ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2145 ไม่ฟัง
ตอนที่ 2145 ไม่ฟัง
………………..
จวินจิ่วชิงมองเขาด้วยสายตาราบเรียบ
“ประมุขเว่ยจะให้ข้าช่วยอย่างใด?”
เว่ยเจ๋อชะงักไป แล้วพูดอย่างลังเลขึ้นว่า
“คือว่า…ซีผิงอยู่ภายในเถี่ยฉุยมานานมากแล้ว ไม่ทราบว่าประมุขอี้…จะสามารถปล่อยเขาออกมาสร้างกายเนื้อใหม่ได้หรือไม่?”
จวินจิ่วชิงไม่พูดไม่จา
อากาศที่อยู่รอบค่ำเหมือนจะแข็งตัวไป! แม้กระทั่งอุณหภูมิก็ยังลดต่ำลง!
หัวใจของเว่ยเจ๋อเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
หลังจากผ่านไปสักพัก จวินจิ่วชิงถึงพูดขึ้นมาอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า
“ประมุขเว่ย เหมือนว่าเจ้าจะลืมไปว่า ตอนแรกเว่ยซีผิงยินยอมเข้ามาเอง ไม่มีใครบีบบังคับเขา แต่ในตอนนี้ เขายังทำไม่สำเร็จ แต่เจ้าคิดจะให้เขาออกมาอย่างนั้นหรือ?”
“ประมุขอี้อย่าเพิ่งเข้าใจผิด!”
เว่ยเจ๋อกังวลว่าเขาจะโมโหจึงรีบอธิบายขึ้นว่า
“ข้า…ข้าเพียงพูดขึ้นมาเท่านั้น! หากประมุขอี้ไม่ยินดีก็ไม่เป็นไร! ข้าแค่คิดว่า เขาถูกขังอยู่ภายในมาโดยตลอด เมื่อเวลาผ่านมานาน เขาก็ได้รับความลำบากมาบ้าง อีกทั้งครั้งนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส…”
“เรื่องนี้เขาเป็นคนคิดเอง หรือว่าเป็นความคิดของประมุขเว่ย?”
“ข้า! เป็นความคิดของข้าเอง! ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้ เขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย!”
เว่ยเจ๋อรีบอธิบาย
“ดูเหมือนว่าเขาจะฉลาดกว่าเจ้ามาก”
เว่ยเจ๋อไม่กล้าพูดอันใดต่อ
ความหมายของจวินจิ่วชิงชัดเจนมาก
จวินจิ่วชิงหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ประมุขเว่ยรักลูกชายมากทีเดียว นั่นก็เป็นเรื่องปกติแล้ว วางใจเถอะ หลังจากผ่านไปอีกสักพัก เมื่อเวลาและโอกาสเหมาะสม ข้าก็จะปล่อยเขาออกมาเอง”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ในที่สุดหัวใจของเว่ยเจ๋อก็ผ่อนคลายลง
“ขอบคุณขอรับประมุขอี้!”
ในตอนนั้นสุดขอบฟ้าระยะไกลก็มีระลอกคลื่นอันแปลกประหลาดสายหนึ่ง!
จวินจิ่วชิงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย
ระลอกคลื่นนี้เกิดมาจากม่านพลังที่เปิดใหม่ เหมือนว่าเหตุการณ์ของฝั่งนั้นจะจบลงแล้ว…
เขาจึงถามขึ้นมาว่า
“ประมุขเว่ย เจ้าไม่ได้ส่งคนของตระกูลเว่ยไปที่นั่นใช่หรือไม่?”
หัวใจของเว่ยเจ๋อกระตุกวูบ แล้วรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ได้ส่งไปขอรับ! ก่อนหน้านี้ประมุขอี้ส่งข่าวมาบอกว่าไม่ให้พวกเราเข้าร่วมกับเรื่องนี้ ข้าก็ทำตามขอรับ”
จวินจิ่วชิงหันมามองอย่างกะทันหัน สายตาเฉียบแหลมราวกับมีด
“จริงหรือ?”
“จริงแท้แน่นอนขอรับ!” เว่ยเจ๋อพูดยืนยันหนักแน่น “ประมุขอี้ก็รู้ว่า ช่วงนี้พวกเราตระกูลเว่ยมีเรื่องวุ่นวายมาอย่างต่อเนื่อง พวกเรายังดูแลตัวเองไม่ไหวเลย จะมีเวลาและกำลังไปยุ่งเรื่องเหล่านั้นที่ไหนกัน…”
จวินจิ่วชิงพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เว่ยเจ๋อ เจ้าต้องรู้ว่า หากโกหกต่อหน้าข้า สิ่งที่เจ้าได้รับมันคืออันใด!”
