ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2130 ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาแย่งสิ ตอนที่ 2131 จากไป
ตอนที่ 2130 ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาแย่งสิ ตอนที่ 2131 จากไป
………………..
ตอนที่ 2130 ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาแย่งสิ
ดวงตาที่อยู่ด้านบนนั้นกำลังจ้องมาทางเขา
เปลวเพลิงสีดำในดวงตาของหรงซิวกลุ่มหนึ่งพวยพุ่งขึ้นและลุกโชนอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม!
วินาทีถัดมาเขาก็ยกมือขึ้น แล้วหันไปมองทางถวนจื่อ!
กร๊อบ!
โซ่ตรวนที่ตรึงข้อมือทั้งสองข้างของถวนจื่อหักออกในทันที!
“อาเยว่!”
ถวนจื่อตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าสู่อ้อมกอดของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่กอดนางแน่น
“จื่อเฉินล่ะ?”
ถวนจื่อถาม
เช็ดเลือดที่อยู่บนใบหน้าของถวนจื่ออย่างระมัดระวัง “วางใจเถอะ จื่อเฉินปลอดภัยแล้ว”
เมื่อครู่นี้ตอนที่ถวนจื่อกำลังจะอาละวาด นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ดังนั้นจึงเรียกจื่อเฉินกลับเข้าไปในร่างกายแล้ว
ยังดีที่ตอนนั้นบนร่างกายของจื่อเฉินไม่มีโซ่พันธนาการ อีกทั้งจากการช่วยเหลือของโหมวเจิน อาการบาดเจ็บของเขาจึงฟื้นคืนสภาพขึ้นมาบ้าง ขั้นตอนทุกอย่างถือว่าเต็มไปด้วยความราบรื่น
“เจ้าก็กลับเข้ามาก่อนเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
ถวนจื่อโอบลำคอของนาง “แต่ว่า…”
ดวงตาดวงนั้นมันอันตรายมากเลยนะ!
“เชื่อฟังข้านะ”
การที่ขาดการติดต่อกับถวนจื่อ ไม่มีทางรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นหรือตาย ซ้ำยังต้องเห็นว่านางผ่านอันใดมามากมายขนาดนั้น…
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้านเล็กน้อย นางกดจูบที่หน้าผากของถวนจื่อ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“วางใจเถอะ ความทุกข์ทรมานของเจ้ากับจื่อเฉิน ข้าจะเป็นคนมอบคืนให้มันเอง”
…
หลังจากปลอบประโลมถวนจื่อแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ลุกขึ้นแล้วเงยหน้ามอง
“เป้าหมายของเจ้า คือข้ามาตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่”
แม้ว่าจะเป็นคำถาม แต่น้ำเสียงของนางหนักแน่นและแน่วแน่
มีเพียงคำตอบนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถอธิบายเรื่องก่อนหน้านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล
“บนตัวของข้า มีของบางอย่างที่เจ้าต้องการอยู่สินะ?”
นางถามต่อ
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบคำถามของนาง
ภายในท้องพระโรงปกคลุมด้วยความเงียบ
ฉู่หลิวเยว่กลืนกลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งอยู่ในริมฝีปากลงไป ดวงตาของนางเฉียบคม
จากนั้นเงาสีดำสว่างวาบขึ้นที่ตรงหน้าของนาง โล่ผสานนภาปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนาง
ตึง!
โล่ผสานนภากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง!
บนพื้นมีรอยแตกร้าวหลายสายปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“สิ่งที่เจ้าต้องการคือของชิ้นนี้ใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ใช้มือตีลงไปที่โล่ผสานนภา ทันใดนั้นบนโล่นั้นก็เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด
มุมปากของนางยกโค้งขึ้น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
“ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาแย่งสิ!”
ในที่สุด ดวงตาดวงนั้นก็มองมาที่นางอย่างเยาะเย้ย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอันใด แต่ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถมองเห็นร่องรอยของการดูถูกเหยียดหยามได้อย่างชัดเจน
สายตานั้น เหมือนกำลังทอดมองมาจากด้านบน เหมือนเขากำลังคิดว่า คำพูดของนางนั้นช่างน่าขันมาก
“หนึ่งเทพศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งเทพขั้นสูง… ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะมีความมั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะ”
ฉู่หลิวเยว่เมินเฉยต่อเสียงนั้น จากนั้นนางก็สะบัดแขนเสื้อของตัวเอง แล้วนั่งสมาธิ!
