ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2097 ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ!
ตอนที่ 2097 ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ!
………………..
ครั้งนั้นตู๋กูโม่เป่ามีสีหน้าประหลาดใจอย่างสุดขีด และต้องไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
แต่สภาพของพวกเขาในตอนนี้เป็นเรื่องยากนักที่ต้องการหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่
ตู๋กูโม่เป่าเงียบไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น
“ข้าจะจัดการเอง”
…
เวลาสิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองหม้อต้มโอสรที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าอีกครั้ง และถอนหายใจเต็มแรงอย่างไม่มีทางเลือก
“ล้มเหลวอีกแล้ว…”
นี่เป็นครั้งที่สี่ที่นางล้มเหลว
ในขั้นตอนปรุงยาหลายครั้งนี้ นางระมัดระวังเป็นอย่างมากอยู่ตลอด และได้เรียนรู้จากบทเรียนในความล้มเหลวครั้งก่อนอย่างจริงจังทุกครั้ง
แต่ทว่ากลับไม่มีประโยชน์
ผลลัพธ์ในทุกครั้งยังคงล้มเหลว
จนกระทั่งครั้งนี้ ตัวนางเองคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร บนยาอายุวัฒนะเริ่มปรากฏร่อยรอยออกมา แต่…กลับขาดไปอีกนิดเดียว
“แท้จริงแล้วขาดที่ตรงไหนกัน…”
ฉู่หลิวเยว่กอดอก มืออีกข้างเท้าคางไว้ และจ้องมองหม้อต้มโอสถสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเคร่งขรึม
ขั้นตอนการปรุงยาในครั้งนี้ วนเวียนอยู่ในหัวของนางไม่หยุด
นางคิดวนไปมา แต่กลับไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วปัญหาอยู่ตรงที่ใด
เวลานานเช่นนี้ในความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้จิตใจและพลังของนางถดถอยลงไปอย่างรวดเร็ว
นางนวดขมับเบาๆ ไปมา
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่มีวิธีแล้ว
หากไม่มีพลังเพียงพอและต้องลองอีกนับครั้งไม่ถ้วน ผลสุดท้ายก็เหมือนเดิม
แน่นอนว่าประเด็นสำคัญคือ สมุนไพรในมือของนางมีพอให้นางได้ฝึกฝนอีกครั้งเดียวเท่านั้น
ถ้าใช้จนหมด ก็ต้องกลับไป
แต่ตอนนี้นางไม่ได้วางแผนออกจากทะเลทรายจันทราสีชาด
นางเดินมาข้างหรงซิวและวางค่ายกลขึ้น จากนั้นแยกความร้อนที่น่ากลัวนั่นออกไปและเริ่มฝึกฝนอย่างสงบนิ่ง
หรงซิวปล่อยเสวี่ยเสวี่ยออกมา
“ออกไปเล่นเถอะ”
“โอ้ว!”
เสวี่เสวี่ยร้องเสียงดังด้วยความดีใจอย่างที่สุด ร่างดุจหิมะขาวที่แข็งแกร่งได้หายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของหลายคน
บัดนี้หลายคนนั้นกำลังพักผ่อนอยู่ ไม่มีใครสนใจมันหรอก! ฮ่า!
มันเป็นอิสระแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงใช้ความคิดเล็กน้อยพลางเอ่ยถามขึ้นในใจว่า
“ถวนจื่อ จื่อเฉิน พวกเจ้าอยากออกมาเล่นข้างนอกหรือไม่”
แม้ว่าสภาพแวดล้อมการฝึกฝนของที่นี่ไม่อาจเทียบเท่ากับท่าเรือดอกท้อและพระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่มีพื้นที่กว้างผู้คนน้อย ทั้งกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตและเป็นอิสระอย่างมาก
ขณะที่เพิ่งถามประโยคนี้จบ ถวนจื่อรีบยกมือพูดอย่างตื่นเต้นว่า
“อาเยว่อาเยว่! ข้าอยากออกไป!”
ช่วงเวลาก่อนหน้าที่ทัณฑ์สวรรค์ได้กลืนกินมากเกินไป ตอนนี้นางมีพลังกลับมาเต็มที่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้มันได้ที่ไหน!
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มและปล่อยถวนจื่อออกไป
นายเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็วจนชนเข้ากับสายตาเรียบเฉยของหรงซิวในทันที
ถวนจื่อหัวเราะแหะๆ พลางฉีกยิ้มกว้าง มันหยุดการเคลื่อนไหวลงจากนั้นเปลี่ยนเป็นส่งจูบแทนและพูดขึ้นว่า
“อาวเยว่ จะจะ…จุ๊บจุ๊บ! เช่น เช่นนั้นข้าไปแล้วนะ?”
