ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2119 ช่วยเหลือ
ตอนที่ 2119 ช่วยเหลือ
………………..
ประตูบานใหญ่ปิดตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อย?
แต่ตอนนี้เหยาหลินไม่มีเวลาไปคิดเรื่องนั้นแล้ว
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็วิ่งตรงไปที่ประตูหินบานนั้น
เหยาปินและคนของมณฑลแห่งแสงอินทนิลคนอื่นๆ ก็รีบติดตามไปทันที
เหยาปินวิ่งไปด้วยความเร็วสูง เขาพุ่งตรงไปที่ประตูหินเป็นคนแรก
เขาวางมือบนประตูหินนั้นแล้วออกแรงผลักอย่างไม่ลังเล!
ประตูหินบานนั้นไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
หัวใจของเหยาปินจมดิ่ง
ตัวเขาอยู่ในระดับเทพขั้นสูง แต่ห่างจากระดับเทพศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น ดังนั้นฝีมือของเขาจึงไม่ได้อ่อนแอ
แต่คาดไม่ถึงว่า แค่ประตูบานเดียวก็ยังเปิดไม่ออก?
เขาสูดลมหายใจเข้าแล้วทดลองอีกครั้ง
ในครั้งนี้เขาใช้เต็มกำลัง
แต่ประตูหินก็ยังไม่เปิดออก
ตอนนั้น คราบเลือดบนร่างกายของเหยาหลินก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เลือดสีแดงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ข้าก็จะช่วยด้วย!”
“ข้าด้วย!”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ผิดปกติ คนจำนวนไม่น้อยจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ
คนที่สามารถมาถึงตรงนี้ได้ ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เมื่อเขาเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว พวกเขาจะไม่รับรู้ถึงอันตรายได้อย่างไร
หากพวกเขาต้องถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไป สุดท้ายก็จะไม่มีใครรอดไปได้สักคน!
เมื่อมองไปที่ประตูหินที่น่าเกรงขาม หัวใจของทุกคนก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที ความรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวแผ่กระจายออกไปทั่วทุกที่
และในตอนนั้นพลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบก็ถ่ายเทเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง!
คนที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และยังมีคนที่กำลังจะต้านทานไม่ไหวแล้ว
“ที่นี่มันเป็นสถานที่แบบใดกันแน่!”
เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันคือขุมสมบัติ แต่ใครจะรู้เล่าว่า
ตู้ม!
ร่างกายของเหยาหลินโงนเงนล้มลงพื้นแล้วสลบไป
“น้องสี่!”
เหยาปินตกใจมาก และรีบเข้าไปพยุงเขา
“อย่าขยับ!”
ทันใดนั้นเสียงที่กระจ่างใสหนึ่งก็ดังขึ้น
เหยาปินหันกลับไปมอง คาดไม่ถึงว่าคนที่พูดคือ ฉู่หลิวเยว่
เขาหยุดการกระทำทันทีโดยไม่รู้ตัว
“ซั่ง…นายท่านเยว่?”
เดิมทีเขาจะเรียกอีกฝ่ายว่า “ซั่งกวนเยว่” แต่เมื่อพูดออกไปแค่คำแรก เขาก็นึกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าของท่าเรือดอกท้อแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำเรียกขาน
แม้ว่ามณฑลแห่งแสงอินทนิลจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับจวนเยว่แห่งท่าเรือดอกท้อที่กำลังรุ่งเรือง ก็นับว่าอยู่รองลงมาหนึ่งขั้น
การเรียกขานเช่นนี้ก็นับว่าให้เกียรติมาก
ฉู่หลิวเยว่เดินเข้ามา
“เขากลืนกินพลังไปเป็นจำนวนมากเกินไป เกินขีดจำกัดที่ร่างกายของเขาจะรับไหวแล้ว ตอนนี้หากไปขยับเขยื้อนร่างกายเขาตอนนี้ และไม่ระวังเพียงนิดเดียวร่างกายของเขาก็จะระเบิดจนตายได้ เมื่อถึงตอนนั้นเกรงว่าท่านอ๋องเหยาก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย”
“ทุกท่าน ขอทางหน่อย ข้าขอดูว่าจะสามารถช่วยเขาได้หรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
เหยาปินชะงักไป
“นายท่านเยว่หมายความว่า…มีหนทางช่วยเขาหรือ!”