หากเทพขั้นสูงสู้ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นนางก็จะทะลวงด่านสู่เทพศักดิ์สิทธิ์!
นางหลับตาลง มือทั้งสองข้างวางที่หน้าตัก
วินาทีต่อมา พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบก็เริ่มถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างบ้าคลั่ง!
…
ผู้คนที่ยืนรออยู่ด้านนอกท้องพระโรงสามารถสังเกตได้ถึงอันใดบางอย่างที่ผิดปกติ
พลังจำนวนมากหมุนวนอยู่เหนือพระราชวังแห่งนี้
พลังแห่งสวรรค์และโลกจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งตรงมาที่ด้านล่าง!
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ในตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น
เฉินอีที่ยืนอยู่ด้านหลังของกลุ่มคนกลับขมวดคิ้วมุ่น
เห็นได้ชัดว่านายท่านกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่!
อีกฝ่ายกลืนกินพลังแห่งสวรรค์และโลกจำนวนมากขนาดนี้ในคราเดียว หรือว่านางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?
ตอนที่ 2131 จากไป
ครืน…
“นี่มัน…เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
“ประตูหินเปิดแล้ว พวกเราออกไปได้แล้วใช่หรือไม่?”
“ไม่หรอกมั้ง…ข้าว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างแปลกประหลาด พวกเราอย่าเพิ่งทำอันใดวู่วามจะดีกว่า”
…
ทุกคนกระซิบกระซาบ หลังจากที่พูดคุยกันไปสักระยะหนึ่ง ก็ไม่มีใครที่จะเลือกเดินไปด้านหน้าเลย
ที่แห่งนี้ ทุกหนแห่งล้วนอันตราย ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานมาไม่น้อย และเห็นว่ามีคนตายไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่กล้าเสี่ยงอันใดแล้ว
“หากออกไปตอนนี้จะปลอดภัยที่สุด”
เชียงหว่านโจวหันมองไปทางประตูหิน จากนั้นก็พูดพึมพำเสียงต่ำ
โหมวเจินที่ยืนอยู่ด้านข้างเชียงหว่านโจวได้ยินดังนั้นก็ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
“เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่าอันใดนะ?”
เชียงหว่านโจวเม้มริมฝีปาก
“ข้าพูดว่า อยู่ที่นี่ต่อจะอันตรายยิ่งกว่า หากไม่ไปในตอนนี้ หลังจากนี้หากอยากจะไปก็คงเป็นเรื่องยากแล้ว”
โหมวเจินชะงักไปเล็กน้อย
“เจ้ารู้ได้อย่างใด?”
เชียงหว่านโจวเงียบไปชั่วครู่
“ข้าเดา”
โหมวเจินไม่คิดเช่นนั้น
เด็กน้อยคนนี้เงียบมาโดยตลอดทาง แต่เขาจะมาพูดขึ้นเพราะการคาดเดาของตนเองอย่างนั้นหรือ?
นอกเสียจาก…เขามั่นใจมาก!
“ข้าจะไปดู”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินไปที่ประตูหินบานนั้น
สายตาของทุกผู้คนจับจ้องไปทางเขา
สงสัย ประหลาดใจ อยากรู้อยากเห็น…
เฉินอีเพิกเฉยต่อสายตาเหล่านั้น
เขารีบมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของประตูหิน ก่อนสาวเท้าก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล!
หัวใจของทุกคนกระตุกวูบและเด้งขึ้นมาอยู่ที่ลำคอ…
ไม่มีอันใดเกิดขึ้น เฉินอีเดินเข้าไปในประตูหินได้อย่างราบรื่นปลอดภัย
หลังจากเขารออยู่สักครู่หนึ่ง จนเห็นม่านพลังที่อยู่ด้านนอก เขาจึงเดินกลับมา
“ม่านพลังที่อยู่ด้านนอกก็เปิดแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้นผู้คนก็รู้สึกกระสับกระส่ายทันที
“ม่านพลังก็เปิดแล้ว?”
