ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2157 ดีมาก
ตอนที่ 2157 ดีมาก
………………..
ถูกต้อง
ชายตรงหน้าที่มีรูปร่างกำยำล่ำสัน คือพี่รองที่อยู่ในสิบสามผู้พิทักษ์เยว่
เขามีชื่อที่จำง่ายว่า หัวซวงซวง
แม้คนภายนอกจะคิดว่า ผู้ชายตัวใหญ่ขนาดนี้กลับใช้ชื่อแบบนี้มันน่าแปลกประหลาดมาก แต่ยังดีที่หัวซวงซวงไม่ได้คิดแบบนั้น
เขามองเรื่องเหล่านี้อย่างเปิดกว้าง
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่เป็นคนเรียกเขาในชื่อนี้ด้วย
“คารวะนายท่าน!”
หัวซวงซวงคุกเข่าลงหนึ่งข้าง และทำความเคารพอย่างเคร่งขรึม
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น แล้วพยุงเขาขึ้นมาพร้อมพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี มานี่เร็ว”
หัวซวงซวงลุกขึ้นแล้วสาวเท้าไปด้านหน้า
ขณะที่เขาก้าวเข้ามาในเรือนหนึ่งก้าว สัตว์อสูรที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมา
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย
“เจ้าไปแกล้งพวกมันอีกแล้วหรือ?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หัวซวงซวงก็รู้สึกเก้อกระดากขึ้นมา
“หลังจากมาถึงท่าเรือดอกท้อแล้ว เดิมทีข้าน้อยก็อยากจะตรงมาที่นี่เลย แต่ใครจะรู้เล่าว่าข้าจะได้บังเอิญพบกับ…ดังนั้นข้าจึงเดินวนบนภูเขาอยู่สองสามรอบ”
นั่นเป็นเหตุว่าเหตุใดเขาถึงมาสายเอาป่านนี้
ฉู่หลิวเยว่กุมหน้าผากของตัวเอง
หัวซวงซวงเป็นคนที่มีเอกลักษณ์มาก และเขาชอบสัตว์อสูรมาก
แต่หัวซวงซวงไม่เหมือนกัน
ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด เขาถึงได้รับความนิยมจากเหล่าสัตว์อสูร ซ้ำยังสามารถฝึกสัตว์อสูรให้เชื่องได้อย่างง่ายดาย
คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้แม้กระทั่งอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเป็นไปด้วย…
“ไม่เป็นไร เจ้ามาได้เวลาพอดี พวกเรากำลังพูดถึงเจ้าอยู่เลยนะ นั่งลงเถอะ”
ซานซานขยับตัวไปที่ด้านข้างทันที อวี๋จิ่วก็เคลื่อนไหวตามไปด้วย
หัวซวงซวงนั่งลงมา เมื่อเห็นซานซานที่นั่งอยู่ด้านข้างเขาก็หัวเราะขึ้นเสียงดังทันที
“ซานซาน ไม่ได้เจอกันมานานมาก เหตุใดเจ้าถึงอ้วนขึ้นขนาดนี้ล่ะ ดูเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าจะอยู่ดีมีสุขนะ!”
“พี่รอง พี่ล้อข้าเล่นอีกแล้ว”
“พี่รอง ข้าคิดว่าครั้งนี้พี่จะนำอาหารติดมาด้วย” สือฟังผิดหวังเล็กน้อย “เมื่อครู่นี้นายท่านบอกว่าพวกเราล้วนกินเจทั้งหมดเลย”
หัวซวงซวงยกกำปั้นขึ้นจรดริมฝีปาก พร้อมกระแอมไอขึ้นมา
“คือว่า…เรื่องนี้มันช่วยไม่ได้จริงๆ หลังจากได้ยินข่าวข้าก็รีบตรงมาที่นี่ทันที หนทางยาวไกลดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะพกมาด้วย”
“…ก็จริง” สือฟังรู้สึกละอายใจขึ้นมาในทันที “เป็นข้าที่ไม่รอบคอบเอง”
หัวซวงซวงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
อย่างใดก็ตาม ด้วยท่าทางเช่นนี้ทำให้เหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ด้านนอกกระสับกระส่ายมากกว่าเดิม
มีสัตว์อสูรสองสามตัวที่ยืนอยู่ด้านหน้าเดินก้าวขึ้นมาอย่างหยั่งเชิง
หัวซวงซวงเชิดคางขึ้นทันที จากนั้นก็เตือนมันว่า
“เมื่อครู่นี้ข้าพูดว่าอย่างใด? กลับไปให้หมด!”
