ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2099 การต่อสู้ ตอนที่ 2100 ดวงตาข้างหนึ่ง
ตอนที่ 2099 การต่อสู้ ตอนที่ 2100 ดวงตาข้างหนึ่ง
………………..
ตอนที่ 2099 การต่อสู้
ตู๋กูโม่เป่ามีสีหน้าเคร่งขรึมและหลับตาลงเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ตามหลักแล้วของสิ่งนั้นไม่น่าส่งเสียงดังออกมาในเวลานี้…อาจเป็นเพราะภัยบุหลันในครั้งนี้ยาวนานเกินไป จนกระทั่งผลกระทบบางส่วนยังคงหลงเหลืออยู่…”
“แต่ก่อนหน้านี้พวกเราได้กำจัดพลังเหล่านั้นไปหมดแล้ว เหตุใดยังเป็นเช่นนี้ได้”
ผู้อาวุโสห้าเต็มไปด้วยความสับสน
ตู๋กูโม่เป่าเงียบเสียงลง
หลานเซียวที่ไม่พูดอะไรอยู่นานกลับหัวเราะขึ้นในทันที
“เวลาหมื่นปีที่ผ่านมาต่อให้ผนึกจะแข็งแกร่งแค่ไหน ผนึกทั้งหมดจะคลายลง ยิ่งไปกว่านั้นทางด้านสำนักหลิงเซียวน่าจะ…”
ยังไม่ทันพูดจบ แต่ทั้งสองคนต่างรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
เขาเลิกคิ้วขึ้นและกลับไปนอนอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตามวันข้างหน้าคงจะไม่สงบสุขใช่หรือไม่…
ในสถานการณ์คับขันที่มืดมิดและคับแคบ ได้เข้าสู่ความเงียบสงัดที่ยาวนาน
อากาศเหมือนจะจับตัวกันจนเป็นน้ำแข็งและเย็นเยือก
ผ่านไปพักหนึ่งผู้อาวุโสห้าจึงเอ่ยขึ้น
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ยังดีที่เมื่อครู่พี่เป่าลงมือได้ทันเวลาพอดี จึงไม่ถูกนางหนูเยว่เออร์สังเกตุเห็นอันใดเข้า…”
ชั่วครู่ก่อนที่หรงซิวจะลงมือ พี่เป่าตัดหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง
ตู๋กูโม่เป่ากลับส่ายหัว
“นางเป็นคนฉลาดหลักแหลม และไม่ได้ไร้ความรู้สึก โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งกระทันหันและแปลกประหลาดเกินไป นางต้องเกิดความสงสัยขึ้นอย่างแน่นอน”
“นางคงรู้ในไม่ช้าก็เร็ว และเจ้าคิดจะปิดปังนางไปตลอดซีวิตได้อย่างนั้นหรือ”
ตู๋กูโม่เป่าเงียบไปครู่หนึ่ง
“อย่างน้อยที่สุดก็ต้องรอให้นางทะลวงขั้นเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน”
…
หนึ่งวันผ่านไป
หลังจากฉู่หลิวเยว่ใส่สมุนไพรส่วนสุดท้ายลงไปในหม้อต้มโอสถสวรรค์ สายตาทั้งคู่จ้องมองไม่วางตา เพื่อควบคุมความร้อนของเปลวไฟอย่างระมัดระวัง
เมื่อรอประสิทธิภาพของยาทั้งหมดเริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน นางตั้งจิตและพูดขึ้นว่า
“สกัด!”
ไฟแห่งกรรมที่สว่างสุกใสล้อมรอบตรงกลาง ยาอายุวัฒนะขนาดเท่ากำปั้นผสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว!
หลังจาฉู่หลิวเยว่กระตุ้นพลังปราณในร่างกายอย่างรวดเร็ว และควบคุมเปลวไฟสีทองแดงที่บริเวณรอบนอกให้ลุกโซนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยาอายุวัฒนะหลอมรวมจนสมบูรณ์!
เมื่อเปลวไฟสีทองแดงกระจายขึ้นไป ด้านบนของยาอายุวัฒนะปรากฏลวดลายอักขระเส้นแรกขึ้น!
แม้ฉู่หลิวเยว่จะรู้สึกมีความสุข แต่ก็ยังไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
เพราะก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งที่ลวดลายอักขระเริ่มปรากฏบนยาอายุวัฒนะ แต่สุดท้ายก็ยังล้มเหลว
นางไม่กล้าวางใจหรือผ่อนคลายลงได้จนกว่าจะถึงลำดับสุดท้าย
ขณะที่เปลวไฟสองชั้นลุกโชน ยาอายุวัฒนะค่อยๆ ลดขนาดลง
หลังจากนั้นไม่นานลวดลายอักขระที่สองก็ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ!
