ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2117 ห่างไกลอยู่มาก
ตอนที่ 2117 ห่างไกลอยู่มาก
………………..
ฉู่หลิวเยว่ตรวจสอบขวานสุริยันมรกตกับภาพเมฆาเคลื่อนคล้อยอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้ยังไม่พบกับเรื่องเช่นนี้
นางหันไปมองหรงซิวและเอ่ยถามขึ้น
“หรงซิว ง้าวว่านเฟิงมีอันใดผิดปกติอย่างนั้นหรือ”
หรงซิวส่ายหน้า
ฉู่หลิวเยว่จึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ดูเหมือนว่ามันเริ่มต้นจากหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์…
บัดนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะหยุด
นางตั้งมั่นและยกเท้าขึ้นเพื่อมุ่งไปข้างหน้า
แต่ทว่านางไม่สามารถก้าวข้ามไปได้
ตรงหน้านางมีความกดดันที่มองไม่เห็นที่สกัดกั้นนางจากนอกจัตุรัสหยกดำ!
หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ทั้งหมดก็จบลงด้วยความล้มเหลว
ในที่สุดฉู่หลิวเยว่จึงเรียกหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ออกมา
ตุ๊บ!
ภาชนะสี่เหลี่ยมตกลงบนพื้นด้านหน้าอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงเบาๆ ขึ้น
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองเข้าไปด้านใน
เพียงเวลาชั่วครู่ เพลิงแห่งกรรมที่อยู่ด้านในก็อ่อนลงอย่างมาก
ต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้!
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดในใจ
ขณะที่เห็นในทันที ทุกคนต่างอย่างรู้อยากเห็นและอิจฉาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทว่ากลับไม่มีใครกล้าเผยให้เห็นสีหน้าละโมบโลภมากแม้แต่ครึ่งส่วน
แม้ว่าสมบัติจะล้ำค่า แต่ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า
ไม่ต้องพูดถึงฉู่หลิวเยว่เองก็เป็นคนที่ยั่วยุได้ยาก อีกทั้งไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆ อย่างหรงซิวก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนหวาดกลัว
มีเพียงคนที่สมองมีปัญหาเท่านั้นถึงเลือกที่จะแย่งชิงของฉู่หลิวเยว่ในเวลานี้!
แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้ของฉู่หลิวเยว่หมายถึงอะไร จึงทำได้เพียงแอบคาดเดาในใจเท่านั้น
ปัง!
ฉู่หลิวเยว่ตบบนหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ด้วยฝ่ามือเดียว!
และถ่ายพลังปราณเดิมอันทรงพลังเข้าไป!
ตู้ม!
เพลิงแห่งกรรมโปร่งใสเพิ่มขึ้น!
…
ความมืดมิด
ที่กว้างใหญ่ไร้จุดสิ้นสุดราวกับไม่มีทางหลบหนีได้ตลอดไป
เมื่อถวนจื่อลืมตาขึ้น จึงเห็นภาพเช่นนี้
เมื่อทอดสายตาไปรอบๆ ในทุกทิศทางล้วนมืดทึบเหมือนกับมิอาจเปิดออกได้
เดิมทีนางนอนอยู่บนพื้น หลังจากตอบโต้ไปชั่วครู่ นางก็จำสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้อย่างเลือนลาง
นางจำได้เพียงว่าเดิมทีตนเองกำลังต่อสู้กับจื่อเฉิน แต่ขณะที่ต่อสู้ไปมานั้น จู่ๆ กระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของนาง
นางยังไม่ได้ได้ตรวจสอบก็ถูกกลืนกินเข้าไปในกระแสน้ำวนโดยตรง
ตั้งแต่นั้นมานางก็หมดสติไปจนถึงตอนนี้ที่เพิ่งจะได้สติขึ้นมา
ตรงกลางเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้น นางจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“จื่อเฉิน? จื่อเฉิน!”
นางตะโกนพลางลุกขึ้นยืน
เสียงโซ่ตรวนที่กวัดแกว่ง ได้ลากตัวของนางกลับไป
ปัง!
หัวของถวนจื่อชนเข้ากับกำแพงที่แข็งอย่างมาก
“โอ้ย…เจ็บมากเลย!”
