ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2173 หนังสือเล่มหนึ่ง
ตอนที่ 2173 หนังสือเล่มหนึ่ง
………………..
เนื่องจากนางสูญเสียสมาธิไปช่วงหนึ่ง พลังของตัวอ่อนกระบี่ดาราเลือนที่อยู่ตรงหน้าก็เริ่มสั่นไหว!
ลำแสงที่อยู่ด้านบนก็เริ่มหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว!
เมื่อทุกคนเห็นภาพเหตุการณ์นั้นก็ตกตะลึงไป
เมื่อครู่นี้ยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดสถานการณ์ถึงย่ำแย่ลงภายในชั่วพริบตาแบบนี้?
“ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหลอมสำเร็จได้จริงๆ …”
“สุดท้ายแล้วก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ มันจะสามารถหลอมได้อย่างง่ายดายได้อย่างใด?”
“น่าเสียดายจริงๆ อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น”
แววตาของหรงซิวหรี่ลงเล็กน้อย กลางฝ่ามือของเขามีลำแสงสีทองหนึ่งปรากฏขึ้น
ในตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็รีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว นางกัดฟันกรอด จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่กระบี่เล่มนั้น!
ฝ่ามือสัมผัสความร้อน
หลังจากที่ตัวอ่อนของกระบี่ดาราเลือนเล่มนี้ผ่านการขัดเกลาจากทัณฑ์สวรรค์หลายครั้ง ตอนนี้พลังของมันอยู่ในระดับสูงสุดนั้น ลำแสงสีเงินขนาดนี้จำนวนนับไม่ถ้วนแหวกว่ายออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
พลังปราณดั้งเดิมจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ คาดไม่ถึงว่าพลังที่กำลังปั่นป่วนจะสามารถควบคุมได้!
ในขณะเดียวกัน เมฆดำกลุ่มนั้นที่กำลังจะสลายไปกลับมีทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งพุ่งลงมา! แล้วผ่าออกมาอย่างแรง!
เปรี้ยง!
ทัณฑ์สวรรค์สายนั้นผ่าตรงลงมาที่กระบี่จิ๋วโดยตรง!
พลังสองส่วนต่อสู้กันอย่างดุเดือด!
หลังจากผ่านไปสักพัก ในที่สุดตัวอ่อนกระบี่ก็สว่างวาบขึ้น!
พลังกดดันที่แข็งแกร่งก็แผ่กระจายออกมาจากกระบี่เล่มนั้นอย่างรวดเร็ว!
…หลอมกระบี่สำเร็จแล้ว!
พลังที่พลุ่งพล่านภายในร่างกายของนางลดลงอย่างรวดเร็ว นางก้มลงมองกระบี่ที่อยู่กลางฝ่ามือของนาง
กระบี่เล่มนี้ต่างจากกระบี่ที่ถังเคอ ซูหลี และองค์ปฐมกษัตริย์หลอมออกมา
เพราะว่าในช่วงสุดท้ายมีการผิดพลาดเล็กน้อย ตรงกลางของตัวกระบี่จะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ครึ่งหนึ่งเป็นสีทองคำชาด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีน้ำเงินดำ
ครึ่งหนึ่งสว่างสดใส อีกครึ่งหนึ่งมืดมนเย็นชา
พลังสองส่วนประสานกัน สุดท้ายก็หลอมออกมาเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เหมือนใคร!
“เยว่เออร์!”
ซั่งกวนจิ้งที่อยู่ใกล้ที่สุดก็รีบเข้ามาหาในทันที เขากวาดสายตาสำรวจอีกฝ่ายด้วยความตื่นตระหนก
“เมื่อครู่นี้เจ้า…”
หลังจากที่เขาหลอมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาคอยเฝ้ามองอย่างระวังโดยตลอด
ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงหน้านั้นยังดีๆ อยู่เลย แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าเหตุใด นางจึงสูญเสียสมาธิอย่างกะทันหัน…
ในขณะที่เขากำลังสงสัย เขาก็คิดว่านางจะต้องล้มเหลวแน่นอน
ค่อยยังชั่ว โชคดีมาก!
สุดท้ายนางก็ยังหลอมสำเร็จ!
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่การหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ…ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
นางหาเหตุผลที่เหมาะสม
ซั่งกวนจิ้งถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นเขาก็พูดด้วยความเสียใจว่า
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! คนจำนวนมากต่อให้ศึกษาอย่างยากลำบากมาทั้งชีวิตก็อาจจะหลอมไม่สำเร็จ! นังหนู เจ้า…สุดยอดมาก!”
นี่เป็นครั้งแรกที่นางหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ คาดไม่ถึงว่านางจะหลอมสำเร็จ!
ถ้าพูดออกไปก็เกรงว่าจะไม่มีคนเชื่อ
“แม้พลังจะไม่ได้บริสุทธิ์ ไม่ได้อยู่ในระดับต้นๆ ของอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อแต่เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก! นังหนู นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าคือช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์แล้ว!”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ อีกทั้งยังมีความเย่อหยิ่งและยินดีที่ปกปิดไม่มิด
ซูหลีก็รีบพุ่งตัวมาทางนี้ พร้อมมองฉู่หลิวเยว่ด้วยแววตาเปล่งประกาย
“เยว่เออร์ ยินดีด้วย! เมื่อนึกถึงตอนแรก ข้ายังต้องพยายามถึงสามสี่ครั้งกว่าจะสามารถทำได้สำเร็จ! เจ้านี่สุดยอดจริงๆ!”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นริมฝีปากของพวกเขาก็กระตุก
อัจฉริยะบนโลกใบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทำความเข้าใจได้!
มุมปากของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้น
“ข้าแค่โชคดีมากที่มีผู้อาวุโสทั้งหลายอยู่”
หากนางทำมันด้วยตัวคนเดียวคงต้องใช้เวลาและพลังไม่น้อยแน่นอน
ครั้งนี้ที่นางสามารถหลอมได้อย่างราบรื่น ประเด็นสำคัญก็เป็นเพราะ นางหลอมตามผู้อาวุโสทั้งหลายทีละขั้นตอน
แม้นางจะมีประสบการณ์ในการหลอมอาวุธไม่มาก แต่การควบคุมทัณฑ์สวรรค์ของนางนั้นก็ถือว่าแข็งแกร่งมาก
กร๊อบ!
เสียงระเบิดเบาๆ ดังมาจากจี้ห้อยคอของนาง
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหว เมื่อนางถอดสร้อยคอออกมา สร้อยนั้นก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผงทันที
“มันคืออันใดกัน?”
ซูหลีถามขึ้นอย่างสงสัย
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้พูดอันใด แต่ฝ่ามือกลับสั่นเทาเล็กน้อย
ทันใดนั้น สุดขอบฟ้าก็เหมือนจะมีของอันใดบางอย่างพุ่งตรงเข้ามา!
พรึ่บ!
เสียงหวีดแหลมนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง จนทำให้ท้องฟ้ามีลำแสงสีม่วงแปลกตาปรากฏ!
นี่มัน…
ทุกคนสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงทยอยเงยหน้าขึ้นไปมอง
ของสิ่งนั้นพุ่งมาด้วยความเร็วสูง ภายในชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงอาณาเขตของท่าเรือดอกท้อแล้ว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณที่คุ้นเคย จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็รีบเปิดม่านพลังทันที
พรึ่บ!
ของสิ่งนั้นพุ่งตรงมาทางฉู่หลิวเยว่อย่างไม่ลังเล!
ซูหลีตื่นตระหนกขึ้นทันที
“เสี่ยวเยว่เออร์ระวัง!”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า “ท่านซูไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าสิ่งนั้นคืออันใด”
ทันทีที่สิ้นเสียงนางก็ยกมือขึ้น
ทันใดนั้นนางก็ดึงลมปราณของของสิ่งนั้น และให้มันมาตกอยู่กลางฝ่ามือของนาง
ทุกคนมองมาด้วยความสงสัยและกังวล
เมื่อพวกเขาเห็นว่าของสิ่งนั้นคืออันใด พวกเขาก็ชะงักไป
เพราะคาดไม่ถึงว่ามันคือ…หนังสือเล่มหนึ่ง?