พลังในร่างของฉู่หลิวเยว่ได้ใช้ไปจนหมดอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้นางอดไม่ได้ที่จะรู้สีกดีใจขึ้นอีกครั้งที่นางมีพลังสะสมไว้ในร่างกายเพียงพอ
ไม่เช่นนั้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงเป็นเรื่องยากที่จะประคับประคองจนถึงที่สุดได้อย่างแน่นอน
บางที…ครั้งนี้อาจจะสำเร็จจริงๆ อย่างนั้นหรือ!
…
ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่มุ่นมั่นไปที่การหลอมยาสะกดวิญญาณ ถวนจื่อกับจื่อเฉิน
ตู้ม!
ลูกบอลไฟสีทองแดงพุ่งออกไปและมุ่งตรงไปที่ด้านหน้าของจื่อเฉิน!
ปัง!
ลูกบอลไฟนั่นพุ่งไปอย่างบ้าคลั่งและโจมตีลงบนเนินทรายโดยตรง!
ชั่วครู่ทะเลทรายก็กระจายไปทั่ว!
ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงโหยหวนดังขึ้นในทันที
ร่างหิมะขาว กระโดดขึ้นมาจากด้านหลังเนินทราย
เปลวไฟที่กระจัดกระจายบางส่วนยังคงติดอยู่บนก้นของมัน
“เสวี่ยเสวี่ย?”
ถวนจื่อชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาราวกับลูกองุ่นดำเบิกกว้างขึ้นพลางพูดขึ้นว่า
“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่!”
เสวี่ยเสวี่ยกลิ้งตัวไปบนพื้นทรายอย่างบ้าคลั่งเพื่อพยายามดับไฟ ไม่ว่าอย่างไรเปลวไฟนั่นรุนแรงมากใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล ในท้ายที่สุดเสวี่ยเสวี่ยจึงแช่แข็งตัวเองจึงดับไฟนั่นได้อย่างไม่พอใจ
เมื่อสังเกตุเห็นว่าความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนหายไปในที่สุด จากนั้นเสวี่ยเสวี่ยจึงสะบัดน้ำแข็งสีฟ้านั่นที่อยู่รอบตัวออกไป
มันมองกลับไปที่ก้นของตนเอง และโกรธขึ้นทันที!
เดิมทีก้นที่อ้วนกลมของมันแม้จะถูกเผาจนดำและขนหายไปบางส่วน! แต่ขนที่ไหม้เกรียมรอบๆ ยังคงปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเล็กๆ
ดูท่าแล้ว คงไม่ร้ายแรงอะไร
เสวี่ยเสวี่ยหันตัวกลับมาตัวสั่นเทา
เห็นชัดๆ ว่ามันมาก่อนไม่ใช่หรือ!
มันเพียงวิ่งเล่นรอบๆ จนเหนื่อย ดังนั้นจึงหาที่พักผ่อนแอบขี้เกียจและเสพสุขในวันเวลาที่เป็นอิสระ
ใครจะรู้ว่าขณะที่หลับเมื่อครู่นี้ ก็ถูกไฟเผาก้นอีก!
ถวนจื่อยืนเขย่งเท้าและมองดู จึงเห็นท่าทางที่น่าสงสารของเสวี่ยเสวี่ย และแลบลิ้นด้วยความเขินอายขึ้นทันที
“แค่กๆ เสวี่ยเสวี่ย ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าโกรธไปเลยนะ! เห็นไหมว่าเจ้าเก่งขนาดนั้น บาดแผลที่ที่ผิวหนังเล็กน้อยเช่นนี้สำหรับเจ้าแล้วไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก พักรักษาตัวไม่นานก็ฟื้นตัวได้อย่างแน่นนอน ใช่หรือไม่”
เสวี่ยเสวี่ยมองผู้กระทำผิดด้วยความโศกเศร้าและโกรธเคือง ใบหน้าของมันเต็มไปการกล่าวโทษ
ขนของมัน!
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เหมือนเดิมได้!
เช่นนี้ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะกลับมาเหมือนเดิม!
เดิมทีคิดว่าการมาทะเลทรายจันทราสีชาดในครั้งนี้คงไม่ต้องกลับไปอยู่ในสภาพที่น่าอับอาย แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อมาแล้วกลับเลวร้ายยิ่งกว่า!
เมื่อคิดว่าจะต้องทนกับรูปลักษณ์นี้เป็นเวลาพักหนึ่ง เสวี่ยเสวี่ยถึงกับหมดสติไป
ในเมื่อมันออกมาแล้วจะทำอย่างไร!