ถวนจื่อกัดฟันและนวดหัวตัวเองไปมา
เมื่อนวดไปได้ครึ่งหนึ่งในที่สุดนางก็รับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในใจเคลื่อนไหวและเปลวไฟสีทองแดงก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของนาง
แสงไฟลุกโซน ส่องสว่างไปทั่วทั้งสวรรค์และโลกในชั่วพริบตา
นางมองดูมือทั้งคู่ของตน และพบว่าข้อมือของนาง แท้จริงแล้วถูกมัดเอาไว้ด้วยโซ่ดำ
และด้านหลังของนางมีกำแพงสีดำ
ปลายอีกด้านหนึ่งของโซ่ตรึงอยู่ด้านบนกำแพงนี้
ถวนจื่อชะงักงันอยู่พักหนึ่ง
เช่นนี้นาง…ถูกขังเอาไว้อย่างนั้นหรือ!
หลังจากที่นางกลับมามีสติ นางก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในทันที!
“ใคร! ใครช่างใจกล้าบ้าบิ่น กล้าลงมือกับหญิงสาว! ออกมาเดี๋ยวนี้!”
นับตั้งแต่นางทะลวงขั้นเป็นหงส์ทองคำ โดยเฉพาะตั้งแต่กลายเป็นนายน้อย ก็ไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้กับนาง!
บริเวณรอบๆ เงียบสงัด มีเพียงเสียงของนางที่ดังก้องไปทั่ว
สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ปิดโดยเฉพาะ
ถวนจื่อรออยู่พักหนึ่ง และยังคงไม่มีการตอบสนองอันใด
นางกัดฟันและตั้งใจที่จะทำลายโซ่ที่ข้อมือ
โซ่เส้นนี้แปลกประหลาดอย่างมาก!
นางเตะเข้าที่กำแพงอย่างแรง
ช่วงที่กำลังต่อสู้กับจื่อเฉินอย่างสบายใจนั้น ใครจะรู้ว่า จู่ๆ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!
ก็ไม่รู้ว่าอาเยว่…
ทันใดนั้นสีหน้าของถวนจื่อก็แข็งทื่อขึ้น
ในขณะนั้นที่นางพบว่า การติดต่อระหว่างนางกับอาเยว่ดูเหมือนจะถูกตัดขาดไป!
ในที่สุดถวนจื่อก็รู้ตื่นตระหนกขึ้น และพยายามอยู่หลายครั้งติดต่อกัน จนมั่นใจว่าตนเองได้ขาดการติดต่อกับอาเยว่โดยสิ้นเชิง!
แม้ว่าจะมีพันธสัญญาระหว่างพวกนาง…ก็ยังคงเป็นเช่นนี้!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
คอของถวนจื่อแหบแห้งเล็กน้อย และหัวใจก็เต้น ตึกตัก!
เมื่อถึงเวลานี้ในที่สุดนางก็คิดได้ว่า เรื่องต่างๆ ดูเหมือนจะยิ่งร้ายแรงกว่าที่นางคาดไว้…
“จื่อเฉิน?”
นางตะโกนเรียกอีกสองสามคำ เพียงหวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากจื่อเฉิน
หากจำไม่ผิด ขณะที่นางตกลงไปในกระแสน้ำวน ดูเหมือนจื่อเฉินจะตามนางลงมาด้วย…
แม้ว่าจะไม่สามารถติดต่ออาเยว่ได้ชั่วคราว แต่ยังดีหากพอจะพูดคุยกับจื่อเฉินได้
ทว่ากลับทำให้นางผิดหวัง ไม่ว่านางจะตะโกนอย่างไรก็ไม่สามารถได้ยินเสียงของจื่อเฉิน
คิ้วของถวนจื่อค่อยๆ ย่นขึ้น
ในขณะนี้ลมปราณเย็นๆ ได้เข้ามาล้อมรอบจากทุกทิศทุกทาง!
ถวนจื่อตกตะลึงและเงยหน้าขึ้นมองด้วยลางสังหรณ์
ดวงตาสีแดงก่ำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้านาง!
ถวนจื่อพ่นลมหายใจเย็นๆ ออก
ดวงตาคู่นี้ดูเหมือนการมีอยู่อย่างลึกลับภายใต้กระแสน้ำวนนั่นหรือ!
นางกัดฟันแล้วพูดขึ้นทีละคำ
“เป็นเจ้า ที่พาหญิงสาวคนนี้ลงมาและขังไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือ!”
สายตานั้นมองนางเช่นนั้น
เสียงที่ยากจะอธิบายและแยกได้ยากดูเหมือนจะดังมาจากที่ห่างไกล
“น่าเสียดายที่เพิ่งเปิดชีพจรที่ห้าได้ เมื่อเทียบกับอี้หลิงแล้วยังห่างไกลอยู่มาก”
ถวนจื่อตัวแข็งค้าง
อี้หลิง…คือชื่อของบรรพบุรุษ!