อาจจะเป็นเพราะคำพูดครั้งนี้แรงกว่าครั้งก่อน หลังจากที่สัตว์อสูรเหล่านั้นอ้อยอิ่งอยู่ที่หน้าประตูนาน ในที่สุดมันก็จากไปอย่างไม่เต็มใจ
มีสัตว์อสูรส่วนหนึ่งล่าถอยไปแล้ว แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ยังรออยู่
บรรยากาศตึงเครียดค่อยๆ จางลง
สิบสามลูบเสือดาวลายเมฆสีชาดที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง แล้วลอบครุ่นคิดว่า ‘ครั้งนี้ได้กินจนอิ่มแล้ว’
น้องแปดก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ มือข้างหนึ่งยกพัดใบหน้าของตัวเอง
โชคดีที่เสื้อผ้า หน้าผมของนางในครั้งนี้ไม่ต้องถูกเจ้าตัวเล็กเหล่านั้นทำลาย
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่หัวซวงซวงด้วยความชื่นชม
“ซวงซวง ดูเหมือนว่าเจ้าจะก้าวหน้าไปมาก”
ก่อนหน้านี้ตอนที่หัวซวงซวงกำลังฝึกสัตว์อสูร เขามักจะควบคุมไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะได้ผล อสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเชื่อฟังคำสั่งของเขามาก
หัวซวงซวงหัวเราะขึ้นมา
“นั่นมันก็ผ่านมานานมากแล้ว หากแม้กระทั่งเรื่องนี้ข้ายังทำได้ไม่ดี เช่นนั้นข้าก็ไม่มีหน้าไปเจอหน้าท่านแล้ว”
แม้น้ำเสียงของเขาจะแฝงด้วยความหยอกเย้า แต่นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความจริงจัง
ภายในใจของนางเหมือนมีอันใดบางอย่างผุดขึ้นมา ทั้งรู้สึกปวดใจและอบอุ่น
“มาถึงก็ดีแล้ว”
หัวซวงซวงพูดขึ้น
“นายท่าน ข้าได้ยินมาว่า ท่านเป็นคนนำสัตว์อสูรเหล่านี้กลับมาที่ท่าเรือดอกท้อหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะขึ้น จากนั้นก็เล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้เขาฟัง
ในแววตาของหัวซวงซวงมีประกายตกใจ
“มิน่าล่ะ…ปกติแล้ว อสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะมีนิสัยเย่อหยิ่ง น้อยมากที่จะอยู่ปะปนรวมกันกับพวกมนุษย์ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…แล้วอีกอย่างมีหงส์ทองคำคอยควบคุม พวกมันก็มีระเบียบวินัยกันมากขึ้นด้วย”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ก็ยกยิ้มขึ้น
สิ่งที่หัวซวงซวงพูดมาก็มีเหตุผลมาก
สัตว์อสูรเหล่านี้เคารพและเกรงขามถวนจื่อมาก ต่อให้ถวนจื่อไม่ไปยุ่งวุ่นวายอันใดกับพวกมัน พวกมันก็ยังจะระมัดระวังตัวมาก
ตอนที่ถวนจื่อยังเป็นไก่ฟ้าเก้าสี มันก็เป็นสัตว์อสูรที่มีลำดับสูงที่สุดในเทียนลิ่ง
เมื่อคนกับสัตว์อสูรร่วมมือกัน ไม่ว่าใครก็ยากต้านทาน
ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงดีมาโดยตลอด
“จริงหรือ?”
หัวซวงซวงรู้สึกประหลาดใจมาก
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างเลือนราง แต่เมื่อได้ยินคำตอบจากฉู่หลิวเยว่ เขาก็รู้สึกสบายใจมากกว่าเดิม
“แต่ตอนนี้นางไม่ได้อยู่ที่นี่ นางกำลังยุ่งอยู่ หากกลับไปแล้วข้าจะพาเจ้าไปพบนาง”
หัวซวงซวงตอบตกลงทันที “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณนายท่านมาก!”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้นว่า
“ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”
…
อีกด้านหนึ่ง ถวนจื่อกำลังช่วยจื่อเฉินพันแผล
นางแกะผ้าพันแผลออกอย่างระมัดระวัง หลังจากทำความสะอาดแผลเสร็จแล้ว นางก็ยังช่วยทายา สุดท้ายก็นำผ้าสีขาวพันทับลงไปอีกครั้ง
หลังจากเสร็จเรื่องเหล่านี้แล้ว ในที่สุดนางก็ตบมือขึ้นอย่างพอใจ
“เอาล่ะ! จื่อเฉิน เจ้าดูสิข้าพันแผลเป็นอย่างใดบ้าง?”
จื่อเฉินก้มหน้าลงมอง เมื่อเห็นว่าผ้าพันแผลของตัวเองผูกเป็นรูปโบว์ เขาก็เงียบไปอยู่นาน แล้วพูดว่า
“ดีมาก”