หัวใจของเว่ยเจ๋อจมดิ่ง หนังตากระตุกอย่างรุนแรง
“ข้า ข้าไม่เข้าใจว่าประมุขอี้กำลังหมายถึงอันใด…”
จวินจิ่วชิงหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นก็มั่นใจว่า
เว่ยเจ๋อต้องการจะโต้เถียงขึ้นมาทันที แต่เมื่อเขาสบตากับจวินจิ่วชิง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างทั้งร่างเย็นยะเยือก!
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก ในที่สุดก็พูดว่า
“คือว่า คือว่าคนผู้นั้น…ก่อนหน้านี้เคยเกี่ยวข้องกับสำนักมหายานมาก่อน…แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจส่งเขาไปที่นั่น!”
ความสัมพันธ์ของตระกูลอันดับหนึ่งภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
การลอบวางหนอนบ่อนไส้ไว้ในอีกสำนักนั้นไม่ใช่เรื่องที่พบยากอันใด
เว่ยเจ๋อก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เหตุผลนี้ฟังแล้วสมเหตุสมผลมาก
แต่จวินจิ่วชิงไม่ได้คิดเช่นนั้น
เขามองไปทางเว่ยเจ๋อด้วยสายตาเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยแรงกดดัน!
“หลังจากที่ม่านพลังเปิดออก สำนักมหายานไม่ได้รีบไปที่นั่นเป็นกลุ่มแรก เวลาในช่วงนั้นเพียงพอที่จะให้เจ้าติดต่อกับฝั่งนั้น และสั่งการให้เขาเดินทางไปที่นั่น! เว่ยเจ๋อ… แต่เจ้ากล้าบอกว่าเจ้าไม่ตั้งใจอย่างนั้นหรือ?”
ใบหน้าของเว่ยเจ๋อซีดขาว สองขาของเขาอ่อนยวบลงเล็กน้อย
เขานั้นมีอายุมากกว่าจวินจิ่วชิงมาก แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด ตอนที่เผชิญหน้ากับอีกฝ่าย เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำมาก
แม้กระทั่งในเวลานี้ จวินจิ่วชิงไล่ถามแค่ไม่กี่คำ เขาก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว!
เว่ยเจ๋ออ้าปากขึ้น
“แต่…แต่ว่าข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…”
แต่น้ำเสียงนั้นกลับดูร้อนใจเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจได้
ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากม่านพลังนั้นเปิด เขาก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก และวางแผนที่จะพาคนไปที่นั่นด้วยตนเอง
แต่ใครจะรู้เล่าว่าเขายังไม่ทันได้ออกเดินทางก็ได้รับคำสั่งของจวินจิ่วชิงเสียแล้ว
แล้วเขาจะเต็มใจให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างใด?
โอกาสที่ดีเช่นนี้ไม่ว่าอย่างใดเขาก็ไม่มีทางพลาดเด็ดขาด
เพราะเขาคาดเดาได้อยู่แล้วว่าหรงซิวและคนอื่นๆ จะต้องเดินทางไปที่นั่น เขาจึงมุ่งความสนใจไปทางนั้น หากมีโอกาสก็ให้ลงมือกับทั้งสองคนซะ!
แน่นอนว่าเว่ยเจ๋อต้องการแก้แค้น!
และนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง!
แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของจวินจิ่วชิง เว่ยเจ๋อก็สับสนมึนงงไป
เขาก็แค่ส่งคนไปคนเดียวไม่ใช่หรือ? อีกทั้งการกระทำยังเรียบเนียนราวกับภูษาไร้ตะเข็บ!
ต่อให้เป็นจวินจิ่วชิงก็ไม่มีทางโมโหเพราะเขาขัดคำสั่งนี่นา อีกทั้งไม่จำเป็นจะต้องมีปฏิกิริยาที่รุนแรงขนาดนี้ด้วยซ้ำ?
เหตุใดทำเหมือนกับเขาได้ก่อความผิดร้ายแรงขึ้นมาอย่างใดอย่างนั้น?
“ประมุขอี้ คนนั้นอยู่ที่สำนักมหายานมานานมากแล้ว อีกทั้งยังฉลาดมีไหวพริบ ไม่มีทางเกิดเรื่องเด็ดขาด…”
จวินจิ่วชิงหัวเราะเสียงเย็น
“เว่ยเจ๋อ เจ้าจำเอาไว้นะ ชีวิตของลูกชายเจ้าจะต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของเจ้าเอง!”
เมื่อพูดจบ เขาก็หลับตาลง
“ไสหัวไป!”
เว่ยเจ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกจวินจิ่วชิงตำหนิขนาดนี้!
ใบหน้าของเขาทั้งขาวและแดง
“จวินจิ่วชิง เจ้าอย่ามากเกินไปนัก…”
พรึ่บ!
เขายังพูดไม่ทันจบ ลูกครึ่งแร้งวิเศษตัวนั้นก็พุ่งตรงมาหาเขา
………………..