ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2101 ช่วยชีวิต
ตอนที่ 2101 ช่วยชีวิต
………………..
ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เปลวไฟสีทองแดงกำลังลุกไหม้อย่างดุเดือด
ยาอายุวัฒนะสีแดงเข้มลอยอยู่บนพื้นผิวอย่างเงียบสงบ
ร่องรอยเส้นสุดท้ายกำลังค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้น!
เม็ดเหงื่อเล็กๆ ยังคงผุดออกมาบนหน้าผากของฉู่หลิวเยว่ แต่ยังไม่ทันที่เม็ดเหงื่อจะหยดลงก็ถูกอุณหภูมิที่ร้อนระอุของเปลวไฟนั้นระเหยไป
เพราะใช้พลังในร่างมากจนเกินไป ขณะนี้ริมฝีปากของนางขาวซีดแม้แต่ครึ่งเดียวก็ไม่มีสีเลือด
ในเวลานี้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้ายิ่งนัก
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ลมหนาวที่พัดผ่านจากส่วนลึกของทะเลทราย ทั้งยังพัดผ่านทั้งร่างของนางด้วยความหนาวเย็นเข้ากระดูก
มีไฟลุกโชนที่ด้านหน้า และมีลมอันหนาวเย็นที่ด้านหลัง
ความรู้สึกที่ค่อยๆ อ่อนแอลงมาจากภายในร่างกาย
ฉู่หลิวเยว่แอบกัดปลายลิ้นของตน กลิ่นคาวหวานเอ่อล้นอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟันของนาง
ความเจ็บปวดที่กระจ่างชัด ทำให้นางประคองสติเอาไว้จนถึงที่สุด
เวลานี้ร่องรอยสุดท้ายของยาอายุวัฒนะนั่นในที่สุดก็ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์!
กลิ่นยาตลบอบอวลอย่างรุนแรงลอยคลุ้งออกมาจากหม้อต้มโอสถ!
ฉู่หลิวเยว่ปรบมือบนหม้อต้มโอสถ
ยาสะกดวิญญาณพุ่งขึ้นมาทันที!
เปลวไฟสีทองแดงค่อยๆ หลุดลอกออก ตามมาด้วยไฟแห่งกรรมที่สว่างสุกใส
ขณะที่แสงไฟสุดท้ายสลายหายไป ฉู่หลิวเยว่ทะยานขึ้นไป ลมปราณแพร่ไปทั่วและใส่ยาสงบใจลงไปในกล่องหยกที่เตรียมไว้อย่างดี!
ปัง!
กล่องหยกถูกปิดผนึกไว้ ฉู่หลิวเยว่ล้มลงที่พื้น
กลิ่นยาหอมอบอวลที่ลอยอยู่กลางอากาศ นานกว่าจะสลายหายไป
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระรัวเลือดภายในร่างกายราวกับกำลังหลั่งไหล
นางยกกล่องหยกในมือขึ้นและหันหน้ากลับมายิ้มอย่างสดใสให้กับหรงซิวและซูหลีที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“สำเร็จแล้ว!”
ในเวลานี้ยามค่ำคืนมืดมิด ในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เหมือนสีดำกํามะหยี่ ไร้ดวงดาวและดวงจันทร์
ข้างกายของนางในหม้อต้มโอสถสวรรค์ เปลวไฟที่แข็งแกร่งและสว่างสุกใสกำลังลุกไหม้อย่างเงียบๆ
แสงไฟเปล่งประกายสาดส่องลงบนใบหน้าของนาง ราวกับเครื่องเคลือบชั้นดี ดวงตาราวกับหินสีนิลคู่หนึ่งที่เปล่งประกายเจิดจรัส ริมฝีปากสีแดงยกขึ้นและรอยยิ้มที่สดใส
“เยว่เออร์ยินดีด้วย”
ริมฝีปากบางสีแดงเข้มของหรงซิวยกขึ้นเล็กน้อยอย่างชื่นชมที่ไม่ปิดปังในดวงตาของเขา
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าอยู่ก่อนแล้วว่านางจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน แต่การได้เห็นท่าทางดีใจของนาง ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกมีความสุขเช่นเดียวกัน
ซูหลียกนิ้วให้และเอ่ยขึ้นด้วยความจริงใจว่า
“เยว่เออร์ เจ้าเก่งกาจจริงๆ!”