ชือรุ่ยเออร์ถามขึ้นด้วยความตกใจ
เฉินอีพยักหน้า จากนั้นก็ประสานมือทำความเคารพก่อนพูดว่า
“คุณหนูรองที่แห่งนี้อันตรายนัก ไม่ควรรั้งรออยู่นาน ท่านออกไปก่อนดีกว่าขอรับ”
ชือรุ่ยเออร์คิดไม่ถึงว่าเฉินอีจะพูดเช่นนี้ นางจึงชะงักไปครู่หนึ่ง
“แต่ว่า…เยว่เออร์ยังอยู่ด้านใน…”
เฉินอีพูดว่า
“นายท่านกับฝ่าบาทมีวิธีจัดการเรื่องนี้ ตอนนี้ขอให้ทุกท่านดูแลตนเองให้ดีเสียก่อน”
ชือรุ่ยเออร์ลังเลเล็กน้อย
ด้านหนึ่ง นางยังคงเป็นกังวลที่ทั้งสองคนถูกขังอยู่ภายใน อีกด้านหนึ่ง นางก็รู้ดีว่าสิ่งที่เฉินอีพูดมานั้นใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
ท้ายที่สุดแล้วด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากอยู่ด้านในก็จะอันตรายกว่าจริงๆ
ตอนนี้ประตูหินเปิดแล้ว อีกทั้งม่านพลังที่อยู่ด้านนอกก็เปิดแล้วเช่นกัน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจากไป
หากยังอยู่ที่นี่ต่อ บางทีอาจจะทำให้พวกเขาลำบากมากยิ่งขึ้น…
นางครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นก็ตัดสินใจขึ้นอย่างรวดเร็วว่า
“ได้! ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปรอด้านนอกกันก่อน พวกเจ้า…”
“แน่นอนว่าข้าจะเดินเคียงข้างนายท่าน”
เฉินอีพูดขึ้นด้วยใบหน้าราบเรียบ
เมื่อมองไปทางเฉินอีที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าสีหน้าของเขาจะยังสงบราบเรียบเช่นเดิม แต่ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความยืนหยัดหนักแน่น
โหมวเจินพูดว่า
“เจ้าพูดได้ถูกต้อง สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถรั้งรออยู่ได้นาน การออกไปโดยเร็วถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ส่วนสถานที่แห่งนี้ มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้นังหนูเยว่เออร์กับหรงซิวเป็นอันใดไปเด็ดขาด”
ทันใดนั้นชือรุ่ยเออร์ก็รู้สึกวางใจขึ้นมาก
นั่นหมายความว่า โหมวเจินและอี้เจาตั้งใจจะอยู่ที่นี่ต่อไป
หากทั้งสองคนนี้คอยอยู่ช่วยเหลือที่นี่ สถานการณ์ทุกอย่างคงจะดีขึ้นไม่น้อยเลย
ท้ายที่สุดแล้วต่อให้ทุกคนภายในที่แห่งนี้ร่วมมือกันก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคน!
นางตอบรับหนึ่งเสียง จากนั้นก็พาผู้อาวุโสทั้งหลายออกไป
หลังจากนั้นเฉินอีก็หันไปมองทางเหยาปิน
เขายังไม่ทันพูดอันใด เหยาปินก็พูดขึ้นมาว่า
“สิ่งที่เจ้าต้องการจะพูดนั้น เมื่อครู่นี้พวกเราได้ยินแล้ว พวกเราตัดสินใจเหมือนกับเฟยซิงเหมิน พวกเราจะออกไปรอข้างนอกชั่วคราว หวังว่านายท่านเยว่กับฝ่าบาทจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
มุมปากของเฉินอีขยับขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องหมอกสีดำที่อยู่ภายในท้องพระโรงก่อนหน้านี้ พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที
สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดและอันตรายมาก หากอยู่ที่นี่ต่อไปเกรงว่าจะไม่สามารถรักษาชีวิตได้ เหตุใดพวกเขาถึงต้องอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?
