ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2154 สู่สุคติ
………………..
เขามองไปทางหรงซิวด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็เหมือนเห็นอันใดบางอย่างจากใบหน้าของเขา
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหรงซิวคงสามารถคาดเดาอันใดได้บางอย่าง แต่เขาก็ไม่กล้ามั่นใจ
แต่ในตอนนี้…
“โอรสสวรรค์ต้องการจะพูดอันใดกันแน่?”
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามขึ้นเสียงทุ้มต่ำว่า
“พูดทีเล่นทีจริงแบบนี้มันทำให้พวกเราทั้งสองฝ่ายต้องเสียเวลา พวกเรามาพูดกันอย่างตรงไปตรงมากันเถอะ”
“ประมุขเว่ยช่างซื่อตรงจริงนะ”
ริมฝีปากของหรงซิวเผยรอยยิ้มมีความสุข
“ส่งตัวเว่ยซีผิงออกมา แล้วทุกเรื่องก่อนหน้านี้ข้าจะทำเป็นไม่เห็น”
รูม่านตาของเว่ยเจ๋อหดเล็กลง!
…
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่มาถึง นางก็เห็นว่าประตูห้องโถงถูกปิดอยู่ เยี่ยนชิงกำลังยืนเฝ้าอยู่ที่ด้านหน้าประตู
มือทั้งสองข้างของเขากำลังถือกระบี่ แผ่นหลังเหยียดตรง เมื่อเขายืนอยู่ตรงนั้นก็เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งตั้งตระหง่าน
เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ เขาก็รีบทำความเคารพทันที ฉู่หลิวเยว่โบกมือแสดงให้เห็นว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
“พวกเขาอยู่ด้านในหรือ?”
เยี่ยนชิงพยักหน้า
“ฝ่าบาทบอกว่าหากท่านมาถึงแล้วให้เข้าไปด้านในได้เลย”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสงสัยกับสถานการณ์ที่อยู่ภายในอยู่แล้ว ในขณะที่นางกำลังจะเดินเข้าไป แต่นางก็ต้องถอยหลังลงมาหนึ่งก้าว แล้วกวาดสายตาสำรวจเยี่ยนชิง
เยี่ยนชิงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
“เยี่ยนชิง ฝีมือของเจ้า…เหมือนว่าจะก้าวหน้ากว่าเดิมไม่น้อยเลย?”
ในตอนแรกนางยังไม่รู้สึก แต่หลังจากสำรวจอย่างละเอียดแล้ว นางก็พบว่าลมปราณบนร่างกายของเยี่ยนชิงนั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมไม่น้อยเลย
ระดับความเร็วของการบำเพ็ญเพียรแบบนี้…มันเร็วเกินไปหน่อยหรือไม่
คนที่สามารถติดตามหรงซิว อีกทั้งยังได้รับความวางใจจากเขา พรสวรรค์ของเยี่ยนชิงจะต้องสูงมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่อย่างใดก็ตามความสามารถที่ก้าวกระโดดของเยี่ยนชิงก็ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ
เยี่ยนชิงคิดไม่ถึงเลยว่านางกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ดังนั้นเขาจึงชะงักไปเล็กน้อย
“ได้ยินมาว่าเจ้าไปที่ตระกูลเว่ยคนเดียวแล้ว ‘เชิญ’ เขากลับมาอย่างนั้นเหรอ?”
เยี่ยนชิงพยักหน้า
“พ่ะย่ะค่ะ”
แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ…
ท้ายที่สุดแล้วตระกูลเว่ยก็เป็นตระกูลอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเขาเดินทางลุยเดี่ยว แต่ยังกลับมาอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน
หากเขาไม่มีฝีมือจริงๆ เขาคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิด จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความหมาย
“เจ้ากับเฉินอีมีความคล้ายคลึงกันจริงๆ”
เฉินอีหลบซ่อนความสามารถลึกเกินหยั่งถึง เยี่ยนชิงก็ยิ่งกว่านั้น
เยี่ยนชิงประสานมือแล้วพูดว่า
“ข้าน้อยไม่กล้า”
“มิน่าล่ะน้องแปดก็กลัวเจ้า ที่ผ่านมานางกลัวเฉินอี ตอนนี้มีเจ้าเพิ่มมาอีกคนหนึ่งแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่พูดอย่างหยอกล้อ
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ น้องแปดมักจะไปหาเรื่องเยี่ยนชิงอยู่เป็นประจำ
เยี่ยนชิงชะงักไป ริมฝีปากบางเม้มขึ้นเล็กน้อย
“ข้าน้อยได้ล่วงเกินแม่นางแปดอย่างไม่ได้ตั้งใจ และก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่าง…”
ฉู่หลิวเยว่โบกมือ “ไม่เป็นไร แม้น้องแปดก็ค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่นางไม่ค่อยเก็บเรื่องอื่นมาใส่ใจ เจ้าก็ไม่จำเป็นจะต้องถือสามาก”
เยี่ยนชิงกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง แต่ก็ต้องหยุดชะงัก
ในช่วงนี้เขาไม่ได้เจอกับน้องแปดเลย
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สังเกตเห็นถึงสีหน้าของเยี่ยนชิง หลังจากพูดจบนางก็ตัดสินใจว่าจะผลักประตูเข้าไป
แต่อย่างใดก็ตามในขณะนั้น ประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจากด้านใน
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังลงไปครึ่งก้าว ตอนนั้นนางก็ปะทะกับเว่ยเจ๋อพอดี
แต่ในตอนนี้สีหน้าของเว่ยเจ๋อย่ำแย่มาก
ฉู่หลิวเยว่เคยเห็นใบหน้าย่ำแย่เช่นนี้ ในตอนที่นางสามารถเอาชนะเขาที่สุสานถังเคอแล้ว
นางยิ้มออกมาในทันที
“โอ้ ประมุขเว่ย? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเจ้าคะ ไม่ทราบว่าช่วงนี้เป็นอย่างใดบ้างเจ้าคะ?”
เดิมทีเว่ยเจ๋อก็อารมณ์เสียอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ เขายิ่งอารมณ์เสียยิ่งกว่าเก่า
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะระงับโทสะภายในใจของตัวเอง
“ข้ายังมีธุระ ดังนั้นขอตัวก่อน”
เมื่อพูดจบเขาก็สาวเท้าเดินออกไปทันที
“หื้อ? ข้าเพิ่งมาถึงเอง แต่ประมุขจะไปแล้วหรือ? นี่ท่านไม่อยากพบหน้าข้าอย่างนั้นหรือ?”
แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาไม่อยากจะพบหน้านาง
หากไม่ถูกบังคับ เขาคงไม่มีทางมาเหยียบที่นี่ด้วยซ้ำ!
เว่ยเจ๋อลอบด่าอีกฝ่ายในใจ เหมือนหน้าอกกำลังจะระเบิดออกมา
“เยว่เออร์ ประมุขเว่ยมีเรื่องรีบร้อนจริงๆ ”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางกวาดสายตามองระหว่างคนทั้งสอง ในตอนนั้นนางก็รู้สึกสับสนขึ้นมา
นี่คือ…คุยกันจบแล้วอย่างนั้นหรือ?
แต่นางยังไม่ทันได้รู้เรื่องอันใดเลย?
เมื่อดูจากท่าทางของคนทั้งสอง เหมือนว่าเว่ยเจ๋อจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ฉู่หลิวเยว่จึงถอยหลังลงไปหนึ่งก้าว
ในตอนที่เว่ยเจ๋อกำลังจะสาวเท้าก้าวออกไป หรงซิวก็พูดเตือนขึ้นมาว่า “ประมุขเว่ย เหมือนว่าท่านจะลืมเรื่องบางอย่างไปนะ?”
