ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2115 พระราชวัง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนาง ทุกคนต่างมองมาราวกับสายตาที่จ้องมองคนเสียสติ
ฉู่หลิวเยว่ไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือ
เมื่อครู่คนตายผู้นั้นน่าเวทนามากเพียงใด ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเห็น!
หากก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ไต่ตรองเช่นนี้ เท่ากับเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงอย่างมาก!
ชือรุ่ยเออร์ตะโกขึ้นในทันที
“ทางนั้นอันตราย! เจ้าอย่าเพิ่งไป!”
ฉู่หลิวเยว่ยื่นนิ่งและหันกลับไปถามขึ้นว่า
“หากไม่ไปตอนนี้ เช่นนั้นจะไปเมื่อใด พวกเราเดินมานานเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการเข้าไปดูด้านในหรอกหรือ”
ชือรุ่ยเออร์ชะงักไปชั่วครู่ และสับสนอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า
“เช่น…เช่นนั้นก็รอไปก่อนก็ได้ ทุกคนปรึกษาร่วมกันเพื่อวางแผนรับมือกับอันใดบางอย่าง…”
เตรียมพร้อมให้มากขึ้นจะเป็นการดี
เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ดูเหมือนไม่ค่อยได้ยิน ชือรุ่ยเออร์จึงมองไปทางหรงซิวอีกครั้งพลางพูดขึ้น
“องค์ชาย ท่านห้ามนางที!”
หรงซิวกลับยกมุมปากโค้งเล็กน้อย และยกเท้าตามขึ้นไป
“ไม่ช้าก็เร็วต้องเข้าไป ไม่มีอันใดต่าง”
ชือรุ่ยเออร์ตกใจจนพูดไม่ออก
สามีภรรยาคู่นี้ช่างคิดไม่ตกเช่นนี้?
พวกเขาเก่งกาจพออยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้รับสมบัติตามในข่าวลืมนั่น ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากมายนักไม่ใช่หรือ
เหตุใดต้องทำอะไรที่อันตรายและเสี่ยงชีวิตเช่นนี้
พลังของเขาสูงกว่าฉู่หลิวเยว่อย่างมาก ถึงแม้มีอันตรายอันใดก็ตาม เขาก็สามารถหยุดเอาไว้ได้ที่ด้านหน้า
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มและส่ายหัวพลางพูดขึ้น
“ขอบคุณในความหวังดีของผู้อาวุโสอี้เจา แต่ข้าคิดว่า ข้าไม่ต้องการ”
อี้เจาจ้องมองนางครู่หนึ่งและไม่ได้พูดอะไร จากนั้นจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ความสามารถของฉู่หลิวเยว่เขารู้ดี ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ ก็ควรฟังนางก็พอ
ชือรุ่ยเออร์จ้องมองอย่างกังวลใจอยู่ด้านหลัง สุดท้ายเพียงกัดฟันและตามขึ้นไป
หากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ และอยู่ใกล้พวกนางสักหน่อยอาจะสามารถช่วยอะไรกันได้บ้าง
ครั้งนี้ไม่มีใครแย่งชิงอีกแล้ว
ดังนั้นสายตาของผู้คนจับจ้องอยู่ที่ฉู่หลิวเยว่ เพื่อต้องการเห็นสิ่งที่รอคอยนางอยู่นั้นคือสิ่งใดกัน
ตั้งแต่ศึกท่าเรือดอกท้อกับอี้เหวินเทา ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเพิ่มขึ้น
หลายคนก็อยากรู้อยากเห็นอย่างมากว่าจริงๆ แล้วนางแข็งแกร่งสักเท่าใดกัน
…
ฉู่หลิวเยว่พุ่งขึ้นไปและยื่นอยู่ตรงด้านหน้าประตูหินของพระราชวังนั่น โดยหันหน้าเข้าหากันจากระยะไกล
นางกลั้นลมหายใจ และยกมือเพื่อตรวจสอบทางด้านหน้า
บนนิ้วเรียวขาวละเอียดสวมแหวนเฉียนคุนที่เรียบง่ายเอาไว้
โล่ผสานนภาก็เป็นหนึ่งในนี้!
เมื่อไม่มีใครเข้ามาใกล้ ค่ายกลที่โปร่งใสนั่นก็จะไม่ปรากฏขึ้นมาและไม่อาจสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
แต่ฉู่หลิวเยว่จำตำแหน่งของค่ายกลที่ปรากฏเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน
นางค่อยๆ เอื้อมมือออกไปข้างหน้า
ทันใดนั้นพลังสกัดกั้นที่ดูคลุมเครือได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง
นางตั้งจิตมั่นและดำเนินการต่ออย่างไม่ลังเล!
