดวิญญาณแก่นางหนูนั่นหรือ นั่นเป็นยาอายุวัฒนะระดับปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ!”
ตู๋กูโม่เป่าหลับตาลงดูเหมือนไม่สนใจใยดี
“นางหนูต้องการจะช่วยท่านซูผู้นั้นหลอมร่างผู้ฝึกตนระดับเก้าขึ้นมาใหม่ อันที่จริงแค่ใช้ยาชิ่งหยางในระดับปรมาจารย์โอสถก็เพียงพอแล้ว เหตุใดเจ้า…”
ยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นในทันทีพลางชี้ไปที่ตู๋กูโม่เป่าด้วยมือสั่นเทา
“เจ้า”
ตู๋กูโม่เป่าลืมตาขึ้นและพูดด้วยเสียงเรียบเย็นว่า
“ข้าตั้งใจ เหตุใดหรือ”
ตอนที่ 2095 แผนการของพี่เป่า
เจ้าตั้งใจ!
เจ้ายังจะถามอะไรอีก!
มองดูตู๋กูโม่เป่าด้วยสีหน้ามั่นใจ เกือบทำให้ผู้อาวุโสห้าด่าอย่างสาดเสียเทเสีย
“เจ้าช่าง…”
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาสีม่วงที่เยียบเย็นคู่นั้น ความปรารถนาที่จะรอดชีวิตอย่างแรงกล้า ทำให้ผู้อาวุโสห้าฝืนกลืนคำที่พูดโพล่งออกมาลงไปทันที
เขายกนิ้วโป้งและเอ่ยชื่นชมอย่างไม่จริงใจขึ้นว่า
“เจ้าช่างฉลาดหลักแหลมจริงๆ!”
ใบหน้าน้ำแข็งค้างของตู๋กูโม่เป่าก็ค่อยๆ ลดลงเล็กน้อย
“นานจนป่านนี้แล้วยังคงอยู่ที่ปรมาจารย์โอสถ ช่างละเลยจริงๆ หากไม่กดดันและกระตุ้นสักหน่อย ก็ยิ่งไม่เอาไหนนะสิ”
ในเมื่อครั้งนี้นางมาด้วยตัวเอง โอกาสที่หายากเช่นนี้ หากไม่ใช้ก็คงเสียเปล่า
ผู้อาวุโสห้าพูดอะไรไม่ออก
แม้ว่าเรื่องเช่นนี้ตู๋กูโม่เป่าไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก
แต่ทุกครั้งที่เขาฟื้นฟูขีดจำกัดต่ำสุดจนสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยระดับที่สูงขึ้นได้นั้น ก็นับว่าเก่งมากทีเดียว
แต่ที่พวกเขายอมจำนนครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเพราะถูกบังคับด้วยอำนาจบารมีของตู๋กูโม่เป่าก็เท่านั้น
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“พี่เป่า ข้ารู้ว่าที่พี่ทำเช่นนี้ก็เพื่อนางหนูเยว่เออร์ แต่ตอนนี้นางยังเป็นปรมาจารย์โอสถ แม้แต่ใบยาของปรมาจารย์โอสถระดับสูงก็ไม่เคยเห็น จู่ๆ พี่ก็มาที่นี่และให้นางทดลองกลั่นยาอายุวัฒนะระดับนี้ เช่นนั้นจะไม่ทำให้นางหนูลำบากหรอกหรือ”
“ก็จริง!”
หลานเซียวลุกขึ้นในทันที เขากอดอกและหัวเราะเยาะพลางพูดขึ้นว่า
“การหลอมยาสะกดวิญญาณช่างยากลำบากนัก! หากผิดพลาดเพียงนิดเดียว ความพยายามก่อนหน้านี้ก็สูญเปล่าหมดสิ้น! คงไม่สำคัญหากหลอมยาอายุวัฒนะนี้ไม่สำเร็จ แต่ถ้าเป็นการทำร้ายนางหนูจะทำเช่นไร!”
เดิมทีเขาโกรธมาก เพราะตู๋กูโม่เป่าปฏิเสธความช่วยเหลือจากนางหนูเยว่เออร์แทนเขา ตอนนี้เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็ยิ่งอดไม่ได้!
ตู๋กูโม่เป่ามองทั้งสองคนด้วยสายตาเยียบเย็น
“ใครบอกว่านางไม่เคยเห็น”
“เจ้า…”
ทั้งสองกำลังจะโต้เถียงอีกสองคำ แต่สีหน้าของพวกเขากลับเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“นี่เจ้าหมายความว่าอันใด”
ตู๋กูโม่เป่าปัดฝุ่นที่ไม่ได้อยู่บนเสื้อผ้าพลางพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบเย็น
“น่าจะเคยเห็น สองสามปีก่อนนางเคยเห็นแล้ว”
ผู้อาวุโสห้าขมวดคิ้วและพูดขึ้น
“ไม่ใช่ ตอนนั้นที่เจ้าให้นางดูไม่ใช่ใบยาของปรมาจารย์โอสถ…”
เสียงของเขาหยุดลงกระทันหันและจ้องมองตู๋กูโม่เป่าด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ
หลานเซียวจึงนึกถึงอะไรบางอย่างได้ในทันทีและพูดขึ้น
“เจ้าบ้าไปแล้ว! พี่เอาใบยาของปรมาจารย์โอสถระดับสูงรวมกันไว้ด้านในงั้นหรือ!”
…
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดใต้ทะเลสาบ ในเวลานี้ฉู่หลิวเยว่ยังไม่รู้อย่างแน่นอน
นางเพียงรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อยเท่านั้น
เพราะใบสั่งยาสะกดวิญญาณนี้ แม้ว่านางไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เมื่อได้หลอมยาจริงๆ ออกมากลับพบว่าง่ายกว่าที่คิดไว้มาก
ทั้งชนิดและปริมาณของสมุนไพรนี้มากมายจริงๆ แต่ทำตามขั้นตอนกลับไม่ได้ยุ่งยากนัก
แต่ความคิดเช่นนี้แวบเข้ามาเพียงชั่วครู่เท่านั้น และถูกนางกดลงไปอย่างรวดเร็ว
หากสามารถหลอมยาได้สำเร็จอย่างราบรื่น แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว!
หรงซิวเอามือไขว้หลังและยืนมองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้นสายลมบางเบาก็พัดเข้ามา
พัดพากลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยอบอวลเข้ามา
เขาเลิกคิ้วขึ้นพลางหันไปมอง
ทางนั้นเป็นทิศทางของทะเลสาบกระจก
แต่กลิ่นหอมนี้ เขาไม่คุ้นเคยมาก่อน ต้องเป็นลมปราณของบัวระบำเป็นแน่!
เขาจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง ในดวงตาลึกราวกับมีคลื่นค่อยๆ ไหลผ่าน
จากนั้นนิ้วมือของเขาขยับเล็กน้อยและมีแสงสีทองวาบวับขึ้น
กลิ่นหอมอ่อนๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว