ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2151 ยอมรับผิด
ตอนที่ 2151 ยอมรับผิด
………………..
จะว่าไปแล้วที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้ก็เป็นเพราะเขาล่วงเกินซั่งกวนเยว่ เรื่องนี้ทำให้หรงซิวต้องลงมือด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ?
ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ หรงซิวคงไม่มีทางช่วยเขาแน่นอน
หากเขาไม่ได้ซ้ำลงมาอีกแผล เว่ยซีผิงก็รู้สึกขอบคุณฟ้าขอบคุณดินมากแล้ว!
ความคิดก่อนหน้านี้ของเว่ยซีผิงเรียบง่ายมาก เขาเพียงต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น
หรงซิวทำให้เขาถูกไล่ออกจากสำนักหลิงเซียว ทำให้เขาสูญเสียคุณสมบัติของการเป็นนายน้อยตระกูลเว่ย ทำให้เขาต้องถูกคนทั้งโลกหัวเราะเยาะเย้ย
เขาเกลียดอีกฝ่ายเข้ากระดูกดำ และเต็มใจที่จะจ่ายค่าตอบแทนอันรุนแรง เขาละทิ้งกายเนื้อของตัวเอง จากนั้นก็ขังวิญญาณของตัวเองเอาไว้ในค้อนเหล็กนี้ โดยมีความคิดเดียวที่หวังว่าจะแก้แค้น
แต่ตอนนี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อถูกกักขังในความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุด เขาต้องทนทรมานกับสิ่งเหล่านี้เหมือนไม่ใช่มนุษย์ อีกทั้งยังมองไม่เห็นความหวังที่จะได้ออกไปเลย
การที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ มีใครบ้างที่จะทนได้?
เว่ยซีผิงเกือบจะถูกบีบให้เป็นบ้าแล้ว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเว่ยเจ๋อนั้น ทำให้เขาสติแตกมากกว่าเดิม
แม้กระทั่งเรื่องที่จะขอให้หรงซิวมาช่วยเหลือ เขายังพูดมันออกมาได้…
เว่ยซีผิงหัวเราะเยาะตัวเอง แล้วไม่ได้พูดอันใดอีก
ความเงียบงันกลับมาสู่ถ้ำแห่งนี้อีกครั้ง อากาศโดยรอบเหมือนจะแข็งตัวไปทีละน้อย
เว่ยเจ๋อรู้สึกปวดใจมาก
แม้เขาจะมีลูกชายหลายคน แต่เว่ยซีผิงก็เป็นคนที่เขารักและให้ความสำคัญมากที่สุด
เขาอบรมให้เว่ยซีผิงเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป
เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากที่อีกฝ่ายกลับมาจากสำนักหลิงเซียว เขาจะมอบตำแหน่งนายน้อยให้กับอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการ แต่ใครจะรู้เล่าว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
เว่ยเจ๋อขมวดคิ้วขึ้น
ก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็ปลอบใจเว่ยซีผิงอีกประโยคว่า “เดี๋ยวพ่อจะมาหาใหม่ เจ้าดูแลตัวเองให้ดีนะ”
เมื่อพูดจบเขาก็สาวเท้าเดินออกมาด้านนอก
…
เว่ยเจ๋อเดินออกมาจากในถ้ำ
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
เว่ยเค่อหานรีบสาวเท้าก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ท่านประมุข เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งสังเกตว่าจะมีคนมาที่นี่ หากข้าดูไม่ผิดละก็ คนผู้นั้นน่าจะเป็นผู้อาวุโส
เว่ยซง…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นกลางท้องฟ้าก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เงาร่างหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง!
เว่ยเจ๋อเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม
คนที่มาใหม่คือชายชราสวมชุดคลุมสีขาวแล้วอายุประมาณห้าสิบกว่า ผมขาวเป็นสีดอกเลา ใบหน้าอ่อนเยาว์ คนผู้นั้นคือเว่ยซงจริงๆ !
ผู้อาวุโสของตระกูลเว่ยมีทั้งหมดหกคน อีกทั้งผู้อาวุโสเว่ยซงก็เป็นคนที่อาวุโสที่สุด ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
ต่อให้เป็นเว่ยเจ๋อก็ยังต้องไว้หน้าเขาสามส่วน
เว่ยเค่อหานส่ายหน้า “เรื่องนี้… ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน!”