ฉู่หลิวเยว่บีบใบหน้าเล็กที่อ้วนจ้ำม่ำของนาง
“รู้แล้ว อย่าเล่นจนเกินไปก็พอ”
ถวนจื่อพยักหน้าอย่างแรง ขณะที่กำลังหันหลังออกไป จู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงมองกลับมาและพูดด้วยรอยยิ้มขึ้นว่า
“จื่อเฉิน โอกาสหาได้ยากนัก ไม่สู้พวกเรามาสู้กันสักครั้งเป็นอย่างไร”
หลังจากพูดอออกไปเพียงไม่นานร่างของจื่อเฉินค่อยๆ ปรากฏออกมา
ใบหน้าของเขางดงามเรียบเย็น และยังคงไม่แสดงออกอะไร
“ได้”
ฉู่หลิวเยว่มองเขาครู่หนึ่งอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
เกรงใจแล้ว
เรื่องเหล่านี้สำหรับจื่อเฉินแล้วกลับไม่ได้สนใจอะไร แต่ไม่รู้วันนี้เกิดอะไรขึ้น คาดไม่ถึงว่าเขาจะรับปากแข่งกับถวนจื่อจริงๆ
คาดว่าก็รู้สึกที่นี่ไม่มีคนนอกแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงปลดปล่อยได้เต็มที่อย่างนั้นหรือ
ถวนจื่อกลับไม่ได้คิดมากเช่นนั้น เมื่อเห็นจื่อเฉินตอบรับอย่างมีความสุข เวลานี้ดวงตาทั้งสองเปล่งประกายอย่างตื่นเต้นและทำท่าคันไม้คันมือเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้
“ถ้าเจ้าแพ้ จะต้องยอมให้ข้าเป็นพี่สาว!”
นางยังจำได้ชัดเจน ตอนถ้ำเฟิงหลีเมื่อก่อนนี้ นางถูกเขาคิดบัญชีไปนะสิ!
วันนี้พูดอะไรไปก็จะขอคืนกลับมา!
ฉู่หลิวเยว่กุมหน้าผากอย่างหมดหนทาง
เรื่องยาวนานเช่นนี้แล้ว เด็กคนนี้ยังจำเรื่องของพี่หญิงใหญ่ได้…
แต่นางยังคงอยากเป็นพี่หญิงใหญ่ของจื่อเฉิน …
หากจื่อเฉินเป็นเพียงอินทรีสามตาธรรมดาก็เท่านั้น คงไม่มีสิ่งใดโต้แย้ง แต่ประเด็นสำคัญคือในร่างของจื่อเฉินส่วนหนึ่งมีเลือดของไทซูหวงหลงหลั่งไหลอยู่
เขากับจื่อเฉิน มีสายเลือดเดียวกัน ลมปราณเชื่อมถึงกัน
หากถวนจื่อสู้กับเขา ก็เทียบเท่าสู้กับจื่อเฉินมิใช่หรือ
แต่ตระกูลไทซูหวงหลงมีฐานะเท่าเทียบกับตระกูลหงส์ทองคำมาตลอด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตามจื่อเฉินไม่มีทางย้อมแพ้ง่ายๆ
เจ้าทั้งสองนี้คาดว่าต่อไปคงมี…
จื่อเฉินยืนหยัดเผชิญหน้ามองถวนจื่อครู่หนึ่งและพูดเสียงเรียบเฉยขึ้น
“รอเจ้าทำได้ค่อยพูดก็ไม่สาย”
ถวนจื่อฮึดฮัดเสียงเบา ปลายเท้าเล็กๆ กลายเป็นเปลวไฟสีทองและบินออกไปอย่างรวดเร็ว!
จื่อเฉินรีบโค้งคำนับทำความเคารพฉู่หลิวเยว่ และตามนางไปในทันที
ร่างทั้งสองหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่เฝ้าดูพวกเขาจากไป ชั่วครู่จึงถอนสายตากลับ
ความปลอดภัยของพวกเขาทั้งสอง นางกลับไม่ได้เป็นกังวล
สุดท้ายที่นี่เป็นเขตอิทธิพลของพวกพี่เป่า ปกติเดิมทีไม่มีผู้ใดมา แม้ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นจริงๆ ก็ไม่ต้องกังวลอันใด
หลังจากพักผ่อนได้ครู่หนึ่ง ในที่สุดฉู่หลัวเยว่รู้สึกปรับสภาพได้แล้ว จึงคิดจะไปลองฝึกครั้งสุดท้าย
หากครั้งนี้ยังไม่สำเร็จ…นางต้องคิดหาวิธีอื่นแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ลุกขึ้นยืนและปัดทรายที่อยู่บนชุดของนางลงไป
จู่ๆ พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ขยับตัวครู่หนึ่ง
นางก้าวลงจากทะเลทรายและเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง!
………………..