ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2183 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
ตอนที่ 2183 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
………………..
“อาเยว่ล่ะ! ข้าจะไปหาอาเยว่!”
เมื่อจื่อเฉินเห็นถวนจื่อร้องไห้อย่างหนัก สีหน้าของเขาค่อยๆ จริงจังขึ้น เขาอุ้มถวนจื่อในอ้อมแขนพร้อมปลอบนางไปพลางและเดินออกไปข้างนอก
“ถวนจื่ออย่าร้องนะ ข้าจะพาเจ้าไปหานาง”
ถวนจื่อกอดคอและซบลงบนไหล่ของเขา ทั้งสะอึกสะอื้นและพยักหน้า ร่างเล็กๆ ยังคงร้องไห้ครวญครางอยู่เช่นนั้น
จื่อเฉินขมวดคิ้วแน่น และเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
ในตอนแรกเขาคิดว่าถวนจื่อแค่ฝันร้ายเท่านั้น แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่แสดงออกของนาง ดูไม่เหมือนเลยจริงๆ
หรือว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น?
…
จื่อเฉินอุ้มถวนจื่อไปที่ประตูเมืองอย่างรวดเร็ว
เหมือนฉู่หลิวเยว่จะรู้สึกตัวจึงหันกลับมาและเห็นทั้งสองคนเข้าพอดี
“เหตุใดพวกเจ้า…ถวนจื่อ นี่มันเกิดอันใดขึ้น”
เมื่อเห็นถวนจื่อร้องไห้จนตาแดงก่ำ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที
“อาเยว่!”
ถวนจื่ออ้าแขน ฉู่หลิวเยว่จึงรับนางไว้ และปลอบโยนนางที่อยู่ในอ้อมแขน
“เป็นอันใดหรือ เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
ฉู่หลิวเยว่จูบเบาๆ บนหน้าของถวนจื่อ
“ถวนจื่อไม่ต้องกลัวนะ อาเยว่อยู่ที่นี่แล้ว”
นางถามไปพลาง และมองจื่อเฉินไปพลาง
จื่อเฉินส่ายหน้า
“อาเยว่ ท่านเฒ่าเประมุขเกิดเรื่องแล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่งและเอ่ยถามขึ้น
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าหมายถึงอันใด?”
ถวนจื่อพูดขึ้น
ตอนที่ข้ากำลังหลับอยู่นั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกไม่สบายตัว หลังจากที่ตื่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน ข้าก็พบว่าพลังปราณที่ท่านผู้เฒ่าเประมุขทิ้งเอาไว้ในร่างของข้าได้หายไปแล้ว!”
“ยัง ยังมี! ยังมีค่ายกลของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงที่ข้าสัมผัสไม่ได้อีกแล้ว!”
ขณะที่ถวนจื่อพูด หยดน้ำตาที่สุกใสแวววาวก็ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
“ฮือออ…”
นางซุกตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนตัวของฉู่หลิวเยว่
ในใจของฉู่หลิวเยว่หนักอึ้ง
ตั้งแต่ที่ถวนจื่อหายตัวไปครั้งก่อน อี้เจ้าจึงกลัวว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนางอีก ดังนั้นเขาจึงใส่ใจทางนี้เป็นพิเศษ
ลมปราณนั่นไม่มีทางหายไปโดยไม่มีสาเหตุ
นอกจากนี้ที่สำคัญยิ่งกว่าคือถวนจื่อไม่สามารถสัมผัสถึงค่ายกลของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงได้แล้ว!
ในฐานะที่ถวนจื่อคือนายน้อยแห่งตระกูลหงส์ทองคำ และมีสายเลือดบริสุทธิ์ จึงมีพลังที่สามารถควบคุมค่ายกลนั้นได้
“ถวนจื่อ เด็กดี เลิกร้องนะและไม่ต้องกลัว เจ้าลองดูอีกครั้งว่าสัมผัสถึงลมปราณไม่ได้จริงหรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่พูดปลอบขึ้น
ถวนจื่อสายหน้าทั้งน้ำตา
เมื่อเห็นนางเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้ว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมอย่างแน่นอน
“ข้าแค่บอกว่าอี้เจาไม่ได้มาช้า ดูผิดปกติอย่างมาก!”
สีหน้าของโหมวเจินเคร่งขรึมขึ้น
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงเป็นอาณาเขตของหงส์ทองคำ ซึ่งมีหงส์ทองคำหลายร้อยตัวอาศัยอยู่ที่นั่น
แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ จึงทำให้พวกมันรับมือได้ยาก?
“ตอนนี้ต้องไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงโดยเร็วที่สุด”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
“นายท่าน ทางด้านเฟยซิงเหมินนั้น…”
น้องแปดเอ่ยขึ้นอย่างลังเล
ในเมื่อเกิดเรื่องพร้อมกันทั้งสองที่เช่นนี้ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสามารถเลือกไปได้ที่เดียว
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้น
ในขณะนั้นเสียงของหรงซิวก็ดังขึ้นมา
“ทางด้านเฟยซิงเหมิน ข้าจะเป็นคนนำไปก่อน”
เมื่อฉู่หลิวเยว่หันกลับมาก็เห็นหรงซิวกำลังเดินมาทางนี้พอดี
“เจ้าจะไปเองหรือ”
หรงซิวพยักหน้า
“เฟยซิงเหมินเป็นตระกูลชั้นสูงที่สามารถบีบบังคับพวกเขาให้มาเจอปัญหาเช่นนี้ช่างไม่ง่ายนัก ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว ทางพระราชวังเมฆาสวรรค์จะเคลื่อนกำลังคนบางส่วนไปที่นั่นพร้อมกัน”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเบาใจขึ้นเล็กน้อยพลางยื่นขนนกดำนั่นให้เขา
“นี่เป็นเบาะแสเดียวที่คนในเฟยซิงเหมินมาขอความช่วยเหลือและทิ้งเอาไว้ ”
หรงซิวหยิบขนนกสีดำนั้นขึ้นมาและมองไปทางโหมวเจิน จากนั้นประสานมือขึ้นพร้อมกันด้วยสีหน้าจริงจัง
“หรงซิวมีคำขอหนึ่งข้อ หวังว่าผู้อาวุโสโหมวเจินจะรับปาก”
ดูเหมือนโหมวเจินจะเดาออกแล้วว่าเขาต้องการจะพูดอันใด จึงเอ่ยถามขึ้น
“เจ้าอยากให้ข้าเดินทางไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงด้วยอย่างนั้นหรือ”
“เจ้าวางใจ ต่อให้เจ้าไม่พูด ข้าก็ต้องไป”
โหมวเจินถอนหายใจยาวพลางขมวดคิ้วแน่นขึ้น
แม้ว่าความสัมพันธ์ในวันปกติของตระกูลสัตว์มหาเทพโบราณจะละเอียดอ่อน แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสําคัญจริง ๆ หากฝ่ายหนึ่งต้องทนทุกข์ทรมาน อีกฝ่ายหนึ่งจึงไม่สามารถเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนได้เป็นอันขาด
เมื่อหรงซิววางใจขึ้น จึงเดินเข้าไปกอดฉู่หลิวเยว่ในอ้อมแขนและจูบลงที่หน้าผากของนาง
“เดินทางปลอดภัยนะ”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองเขาและพยักหน้าเบาๆ
“เจ้าก็เช่นกัน”
…
ฉู่หลิวเยว่และผู้ติดตามจึงมุ่งหน้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดิมทางมาได้สักพักหนึ่ง พวกเขาก็มาถึงเมืองแห่งทะเลนั่น
เมื่ออยู่ตรงชายฝั่งและมองออกไปทางพื้นทะเลที่ห่างไกลสามารถเห็นยอดเขาที่ทอดยาวสลับกันได้อย่างเลือนลาง
เพียงแต่ก่อนหน้าที่มาฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกอันใดบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ และดูเหมือนจะมีอันใดเปลี่ยนไป”
“การป้องกันที่นี้หายไปหมดแล้ว”
ขณะที่นางจมอยู่ในความคิด คำพูดประโยคหนึ่งของโหมวเจินก็ปลุกให้นางตื่นขึ้นในทันที
ใช่แล้ว!