ปกติแล้วเว่ยซงแทบจะไม่ก้าวก่ายเรื่องภายในตระกูลเลย แต่วันนี้เขากลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน เรื่องนี้ช่างน่าแปลกประหลาดมาก
ภายในชั่วพริบตา เว่ยซงก็มาหยุดยืนอยู่ที่ทั้งสองคนแล้ว
“ประมุข”
“ผู้อาวุโสเว่ยซง”
ทั้งสองคนคารวะต่อกัน
เว่ยซงยังคงมีสีหน้าราบเรียบ สายตาที่คาดเดาไม่ได้และนิ่งสงบหันมองทางเว่ยเจ๋อ
“ท่านประมุขไม่ได้กลับมาตระกูลสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นข้าจึงรู้สึกเป็นห่วงอย่างอดไม่ได้”
ขณะนั้นสายตาของเขาก็หันไปมองทางแขนของเว่ยเจ๋อ
“ท่านประมุขได้รับบาดเจ็บหรือ?”
เว่ยเจ๋อดึงมือกลับ จากนั้นก็กระแอมไอหนึ่งเสียง
“ก่อนหน้านี้ข้าได้รับบาดเจ็บตอนที่อยู่ในป่าศิลา แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
เว่ยซงรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
แม้เขาจะไม่เห็นบาดแผล แต่เมื่อสัมผัสจากกลิ่นคาวเลือดที่ลอยโชยอยู่ในอากาศก็สามารถตัดสินได้ไม่ยากเลยว่าเว่ยเจ๋อเพิ่งได้รับบาดเจ็บ
ทว่าเหตุการณ์ในป่าศิลานั้นผ่านมาเป็นเดือนแล้ว…
เว่ยซงไม่ได้เปิดโปงคำโกหกที่โง่เง่าของเขา แต่เขาพูดเข้าเรื่องในทันทีว่า
“ท่านประมุขไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านประมุขมีเวลากลับไปที่ตระกูลบ้างหรือไม่?”
เว่ยเจ๋อรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
“ผู้อาวุโสเว่ยซงที่ท่านมาในครั้งนี้เพื่อตามให้ข้ากลับไปอย่างนั้นหรือ?”
“ถูกต้อง”
เว่ยซงยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งตระกูลเว่ย มีเพียงเขาคนเดียวที่สามารถทำเช่นนี้ได้และไม่โดนลงโทษทีหลัง
เว่ยเจ๋อหัวเราะออกมา
“เดิมทีข้าก็จะกลับไปโดยเร็วที่สุดอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะต้องรบกวนผู้อาวุโสเว่ยซง เรื่องนี้ข้าต้องขออภัยจริงๆ”
เว่ยซงพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ดี ในตระกูลเกิดเรื่องเล็กน้อย ท่านประมุขรีบกลับไปจะดีที่สุด”
เว่ยซงจ้องหน้าเขา
“คนของพระราชวังเมฆาสวรรค์มา”
…
เยี่ยนชิงยืนเอามือไพล่หลังอยู่ด้านหน้าจวนตระกูลเว่ย
นอกจากนี้แล้วยังมีคนตระกูลเว่ยหลายคนยืนอยู่
“ใต้เท้าเยี่ยนชิง ช่วงนี้ท่านประมุขไม่ได้อยู่ในตระกูล ต่อให้รีบเดินทางกลับมาก็ยังต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย ท่านจะมายืนอยู่ตรงนี้ตลอดก็คงจะไม่เหมาะสม ถ้าอย่างนั้นเข้าไปรอด้านในดีหรือไม่?”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวโน้มน้าว
ใบหน้าของเยี่ยนชิงยังไม่เปลี่ยนสี น้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าตึงเครียด
“ไม่จำเป็น ข้าจะยืนรอตรงนี้”
เขาไม่สนใจจะสาวเท้าก้าวเข้าไปในตระกูลเว่ยสักก้าวเดียว
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูต่างมองหน้ากัน
คือว่า…เยี่ยนชิงผู้นี้จะทำตัวเผด็จการเกินไปแล้วหรือไม่
เขาไม่พูดอันใดสักคำ กลับพูดแค่ว่าต้องการพบประมุขของพวกเขา แต่ไม่ยอมเข้าไปรอในตระกูล ทว่ายืนขวางหน้าประตูอยู่เช่นนี้
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากท่าทางของเขาแล้ว หากอีกฝ่ายไม่พบท่านประมุขของพวกเขา เขาก็ไม่มีทางจากไปแน่นอน
นี่มันคือเรื่องอันใดกันแน่?