ถวนจื่อมองท่าทางของมันเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกอับอายอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้นางจึงเอามือเท้าเอวข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งชี้ไปที่จื่อเฉิน
“เจ้าดูสิ! เมื่อครู่เป็นเพราะเจ้าที่หลบเร็วเกินไป จนทำให้เสวี่ยเสวี่ยโดนลูกหลง! หากเจ้าไม่หลบ มันจะกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
จื่อเฉินเลิกคิ้วขึ้น
“ในเมื่อเป็นการต่อสู้ ข้าหลบออกไปถือว่าเรื่องปกติอย่างมาก”
หากจะโทษก็ต้องโทษถวนจื่อที่ลงมือเร็วเกินไปหรือโทษเสวี่ยเสวี่ยที่ตอบสนองช้าเกินไปนั่นแหละ
ถวนจื่อตะโกนขึ้น
“เจ้ายังจะพูดอีกรึ! พวกเราสู้กันมานานขนาดนี้ และข้าก็เป็นฝ่ายลงมือตลอด ส่วนเจ้าก็เอาแต่หลบเลี่ยงตลอด และไม่เคยคิดจะสู้กลับเลย! การต่อสู้ครั้งนี้น่าเบื่อนัก!”
เสวี่ยเสวี่ยอุทานขึ้น
เจ้าไม่ได้กำลังปรึกษาข้าเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายหรอกหรือ เหตุใดจึงพูดถึงการทะเลาะกันของพวกเจ้าอีก
แม้ว่าพวกเจ้าทั้งสองคนจะมีเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล จึงไม่สามารถปฏิบัติเช่นนี้อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล อื่นๆ ได้!
จื่อเฉินพูดเสียงเรียบเฉยขึ้น
“เจ้าไม่ได้พยายามเต็มที่ แน่นอนว่าข้าย่อมมิอาจลงมือได้”
ความหมายก็คือ ถวนจื่อมีแต่ทุ่มสุดตัวเท่านั้นถึงจะสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างเต็มที่
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ถวนจื่อก็สูดอากาสเย็นๆ เข้าไปในทันที
“จะ…จะ เจ้า! รอข้าก่อน ข้าจะทำให้เจ้าเห็นพลังของพี่หญิงใหญ่ของเจ้า!”
ฟ่อ ฟ่อ!
เปลวไฟสีแดงทองสองดวงพุ่งออกมาจากดวงตาของนาง!
ลมปราณที่แปลกประหลาดระเบิดออกมาจากร่างของนาง!
จื่อเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ขาทั้งสองยืนอย่างมั่นคงพลางไขว้มือข้างหนึ่งไว้ข้างหลัง มืออีกข้างยกขึ้นเล็กน้อย เพื่อผลานพลังอย่างต่อเนื่อง
เสวี่ยเสวี่ย? นี่จะสู้กันอีกแล้ว? มันล่ะ!
“เสวี่ยเสวี่ย รอข้าจับตัวได้ก่อน ข้าให้เขาขอโทษเจ้า!
ขณะที่ถวนจื่อพูดนั้นทั้งสองมือประสานกัน เปลวไฟรวมตัวขึ้นรอบตัวอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ผสานกันจนกลายเป็นขนนกสีทองแดง
“ไป!”
ตอนที่ 2100 ดวงตาข้างหนึ่ง
หลังจากสิ้นเสียงขนนกทองคำก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว! มุ่งตรงไปหาจื่อเฉิน!
ในเวลาเดียวกัน มีลำแสงสีทองหลั่งไหลออกมาเต็มฝ่ามือของจื่อเฉินและก็ปกคลุมมือของเขาในชั่วพริบตา!
เพียงแวบเดียวราวกับถูกปกคลุมด้วยเกราะกิเลนสีม่วงทอง!
ในร่างของจื่อเฉินได้หลอมรวมเข้ากับพลังแห่งสายเลือดของตระกูลไท่ซวีเฟิ่งหลง ยิ่งไปกว่านั้นด้านหลังของเขายังมีโหมวเจิน ทันทีที่เขาลงมือ จะต้องโดดเด่นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
เขายกมือขึ้นขยับร่างกาย และมุ่งตรงไปหาขนนกทองคำ!
ดูท่าแล้ว…คงคิดที่จะเผชิญหน้าต่อสู้กันจริงๆ!
ชั่วพริบตาขนนกทองคำได้บินมาตรงด้านหน้าของจื่อเฉิน
พื้นที่รอบๆ ถูกพลังอันแปลกประหลาดบนขนนกทองคำฉีกขาดทั้งหมด!