เริ่มตั้งแต่เมืองแห่งทะเลนี้ พื้นที่ทั้งหมดแผ่ขยายไปจนถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง แท้จริงล้วนเป็นเขตอำนาจของตระกูลหงส์ทองคำ
สมัยก่อนเมื่อพวกเขามาถึงและมายืนอยู่ที่แห่งนี้ ก็รู้สึกได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมาก
แต่ตอนนี้…ล้วนไม่หลงเหลืออันใดเลย!
โหมวเจินพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“ข้าไม่ได้เก็บพลังปราณไว้บนตัว ว่ากันตามเหตุแล้วภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงจะต้องรับรู้อย่างแน่นอน และจะมีคนออกมาในทันที เพื่อสกัดข้าไว้ แต่ตอนนี้…”
ระหว่างสวรรค์และโลกมีเพียงลงที่พัดพามาจากทะเล ท่ามกลางเสียงคลื่นที่กระทบบนโขดหิน ยังคงก้องกังวานอย่างต่อเนื่อง
ฉู่หลิวเยว่ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจขึ้นเรื่อยๆ
“ถวนจื่อ พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ”
ถวนจื่อพยักหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ จากนั้นก็โบกมือเล็กๆ ขึ้น!
เหนือพื้นทะเล สะพานสีแดงทองได้เกาะตัวกันอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเดินข้ามจากสะพานมาในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงหน้าค่ายกลของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
แม้กระทั่งโหมวเจินในฐานะประมุขของตระกูลไท่ซวีเฟิ่งหลง ยังคงไม่รับรู้ถึงอุปสรรคแต่อย่างใด!
สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายถึงปัญหาได้แล้ว
นับตั้งแต่สัตว์มหาเทพทั้งสองนี้เกิดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน!
ถวนจื่อแทบไม่ใส่ใจมากขนาดนั้น จึงพุ่งตรงไปข้างหน้า เพื่อต้องการเปิดค่ายกล!
อย่างใดก็ตามชั้นค่ายกลที่โปรงแสงนั่น กลับดูเหมือนแข็งค้างและไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด!
ถวนจื่อเบิกตาโพลงขึ้นในทันที
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้!”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่จมลง
เพราะสายเลือดบริสุทธิ์ หากถวนจื่อคิดจะควบคุมค่ายกลนี้ก็เป็นเรื่องง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
อยากเปิดก็เปิด อยากปิดก็ปิด
เหมือนว่าสถานการณ์ที่ไม่ตอบสนองเช่นนี้จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
นางก้าวไปข้างหน้าและคลุมบนค่ายกลนั่นด้วยมือของนางเอง
ฝ่ามือเหน็บหนาว!
และในไม่ช้าใต้ฝ่ามือของนางก็มีน้ำค้างแข็งสีน้ำเงินเกาะตัวกันอย่างรวดเร็ว!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นระรัวจึงรีบดึงมือกลับในทันที
แต่อย่างใดก็ตามบนค่ายกลนั่น กลับทิ้งร่องรอบของเกล็ดน้ำค้างแข็งขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือเอาไว้
เมื่อมองดูชั้นน้ำแข็งนั่น เส้นขมับของฉู่หลิวเยว่ก็เกร็งขึ้นในทันที
นี่คือ…
ปัง!
ยังไม่ทันรอให้นางคิดอย่างละเอียด ถวนจื่อก็เตะเข้าที่ค่ายกลนั่น!