ในเมื่อไม่มีการเตรียมตัวอันใดจึงใช้โอกาสเช่นนี้โดยตรง เพื่อทะลวงขั้นเป็นปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่ในคราวเดียว!
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองสกัดยาสะกดวิญญาณจนถึงตอนนี้ ซึ่งวันเวลาทั้งหมดผ่านไปเพียงสิบกว่าวันและล้มเหลวเพียงสี่ครั้งเท่านั้น!
หากข่าวนี้แพร่ออกไป มิรู้ว่าจะทำให้ผู้คนอิจฉาริษยาขึ้นอีกเท่าไร
ฉู่หลิวเยว่เก็บหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ไป
นางคิดไปคิดมาจึงเอ่ยขึ้น
“อันที่จริงแม้ว่ายาสะกดวิญญาณนี้จะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากเกินไปที่จะสกัดขึ้น ความสำเร็จในครั้งนี้ได้นำโชคมาด้วยบางส่วน”
ซูหลีอึ้งจนพูดไม่ออก
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดขึ้น
“ใช่แล้ว! แม้ว่ายาสะกดวิญญาณจะมีสมุนไพรมากหน่อย แต่วิธีการหลอมอย่างไรนั้น แท้จริงแล้วง่ายยิ่งนัก
ในใบยาที่นางเคยเห็น อยู่ในระดับกลางเท่านั้น
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ และไม่ได้พูดอันใด
เขารับรู้มานานแล้วว่าความเข้าใจของฉู่หลิวเยว่เกี่ยวกับใบยาเหล่านี้ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้
ยาสะกดวิญญาณนับว่าเป็นยาอายุวัฒนะระดับสูงของปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่ที่มีค่าอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ล้วนไม่ง่ายอย่างแน่นอน
แม้จะเป็นปรมาจารย์โอสถผู้ยิ่งใหญ่ที่มีประสบการณ์ หากเป็นครั้งแรกที่สกัดยาสงบใจ จึงมีน้อยคนนักที่เพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถทำสำเร็จได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
แต่ว่า…
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าคำพูดเหล่านี้ไม่จําเป็นต้องพูดกับนาง
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้าของหรงซิว
จึงมองซูหลีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ท่านซู เมื่อมียาสงบใจแล้ว เรื่องที่ช่วยท่านสร้างร่างใหม่ก็ทำได้ง่ายขึ้น และกลับไปหาโครงกระดูกที่เหมาะสมของผู้ฝึกตนระดับเก้า ก็สามารถ…”
ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป นางรีบหันศีรษะอย่างรวดเร็วและมองไปยังส่วนลึกของทะเลทราย!
เกือบจะในเวลาเดียวกัน หรงซิวก็จ้องมองด้วยดวงตาแหลมคม!
เมื่อซูหลีเห็นสิ่งนี้ ลางสังหรณ์ไม่ดีจึงผุดขึ้นมาในใจทันที
“เป็นอันใดไป”
ฉู่หลิวเยว่ไม่พูดอันใดพลางขมวดคิ้วขึ้น
เมื่อครู่…นางขาดคิดต่อกับถวนจื่อและจื่อเฉินไป!
หลังของฉู่หลิวเยว่เย็นวาบทันที
ต้องรู้ว่าหลังจากทำพันธะสัญญาระหว่างสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์ ใจที่เชื่อมถึงกันระหว่างพวกเขา แม้จะอยู่ห่างกันหลายพันลี้ก็ยังสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกันได้
อย่างไรก็ตามในตอนนี้…ราวกับมีมีดแหลมคมตัดขาดการเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นระหว่างพวกเขาออกไป!
เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ยังดีอยู่…
ในเวลานี้หรงซิวจับมือของนางไว้ในทันที
ฝ่ามือของเขาอบอุ่นลและแห้งกร้าน มือที่กุมมือของนางไว้แน่นทั้งทรงพลังและอบอุ่นเป็นที่สุด
เห็นได้ชัดว่าเขาสังเกตุเห็นความตื่นตระหนกของฉู่หล่วเยว่
อุณหภูมิที่เหมาะสม พวยพุ่งมาจากฝ่ามือของเขาและนำพาพลังที่ทำให้สบายใจขึ้น
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดขึ้นทีละประโยคว่า
“ถวนจื่อกันจื่อเฉิน…ติดต่อไม่ได้แล้ว”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและเข้าใจความหมายของฉู่หลิวเยว่ในทันที
เขาบีบมือของนางอย่างแผ่วเบาพลางเอ่ยขึ้น
“อย่างกังวลไป ที่นี่คือทะเลทรายจันทราสีชาด พวกเขาหายไปไม่ได้หรอก”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
หากหาไม่เจอจริงๆ ทำได้เพียงต้องเชิญพวกพี่เป่ามาช่วยเสียแล้ว
พรึบ!
ในเวลานี้เสียงพังทลายดังขึ้นมากจากระยะไกล!
หลายคนเงยหน้ามอง จึงเห็นเงาร่างสีเหลืองและสีขาวสลับไปมาทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว!
เป็นเสวี่ยเสวี่ย!
เมื่อเข้ามาใกล้ฉู่หลิวเยว่จึงเห็นท่าทางของเสวี่ยเสวี่ยในตอนนี้อย่างชัดเจน สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้
เพราะว่า…บนก้นของเสวี่ยเสวี่ยมีรอยไหม้สีดำจางๆ อยู่หลายจุด
“เสวี่ยเสวี่ย นี่เจ้า…”
ขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังเอ่ยถามขึ้น เสวี่ยเสวี่ยก็กระโจนเข้ามาอย่างรวดเร็วและกัดกระโปรงของนาง
มันดึงไปพลาง และส่งเสียงครวญครางต่ำๆ ไปพลาง
ฉู่หลิวเยว่รับรู้ถึงอะไรบางอย่างได้ในทันทีจึงพูดขึ้น
“เจ้าจะพาข้าไปที่ใด ช้าก่อน บาดแผลนี้ของเจ้า…เป็นเพราะถวนจื่อทิ้งไว้ใช่หรือไม่”
ลมปราณปราณนั่น ช่างคุ้นเคยมากจริงๆ!
เสวี่ยเสวี่ยพยักหน้าอย่างพลุ่งพล่านและดึงทึ้งอย่างสุดชีวิต
หรงซิวพูดขึ้นในทันที
“มันรู้ว่าถวนจื่อกับจื่อเฉินอยู่ที่ไหน”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นระรัวและพูดขึ้น
“จริงหรือ!”
หรงซิวพยักหน้าเบาๆ และมองไปทางเสวี่ยเสวี่ย
“นำทางข้างหน้าก็พอ”
“อื้อ!”
เสวี่ยเสวี่ยส่งเสียงตอบรับ พลางหันตัวและวิ่งไปข้างหน้า
ฉู่หลิวเยว่เชิญซูหลีกลับไปที่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นนางกับหรงซิวจึงไล่ตามเสวี่ยเสวี่ยไปด้วยกัน!
สายลมยามราตรีที่หนาวเย็นปะทะเข้าที่หน้า
ฉู่หลิวเยว่กับหรงซิวเร่งความเร็วสุดกำลัง ร่างของทั้งสองหายเข้าไปในคืนอันมืดมิดอย่างรวดเร็ว