ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2184 ตระกูลผู้พิทักษ์
ตอนที่ 2184 ตระกูลผู้พิทักษ์
………………..
ปัง!
เสียงดังอึกทึก แต่ค่ายกลนั้นนอกจากน้ำแข็งที่เกาะตัวกันอย่างรวดเร็วหลายแห่งแล้ว ก็ไม่ปรากฏรอยร้าวใด ๆ ขึ้น
ค่ายกลนี้แน่นหนาอย่างมาก แม้แต่พลังโจมตีทั้งหมดเของถวนจื่อก็ไม่สามารถเปิดได้
ฉู่หลิวเยว่มองไปทางโหมวเจิน
“ผู้อาวุโสโหมวเจิน ท่านมีวิธีหรือไม่”
โหมวเจินส่ายหน้า
“ในค่ายกลนี้ควบรวมพลังแห่งสายเลือดของตระกูลหงส์ทองคำเอาไว้ หากข้าลงมือ มีแต่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงมากขึ้นกว่าเดิม”
อย่างใดเขาก็คือท่านประมุขของตระกูลไท่ซวีเฟิ่งหลง
มือของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กำแน่นขึ้น
“พูดเช่นนี้ หากคิดจะเปิดค่ายกล เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากเสียแล้ว”
ในขณะนั้นแสงสีทองแดงก็พุ่งออกมาจากระหว่างคิ้วของถวนจื่อในทันที
สิ่งนั้นคือขนนกยาวเส้นหนึ่ง
“ขนนกบรรพบุรุษทองคำ?”
ในใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวอย่างกะทันหันพลางเอ่ยถามขึ้น
“ถวนจื่อ เจ้าเรียกมันออกมาได้อย่างใด “
ภายใต้สถานการณ์ปกติ เมื่อถวนจื่อเปิดเส้นชีพจรได้ ขนนกทองคำบรรพบุรุษนี้ถึงจะปรากฏขึ้น
ไม่แปลกที่ฉู่หลิวเยว่ตื่นเต้นเกินไป แท้จริงแล้วเรื่องครั้งก่อนทำให้นางประทับใจอย่างที่สุด
ทุกครั้งที่นึกถือมือของถวนจื่อที่ถูกโซ่ล่ามเอาไว้ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ในใจของนางก็เจ็บแปลบขึ้น
ถวนจื่อส่ายหน้าอย่างเลื่อนลอย
ค่ายกลที่แข็งค้างกลับสลายลงในทันที!
ทางเข้าปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วตรงหน้าทุกคน!
ถึงกระนั่นขนนกทองคำบรรพบุรุษก็บินออกไปเอง และเปิดค่ายกลนี้!
จากนั้นขนนกทองคำบรรพบุรุษก็บินเข้าไปในค่ายกล ถวนจื่อจึงรีบตามไปทันที!
ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นตามมาไม่ไกลจากด้านหลัง และเข้าไปในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
…
ทันทีที่เข้าไป กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งและล่องลอยอยู่ในอากาศ
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกใจคอไม่ดี จึงเงยหน้ามองในทันที
เมื่อเห็นเข้านางตื่นตกใจในทันที
เมื่อกวาดสายตามองจึงเห็นยอดเขาพังทลาย ป่าไม้ล้มระเนระนาด และคราบเลือดแตกกระเซ็นไปทั่ว
เห็นได้ชัดว่าที่นี่เพิ่งผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมา!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตึงเครียดและมองไปทางถวนจื่อ
ถวนจื่อกัดริมฝีปากแน่นและมุ่งตรงไปตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
…
บนลานหน้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง ปรากฏเหวลึกที่มองไม่เห็นด้านล่าง
ก้อนหินร่วงลงมา ควันฝุ่นฟุ้งกระจาย กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นลอยคลุ้งออกมาจากในนี้
เลือดสีแดงเข้มแห้งกรัง แสดงให้เห็นภาพทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่
“ท่านผู้เฒ่าประมุข!”
จู่ๆ ถวนจื่อก็สำลักออกมาและพุ่งตรงไปที่ก้อนหินที่ร่วงลงมา
นางเปิดก้อนหินเหล่านั้นออก และขนนกสีแดงทองที่เปื้อนเลือดก็ออกมาจากด้านล่างสุด
ทั้งใบหน้าและมือของนางเปื้อนฝุ่นและเลือด แต่ตอนนี้นางไม่ได้สนใจตัวเองนักเพียงแต่ถือขนนกนั่นไว้และร้องไห้ออกมาไม่หยุด
“ถวนจื่อ”
นางอุ้มถวนจื่อไว้ในอ้อมแขน และมองดูขนนกนั่นอีกครั้ง
พลังปราณที่อยู่ด้านบนนั่น เป็นของอี้เจาจริงๆ!
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น
อี้เจาคือประมุขของตระกูลหงส์ทองคำ มีพละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ทั้งหมดแทบจะไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
ใครกันแน่ที่ทำร้ายเขา? ทำลายที่นี่จนกลายเป็นเช่นนี้!?
นางเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว จนมาถึงขอบเหวลึกและมองลงไปข้างล่าง
พลังปราณอันน่าสะพรึงกลัวที่คุ้นเคย ประทุขึ้นมาจากด้านล่าง!
ทันใดทันหัวใจของฉู่หลิวเยว่เหมือนถูกอะไรบางอย่างรัดไว้แน่น!
พลังปราณนี้…
เช่นเดียวกับมือนั้นที่อยู่ใต้เขาหมื่นเมรัยของสำนักหลิงเซียว รวมทั้งดวงตานั่นที่อยู่ในท่าเรือดอกท้อที่เหมือนกันทุกประการ!