ถ้าพวกเขาไม่เห็นแก่หน้านายท่านของอีกฝ่าย พวกเขาไม่มีทางกล้ำกลืนความโกรธลงคอเช่นนี้หรอก
ในตอนที่ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในทางตัน ในที่สุดเว่ยซงและคนอื่นๆ ก็กลับมา
เว่ยเจ๋อมองใบหน้าเย็นชาของเยี่ยนชิงจากในระยะไกล หัวใจของเขาก็ต้องเต้นไม่เป็นระส่ำ
เร็วกว่านี้ไม่ยอมมา ช้ากว่านี้ไม่ยอมมา แต่เหตุใดเยี่ยนชิงต้องมาตระกูลเว่ยในตอนนี้?
มีใครไม่รู้บ้างเล่าว่าเยี่ยนชิงคือมือขวาของหรงซิว ดูจากตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นตัวแทนของหรงซิว!
เยี่ยนชิงหมุนตัวกลับมามองเว่ยเจ๋อ
“ประมุขเว่ย ที่ข้ามาในวันนี้เพราะข้าได้รับคำสั่ง ถือว่าเป็นตัวแทนของโอรสสวรรค์ เพื่อมาขอคำอธิบายจากประมุขเว่ย”
เขามีท่าทางเหมือนภูเขาน้ำแข็งมาโดยตลอด ตอนนี้สีหน้าของเขาเย็นยะเยือก อีกทั้งยังมีความน่าเกรงขามเพิ่มขึ้นหลายส่วน ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้
เว่ยเจ๋อลอบขมวดคิ้วขึ้น
แม้เยี่ยนชิงผู้นี้จะมีอายุน้อย แต่เขาก็ติดตามหรงซิวมาหลายปี เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขา คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเลย
“หื้ม? ขอคำอธิบายจากข้าหรือ? ข้ากลับไม่ทราบว่า… ข้าได้ไปล่วงเกินพระราชวังเมฆาสวรรค์ตั้งแต่เมื่อใด?”
ผู้มาใหม่ไม่ได้มาดี เว่ยเจ๋อจึงไม่ได้อ้อมค้อม
เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนชิงต้องการมาหาเรื่องเขา
“เรื่องนี้ประมุขเว่ยรู้ดีแก่ใจ” เยี่ยนชิงมองเอาด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้หลินเจียงแห่งสำนักมหายานมีเจตนาร้าย ตอบแทนความเมตตาด้วยความแค้น พยายามจะขโมยเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระชายา อีกทั้งเขายังต้องการจะลงมือโจมตีคนจากตระกูลอันดับหนึ่งจำนวนมาก ตอนนี้เขาได้ตายด้วยน้ำมือของพระชายาและฝ่าบาทแล้ว สำหรับเรื่องนี้ ท่านไม่มีความเห็นจริงๆ หรือ?”
คนตระกูลเว่ยหลายคนมีสีหน้ามึนงง
หัวใจของเว่ยเจ๋อจมดิ่ง จากนั้นเขาก็ปฏิเสธทันที
“เรื่องของสำนักมหายาน มันเกี่ยวอันใดกับตระกูลเว่ยของข้าด้วย?”
เยี่ยนชิงพูด
“จะเกี่ยวหรือไม่ ท่านรู้ดีแก่ใจที่สุด แต่ที่ฝ่าบาทต้องการคือ ให้ท่านเดินทางไปที่ท่าเรือดอกท้อเพื่อขอโทษและยอมรับผิด ซึ่งนี่จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลเว่ย”