จื่อเฉินกำหมัดและเหวี่ยงออกไปในทันที!
ตู้ม!
พลังทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง!
จากเสียงที่ดังสนั่นเช่นนี้ พลังที่แข็งแกร่งพลุ่งพล่านเริ่มต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้พลังแพร่กระจายไปยังบริเวณรอบๆ อย่างต่อเนื่อง
สองสีที่เข้มข้นและสดใสที่สุดได้ผสานกันอย่างรวดเร็วกลางอากาศจนแทบทำให้ดูละลานเต็มไปหมด
ทรายที่อยู่บนพื้นได้รับผลกระทบจึงลอยละล่องขึ้นไป
เสวี่ยเสวี่ยที่ถูกปล่อยไว้ยังไม่ทันได้โต้ตอบก็กินทรายเข้าไปเต็มปาก
สุดท้ายหิมะขาวก็ถูกปกคลุมไปด้วยทรายสีเหลืองทั้งหมด
เสวี่ยเสวี่ยค่อยๆ ก้มลงมองดูเนื้อตัวที่สกปรกของตนเอง และเริ่มกัดฟันอย่างอกไม่ได้
สองคนนี้…จริงๆ ก็รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!
น่าเสียดายที่ปฏิกิริยาของมันกลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของสองคนนั้นเลย
สายตาที่ถวนจื่อจ้องมองเปล่งประกายและหัวใจสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น
ในที่สุดจื่อเฉินก็ลงมือเสียที!
ที่ท่าเรือดอกท้อครั้งก่อน พลังของจื่อเฉินที่แสดงออกมายังสูงกว่านางระดับหนึ่ง
ดังนั้นนางจึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจมาโดยตลอด มักจะหาโอกาสต่อสู้กับเขาอยู่เสมอ
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้นางได้ทะลวงชีพจรที่ห้าแล้ว โอกาสชนะยิ่งมีมากขึ้น จึงมิอาจพลาดโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอน!
เมื่อถวนจื่อเห็นสถานการณ์จึงรีบควบคุมเปลวไฟไว้
จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและบินตามขนนกสีดำไป!
ปัง!
พลังที่ถวนจื่อคิดจะสนับสนุนได้ถูกสกัดไว้ที่ครึ่งทาง
ก่อนหน้านี้นางตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ต่อมาจึงทะลวงเข้าสู่การต่อสู้ที่ยิ่งดุเดือนขึ้น!
สุดท้ายนี่คือพลังที่แท้จริงของจื่อเฉิน!
เช่นนี้ก็ดี!
การต่อสู้แบบนี้ถึงจะสนุก!
ทว่าเมื่อนางคิดที่จะลงมือต่อ จู่ๆ ก็มีเสียงเล็กๆ แปลกๆ ดังขึ้นที่ข้างหู
“เอ๊ะ? ใต้ทรายนี้เหมือนจะมีเสียง?”
ถวนจื่อชะงักไปครู่หนึ่งและมองไปที่พื้น จึงเห็นทรายเหล่านั้นไหลทะลักออกมารอบๆ ราวกับความเร็วที่ไม่ปกติ
“นี่คือ…”
นางก้าวไปข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ดวงตาของจื่อเฉินเบิกโพลงและพูดขึ้นในทันที
“ระวัง!”
แต่ก็สายไปแล้ว!
ขาของถวนจื่อกำลังตกลงไป ด้านล่างปรากฏกระแสน้ำวนขึ้นในทันที!
พลังที่แปลกประหลาดอย่างมากได้พุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง และรัดขาของนางไว้จากนั้นจึงดึงนางลงไปอย่างรุนแรง!
“อ๊าก…”
ครู่ต่อมาร่างของถวนจื่อก็หายไปอยู่ที่เดิม!
จื่อเฉินหยุดมือในทันที พลังตีกลับ ทำให้เลือดลมในนร่างกายพลุ่งพล่าน
แต่เขาไม่มีเวลาพอให้มาสนใจเรื่องเหล่านี้ จึงรีบไล่ตามถวนจื่อไปและกระโดดเข้าไปในกระแสน้ำวนนั่น!
แค่เพียงชั่วพริบตาร่างทั้งสองถูกกลืนกินเข้าไปเรื่อยๆ!
เสวี่ยเสวี่ยรับรู้ถึงอะไรบางอย่างจึงกระโดดขึ้นไปและมองลงมาจากด้านบน
ภายใต้กระแสน้ำวน ความมืดมิดอันหนาทึบ
ราวกับดวงตาข้างหนึ่งที่มองโลกนี้อย่างเยียบเย็นและเมินเฉย
………………..