หนังสือเล่มนั้นหนาหนักและดูเก่าแก่โบราณ
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปยังที่ของที่อยู่ในมือ ริมฝีปากเม้มแน่น
นั่นคือหนังสือรายชื่อของสำนักหลิงเซียว!
“เยว่เออร์!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนดังขึ้น
เมื่อทุกคนหันกลับไปมองก็เห็นว่า หนานซู่ไหวกำลังเดินทางมาที่นี่ด้วยความรีบร้อน!
เขาพุ่งตัวมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าหนังสือเล่มนั้นนอนนิ่งอยู่กลางฝ่ามือของนาง สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสับสน
“นังหนูเยว่เออร์ ไม่รู้ว่าเหตุใดของชิ้นนี้ถึงเกิดกระวนกระวายขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นมันก็พุ่งตัวออกมาจากหอระฆังบูรพกษัตริย์ คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเข้ามาหาเจ้าที่นี่…”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นว่า
“ข้าจะตามท่านกลับไปที่สำนัก”
ทันใดนั้นหรงซิวก็เดินเข้ามากุมมือนาง
ฝ่ามือที่ใหญ่และอุ่นร้อนจับเข้าที่ฝ่ามือเย็นยะเยือกของนาง
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมามอง ก่อนสบสายตากับเจ้าของที่แววตาที่อบอุ่นอ่อนโยน
ความอบอุ่นแผ่กระจายออกจากฝ่ามือและขยายไปทั่วร่าง เหมือนว่าก่อนหน้านี้เลือดทั่วร่างกายได้แข็งตัว ซึ่งตอนนี้หยาดเลือดค่อยๆ ไหลเวียนอย่างเชื่องช้าแล้ว
นางพยักหน้าเล็กน้อย
“ได้”
หรงซิวหันหน้ามองทางถังเคอ
“เดี๋ยวพวกเราจะรีบกลับมา ผู้อาวุโสทั้งสองไม่ต้องกังวล”
ถังเคอพยักหน้า
“หากมีเรื่องด่วน พวกเจ้าก็ไปจัดการเถอะ ส่วนทางนี้…ไม่ว่าอย่างใดมันก็เริ่มขึ้นแล้ว ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะหยุดอย่างกะทันหัน”
นั่นหมายความว่า เขาตั้งใจจะหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ต่อไป
เดิมทีซูหลีอยากจะถามอันใดบางอย่าง แต่ถังเคอกลับจับมือแล้วลากนางเดินกลับไป
“หลีจื่อ การแข่งขันของพวกเรายังไม่จบ”
ซูหลีมองหน้าเขาอย่างนิ่งค้าง แต่ทันใดนั้นนางก็ตระหนักถึงอันใดบางอย่างขึ้นมาได้
สำนักหลิงเซียวอาจจะเกิดเรื่อง หรงซิวและฉู่หลิวเยว่ใกล้จะเดินทางไปที่นั่นเพียงลำพัง
แม้นางจะรู้สึกเป็นห่วง แต่เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของทั้งสองคน อีกทั้งพวกเขายังมีไพ่ไม้ตายจำนวนมาก จะต้องไม่มีอันใดเกิดขึ้นแน่นอน
นางพยักหน้า
“เช่นนั้น…เสี่ยวเยว่เออร์ พวกเจ้ารีบไปรีบกลับนะ”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับเฉินอีว่า
“เฉินอี เจ้าอยู่ดูแลที่นี่ เมื่อพวกข้าไม่อยู่ เรื่องทั้งหมดภายในท่าเรือดอกท้อก็ต้องยกให้เจ้าจัดการแล้ว”
เฉินอีพยักหน้า
“ขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่กอดหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ในอ้อมแขน
“พวกเราไปกันเถอะ!”