ฉู่หลิวเยว่กล่าว “ข้าลองดูเท่านั้น หากท่านอ๋องไม่ยินยอม…”
“ยินยอม!”
เหยาปินรีบพยักหน้า
เขารู้ดีว่า เพียงแค่กำลังของพวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือเหยาหลินได้แน่นอน
หากฉู่หลิวเยว่ลงมือช่วย บางทีอาจจะมีความหวังริบหรี่?
ไม่เห็นคนที่อยู่ด้านหลังนางที่กำลังยืนอยู่หรือ!
รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น!
เมื่อพูดจบ เขาก็ถอยหลังลงมาหลายก้าว เพื่อให้ฉู่หลิวเยว่เข้าไปดูอาการ
คนที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังลงมาด้วย
ฉู่หลิวเยว่เดินไปที่ด้านข้างของเหยาหลินแล้วคุกเข่านั่งลง นิ้วสองนิ้ววางลงบนเส้นชีพจรของเขา
ภายในร่างกายของเหยาหลินมีพลังกำลังพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
พลังที่น่าตกใจขนาดนี้ เดิมทีเหยาหลินก็ไม่สามารถควบคุมได้อยู่แล้ว เป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานวิญญาณและร่างกายของเขาจะต้องดับสูญแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจ ไข่มุกธาราภายในเถียนตันของเขาค่อยๆ โคจรอย่างเชื่องช้า
หลังจากนั้นไม่นาน พลังภายในร่างกายของเหยาหลินก็เริ่มถ่ายเทเข้ามาในเถียนตันของนาง!
ทุกคนมองเหตุการณ์ด้านข้างด้วยความตื่นเต้น หลังจากผ่านไปสักพัก ลมปราณที่บ้าคลั่งของเหยาหลินก็ค่อยๆ สงบลง
“นายท่านเยว่! แบบนี้มันจะอันตรายเกินไป!”
เหยาปินต้องการจะเอ่ยปากห้ามนาง
แม้เขาจะไม่อยากเห็นน้องสี่ต้องตายแบบนี้ แต่หากต้องทำร้ายคนอื่นเพราะเรื่องนี้ พวกเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นเดียวกัน
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาแล้วพูดเสียงเรียบ
“ข้ารู้ตัวเองดี”
เหยาปินชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็คิดได้ว่า ‘ฉู่หลิวเยว่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่เหตุใดถึงเสี่ยงอันตรายเพื่อพวกเขาแบบนี้?’
ที่นางทำแบบนี้เพราะนางมีไพ่ไม้ตายอยู่แน่นอน!
เหยาปินมองไปทางหรงซิวที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าสงบนิ่ง และไม่มีท่าทีเป็นกังวล
เหยาปินจึงรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
ใช้วิธีแบบนี้ช่วยเหลือคน…ฉู่หลิวเยว่ไม่กลัวว่าตนเองจะเป็นอะไรไปเลยอย่างนั้นหรือ
แม้นางจะมีฝีมือแข็งแกร่ง แต่นางไม่ได้เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ หากนางทำเช่นนี้เกรงว่าคงจะยืนหยัดได้ไม่นาน
หลังจากผ่านไปครึ่งเค่อ ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ปล่อยมือ แล้วลุกขึ้นยืน
“เอาล่ะ เขาน่าจะยังยืนหยัดได้อีกสักพักหนึ่ง”
เหยาปินสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้าแล้วสำรวจร่างกายอีกฝ่ายอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็พบว่าพลังที่จะพลุ่งพล่านภายในร่างเหยาหลินนั้นได้สลายหายไปหมดแล้ว
เขามองไปทางฉู่หลิวเยว่ด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็พบว่านางมีสีหน้าเป็นปกติ เหมือนว่า…ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยด้วยซ้ำ?
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง จากนั้นแบ่งพลังส่วนหนึ่งลงไปในกระบี่ชื่อเซียว
พรึ่บ!
เสียงกระบี่ดังลั่น!
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้น นางยกกระบี่ชื่อเซียวขึ้นสูงแล้วฟันลงไปอย่างแรง!
ปราณกระบี่ที่มีพลังรุนแรงพุ่งตรงไปที่จัตุรัสหยกดำ!
“แหลกไปซะ!”
“ตู้ม!”
พลังอันรุนแรงปะทะกันจนมีเสียงดังเกิดขึ้น!
พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือนขึ้นมาทันที!