เว่ยเจ๋อชะงักฝีเท้า จากนั้นก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระตุกไปสองสามครั้ง ก่อนพูดคำบางคำออกมาอย่างยากลำบาก
“ข้าเว่ยเจ๋อ รู้สึกผิดกับนายท่านเยว่มาก! ข้าหวังว่านายท่านเยว่จะใจกว้างและไม่คิดเล็กคิดน้อยกับข้า!”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เว่ยเจ๋อเป็นคนปากแข็งมาก แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเป็นคนมาขอโทษนางก่อน?
นางครุ่นคิด
“เช่นนั้น…ประมุขเว่ยกำลังไปสู่สุคติหรือเปล่า?”
เว่ยเจ๋อเกือบจะกระอักเลือดออกมา แล้วสะบัดเสื้อคลุมอย่างแรง จากนั้นก็รีบจากไปด้วยอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งเงาร่างของเขาจางหายไป ฉู่หลิวเยว่หันกลับมามองทางหรงซิว
“พวกเจ้าคุยกันเร็วเกินไปแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงเอง…”
“มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใดขนาดนั้น” มุมปากของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“เจ้าให้ข้ามา…เพื่อมาฟังคำขอโทษจากเขาน่ะหรือ? เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอันใดกับเขากันแน่ คาดไม่ถึงว่าเขาจะเต็มใจก้มหัวให้แบบนั้น?”
หรงซิวหัวเราะขึ้น
“เข้ามาสิ แล้วข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง”
ฉู่หลิวเยว่มีสีหน้ามึนงง
“เท่านี้หรือ?”
“เท่านี้แหละ”
“เจ้าแค่พูดถึงเว่ยซีผิง เขาก็ตอบตกลงทุกอย่างแล้วหรือ?” ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิด นางยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “เขาให้ความสำคัญกับเว่ยซีผิงขนาดนั้นเชียวหรือ? ก่อนหน้านี้บอกว่า ตำแหน่งนายน้อยที่เว่ยซีผิงอยากได้มีการแข่งขันที่ดุเดือดไม่ใช่หรือ?”
“เรื่องเหล่านั้นเป็นแค่ลูกไม้เท่านั้น ความจริงแล้วตำแหน่งนายน้อยก็เป็นของเว่ยซีผิง เว่ยเจ๋อก็เตรียมเอาไว้ให้กับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นตระกูลเว่ยมีคนตั้งมากมาย แต่เหตุใดมีแค่เว่ยซีผิงคนเดียวที่สามารถเข้าเรียนสำนักหลิงเซียวได้?”
ในสายตาของคนภายนอก เว่ยซีผิงเป็นคนที่ขยันและเรียนดี และความเป็นจริงแล้วนี่เป็นแค่หนทางที่เว่ยเจ๋อปูเอาไว้ให้
“แต่…ต่อให้เป็นเช่นนั้น เจ้าแน่ใจได้อย่างใดว่าภายในค้อนเหล็กนั้นจะมีเว่ยซีผิง?”
ใช่ว่าฉู่หลิวเยว่จะไม่เคยสงสัยมาก่อน แต่เพราะนางไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจึงไม่กล้ามั่นใจ
มุมปากของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เขาให้ความสำคัญกับของสิ่งนั้นมาก กอปรกับลมปราณสายนั้น… แค่นี้ก็ทำให้มั่นใจได้แล้ว ความจริงข้าเองก็ไม่มีหลักฐาน แต่หลังจากที่โกหกไปหนึ่งคำ เขาก็ยอมรับเอามาเองเลย”
ฉู่หลิวเยว่ส่งเสียง “อุ๊ปส์” ออกมาหนึ่งเสียง
ตั้งแต่ต้นจนจบ หรงซิวไม่ได้ออกแรงอันใดเลย แต่ก็สามารถจัดการกับเว่ยเจ๋อได้อย่างนั้นหรือ?
“น่าเสียดายจริงๆ ข้าน่าจะมาเร็วกว่านี้”
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียใจ
สีหน้าของเว่ยเจ๋อในตอนนั้นจะต้องน่าดูมากแน่
“เดี๋ยวเขาก็กลับมาอีก”
หรงซิวพูด