หลังจากนั้นเฉินอีก็ไม่ต้องพูดอันใดอีก คนจำนวนมากก็เลือกที่จะจากไปในทันที
แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่เลือกอยู่ต่อด้วยเหตุผลบางประการ
เฉินอีจึงไม่ได้สนใจอันใดพวกเขาอีก
ที่เขาโน้มน้าวให้ชือรุ่ยเออร์และคนอื่นๆ จากไป เพราะไม่ต้องการทำให้น้ำใจที่นายท่านลงมือช่วยเหลือนั้นเสียเปล่าไป
หากเกิดเรื่องกับพวกเขา ถ้าเช่นนั้นความพยายามกับน้ำใจของนายท่านก็ต้องสูญเปล่า
ส่วนคนที่เหลือนั้น…จะเป็นหรือตายก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาด้วย
…
“ถ้วยหิมะวิเศษโปรยยังอยู่ด้านในนั้น ตอนนี้มันคงจะตกไปอยู่ในมือของสองคนนั้นแล้ว!”
เนี่ยหงเจี่ยมองไปยังบานประตูท้องพระโรงที่ปิดสนิท แล้วกัดฟันกรอด ภายในใจเต็มไปด้วยความแค้น
ในตอนแรกเขายังไม่ทันได้ตอบสนอง แต่ตอนนี้เขากลับคิดทุกอย่างได้อย่างชัดเจน!
หงส์ทองคำตัวนั้นเป็นคนขับไล่พวกเขาออกมา แล้วให้ด้านในเหลือเพียงฉู่หลิวเยว่และหรงซิว เห็นได้ชัดว่ามันมีอันใดไม่ชอบมาพากล!
ตอนนี้ เฉินอีก็ยังเกลี่ยกล่อมให้คนอื่นๆ จากไป ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดมาก
…เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการครอบครองทุกอย่างภายในที่แห่งนี้!
พวกเขานั้นทำการแสดงและกำกับเองตั้งแต่ต้นจนจบ!
“ท่านพ่อ ตอนนี้พวกเราจะเอาอย่างใดดี? หรือว่าจะต้องปล่อยไปแบบนี้?”
น้ำเสียงของเนี่ยหรูอวิ๋นเต็มไปด้วยความดุร้าย
มือข้างหนึ่งของเขาถูกนางทำลายจนใช้การไม่ได้ ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผล ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบำเพ็ญเพียรเลย แม้กระทั่งจะรักษาตัวให้กลับคืนสู่สภาพเดิมก็ยังยาก
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉู่หลิวเยว่และถวนจื่อ
หากพวกเขาทั้งสองคนตายอยู่ด้านในก็ช่างเถอะ แต่หากพวกเขาออกมาได้…เขาจะต้องคิดบัญชีแค้นให้สาสม!
แม้ว่าโหมวเจินและอี้เจายังอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่สนใจ!
ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของพวกเขา โหมวเจินและอี้เจาที่เข้าใจสถานะของตัวเองจะต้องไม่มาก้าวก่ายอย่างแน่นอน
เรื่องนี้อีกฝ่ายจำเป็นจะต้องมีคำอธิบาย!
…
เฉินอีเหลือบสายตามองทางเนี่ยหงเจี่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ
มีบางคนอยากรนหาที่ตาย ไม่ว่าใครก็ห้ามไว้ไม่ได้
เขาหันไปมองทางเชียงหว่านโจว แล้วเลิกคิ้วขึ้น
“เจ้าไม่ออกไปหรือ?”
ตอนนี้เชียงหว่านโจวยังอยู่ในระดับเทพขั้นสูง หากอยู่ที่นี่ต่อไปถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก
เชียงหว่านโจวส่ายหน้า
เฉินอีก็ไม่ได้พูดอันใดต่อ จากนั้นก็หันไปมองทางพระราชวังแห่งนั้นอีกครั้ง
ตอนนี้พลังที่อยู่ด้านบนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง!
ไม่ต้องพูดถึงฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ในระดับเทพขั้นสูงเลย การกลืนกินพลังจำนวนมากขนาดนี้ในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถรับได้
ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของนายท่านจะเป็นอย่างใดกันแน่…
เฉินอีขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
………………..