การคาดเดาที่ไร้เหตุผลมากมาย เกิดขึ้นในใจของฉู่หลิวเยว่
…บางทีร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลายบางส่วนของคนผู้นั่นอาจหลบซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้?
นางกลั้นลมหายใจ
ใครจะไปคิดว่าใต้ลานจัตุรัสที่อยู่ตรงหน้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
จะมีความลับที่น่าตกใจเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ!”
จู่ๆ นางก็หันกลับไปมองทางตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
โชคดีที่ด้านนอกตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงถูกปกคลุมด้วยค่ายกล และดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
สง่างาม ยิ่งใหญ่ เข้มงวด
เหมือนเช่นเคย
“นังหนูเยว่เออร์ เจ้าจะไปไหน”
ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับอย่างแน่วแน่
“หุบเขาเฟิ่งหวง”
…
ระยะห่างของของหุบเขาเฟิ่งหวงอยู่ไม่ไกลจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง พวกเขาจึงมาถึงสถานที่ได้อย่างรวดเร็ว
ค่ายกลขนาดกว้างใหญ่ได้ปกคลุมไว้ทั้งหมด
และภายในนั้นสามารถมองเห็นกลุ่มแสงรูปร่างกลมแต่ละลูกๆ ได้อย่างเลือนลาง
ฉู่หลิวเยว่คุ้นเคยกับสิ่งนี้อย่างมาก…เมื่อคนในตระกูลหงส์ทองคำพักผ่อนอยู่ที่นี่ แต่ละคนต่างเข้าสู่กลุ่มแสงของตนเอง
ตอนที่นางกับถวนจื่อมาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
เพียงแต่ในเวลานั้นจำนวนกลุ่มแสงไม่ได้มากมายเช่นนี้
และตอนนี้เมื่อมองไปรอบๆ อย่างน้อยก็มีเกือบร้อยดวง
ถวนจื่อจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก
เมื่อถึงตอนนี้น้ำตาของนางแทบจะหยุดลงแล้ว
คนที่เหลือของตระกูลหงส์ทองคำล้วนอยู่ที่นี่ทั้งหมดใช่หรือไม่?
ฉู่หลิวเยว่พูดพึมพำด้วยเสียงต่ำ
ถวนจื่อกำขนนกทั้งสองไว้ในมือแน่น
อันหนึ่งคือขนนกทองคำบรรพบุรุษ และอีกอันคือขนนกของอี้เจา
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ ถวนจื่อจึงหันกลับไปมองนาง
“อาเยว่ ดูเหมือนพวกมันจะหลับกันหมดแล้ว”
“หลับแล้วหรือ”
“อืม หลับแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองไปทางค่ายกลขนาดใหญ่ที่ปกคลุมหุบเขาเฟิ่งหวงทั้งหมด
“หากพูดเช่นนี้ ค่ายกลนี้…ก็ถูกทิ้งไว้โดยผู้อาวุโสอี้เจาอย่างนั้นหรือ”
ถวนจื่อพยักหน้าด้วยแรงทั้งหมดและพูดขึ้นอีกว่า
“ยังมีผู้อาวุโสผู้เฒ่าหลายคน ดูมือก็ช่วยด้วยเช่นกัน”
ที่แห่งนี้มีพลังปราณของคนอื่นสองสามคนปะปนอยู่
ฉู่หลิวเยว่ยิ่งยืนยันการคาดเดาในใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าจะเกิดเหตุขึ้นบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง อี้เจ้าพยายามสุดกำลังเพื่อปกป้องตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงและหุบเขาเฟิ่งหวง และเขาก็หายตัวไปพร้อมกับของที่อยู่ใต้จัตุรัสนั่นโดยไม่อาจรู้ได้
ฉู่หลิวเยว่เชื่อมั่นว่าอี้เจายังมีชีวิตอยู่
เพราะถ้าหากอี้เจาถึงแก่ชีวิต ถวนจื่อจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตะกูลต่อในทันที และตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงจะต้องรับรู้เรื่องนี้
แต่ตอนนี้สถานการณ์การเช่นนี้ยังไม่เกิดอันใดขึ้น
อย่างใดก็ตามการตามหาอี้เจา เกรงว่าเป็นเรื่องยากลำบากยิ่งนักในตอนนี้
“ค่ายกลที่อยู่นอกภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง น่าจะถูกแช่แข็งด้วยฝีมือของผู้อาวุโสอี้เจานั่นเอง”
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถปกป้องตระกูลหงส์ทองคำไว้ได้
“ถวนจื่อ ตอนนี้เจ้าสามารถสังเกตุเห็นถึงทิศทางผู้อาวุโสอี้เจ้าหรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามขึ้น
ถวนจื่อส่ายหน้า จู่ๆ ดูเหมือนนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างลังเล
เวลานี้ท้องฟ้าค่อยๆ มืดสลัวลง
สะพานเงินค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงตำแหน่งของสวรรค์และโลกที่เชื่อมต่อกัน
มันขยายตัวขึ้นไปทีละน้อยๆ จนยาวกว่าเมื่อวานก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ถวนจื่อจับจ้องมองที่สะพานนั่นอย่างแน่วแน่ และรับรู้ถึงความรุนแรงยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านผู้เฒ่าประมุข…อยู่ที่ไหน!”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้น
หรือว่าอี้เจ้าก็อยู่ที่ตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์?
…
อีกด้านหนึ่ง หรงซิวพาอวี๋มั่วและคนอื่น ๆ ไปที่เฟยซิงเหมิน
ยังไม่ไปถึงก็เห็นแปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในระยะไกล
ไฟขนาดใหญ่แทบจะกลืนกินไปทั่วฟ้าและทุกพื้นที่ทั้งหมด
………………..