ค่ายกลโปร่งใสปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
ผู้คนที่รอยคอยอยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น หัวใจกลับเต้นแรงสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัวจนหัวใจแทบจะทะลุออกมาจากอก!
และยังมีบางคนที่ถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบถึงตนเอง
ทว่าครู่ต่อมา เกิดภาพเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงขึ้น!
มือนั้นของฉู่หลิวเยว่ทะลุผ่านค่ายกลได้อย่างราบรื่น!
ค่ายกลโปร่งแสงนั้น ไม่เพียงแต่ไม่โจมตีนางแต่อย่างใด แต่ยังปล่อยให้นางเข้ามาได้อย่างราบรื่น!
ภาพราวกับหยุดนิ่ง
ทุกคนต่างไม่ถึงว่าทิศทางของเรื่องนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!
ในความเงียบสงัดอันน่าประหลาด ฉู่หลิวเยว่ยังคงมุ่งหน้าเดินต่อไป!
ร่างของนาง ข้ามค่ายกลได้อย่างราบรื่นและเข้าไปข้างในได้สำเร็จ!
โดยไม่ได้บาดเจ็บอันใด!
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมองค่ายกลโปร่งใสที่อยู่ด้านหลัง และถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
อีกทั้งการแสดงออกบนสีหน้าของทุกคน เปลี่ยนเป็นความสดใสอย่างมากในทันที
นี่ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ตอนที่คนนั้นก้าวไปข้างหน้าเมื่อครู่ ยังไม่ทันได้ตอบโต้กลับแม้แต่น้อย ก็ถูกค่ายกลบดขยี้และกลืนกินเข้าไป เหตุใดเมื่อถึงตาฉู่หลิวเยว่ ทุกอย่างถึงได้แตกต่างกันนัก
เมื่อครู่นางไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไร! และเข้ามาในค่ายกลนั่นได้อย่างง่ายดาย
ในทันทีที่หรงซิวก้าวขาคู่ยาวและเดินเข้าไป
เมื่อทุกคนมีปฏิกิริยา ฉู่หลิวเยว่และคณะก็มาถึงภายในค่ายกลแล้ว
ฉู่หลิวเยว่พุ่งไปหาชือรุ่ยเออร์ที่ตะลึงงันเงยหน้าพูดขึ้นว่า
“ตามมาให้ทัน”
เดิมทีนางยังรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก แต่เห็นสีหน้าท่าทางสบายใจของฉู่หลิวเยว่ ในใจของนางจึงรู้สึกสบายใจอยู่หลายส่วนอย่างอธิบายไม่ได้
นางกัดฟันกรอกๆ และพุ่งตามเข้าไปอย่างไม่ลังเล!
ราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งครอบงำผ่านร่างของนาง!
แต่ความรู้สึกเช่นนี้คงอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้นและหายไปในชั่วพริบตา
อีกทั้งในตอนนี้นางเข้ามาด้านในค่ายกลได้สำเร็จ!
ชือรุ่ยเออร์พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจและดีใจว่า
“มาแล้ว!”
ผู้อาวุโสหลายท่านที่อยู่ด้านหลังเมื่อเห็นฉากนี้ จึงตามเข้ามากันเรื่อยๆ
ทั้งหมดราบรื่น
เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวก่อนหน้า ไม่ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมาและมองไปทางพระราชวังที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า
มีหมอกขาวล่องลอยเข้ามา
นางมองอยู่ครู่หนึ่งจึงพบว่าเกิดการรวมตัวของพลังสวรรค์และโลกอย่างสมบูรณ์
ระดับพลังปราณดั้งเดิมที่รุนแรงภายในค่ายกลนี้ ไม่รู้ว่าเหนือกว่าท่าเรือดอกเท่าสักเท่าใด
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ และระงับคลื่นพลังภายในและมุ่งตรงไปข้างหน้า
ไม่ต้องให้นางเคลื่อนไหว พลังเหล่านี้ก็หลั่งไหลเข้าสู่ในร่างกายของนางโดยตรง
และนอกจากนางแล้ว คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นนี้
ชือรุ่ยเออร์ พูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า
“ข้าไม่เคยเห็นพลังแห่งสวรรค์และโลกเช่นนี้มาก่อน! นี่คือที่ใดกัน หากสามารถฝึกฝนในที่แห่งนี้…
เช่นนั้นระดับของการทะลวงขั้น ไม่รู้ว่าจะรวดเร็วเพียงใด
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ทุกคนที่รอคอยอยู่ด้านนอกต่างเคลื่อนไหวอย่างวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง
จนบางคนที่ควบคุมไม่ได้ก็ตามขึ้นมา
………………..