ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2188 เมืองทะเล
ตอนที่ 2188 เมืองทะเล
………………..
ขณะนี้ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันที่ริมฝั่ง
พวกเขาแหงนหน้ามองขึ้นไป ในดวงตาเผยให้เห็นความปรารถนาและความคาดหวังอย่างแรงกล้าที่มิอาจปกปิดได้
การมาถึงของฉู่หลิวเยว่และผู้ติดตามได้สร้างความวุ่นวายท่ามกลางฝูงชน
“คนผู้นั้นจากท่าเรือดอกท้อมาถึงแล้ว!”
“”เมื่อไม่นานมานี้ได้ยินว่าผู้อาวุโสถังเคอและท่านซูได้ร่วมมือกันหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อเกือบร้อยชิ้น โดยมอบให้ท่าเรือดอกท้อเพื่อเป็นของขวัญทั้งหมด! ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นภาพสถานการณ์แบบใดกัน”
“ได้ยินชื่อเสียงของซั่งกวนเยว่มานาน ไม่คิดว่าจะบังเอิญพบกันที่นี่”
“สิ่งนี้มีอันใดแปลกอย่างนั้นหรือ? ประตูแดนสวรรค์ของตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์เปิดออก ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนต่างวิ่งเข้าไปในนั้นอย่างมุ่งมั่น แม้แต่นางก็ไม่เว้น”
“แต่ว่าคนผู้นั้นของพระราวังเมฆาสวรรค์มักอยู่กับนางตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดครั้งนี้ถึงไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของเขา”
“พาคนมาน้อยเช่นนี้ ดูเหมือนซั่งกวนเยว่จะมีความมั่นใจในตัวเองมากเสียจริง ทว่า หากคิดจะเข้ามาที่ตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปได้….”
ทุกคนต่างพูดคุยกันเสียงดัง
ในเวลานี้พูดได้ว่าฉู่หลิวเยว่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในอาณาจักรเสิ่นซวี่ ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและสำรวจนางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉู่หลิวเยว่กลับไม่สนใจสายตาและเสียงซุบซิบที่อยู่รอบๆ ตัวนาง
นางจ้องมองไปข้างหน้า
น้ำทะเลสีครามพุ่งขึ้น ทำให้เกลียวคลื่นกระทบบนโขดหินอย่างต่อเนื่องจนน้ำสาดกระเซ็น
สิ่งที่แตกต่างจะทะเลที่อื่นคือน้ำทะเลของที่นี่หลอมรวมด้วยพลังมหาศาล
ถึงแม้ยืนอยู่บนฝั่ง แต่ก็ยังรับรู้ได้ถึงพลังกดดันที่ยากจะนิ่งเฉยได้
เหนือพื้นทะเล นอกจากสะพานสีเงินนั่น ก็ไม่มีสิ่งใดเลย
นอกจากพวกเขาแล้วที่แห่งนี้ดูเงียบสงบเกินไป มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองเมืองทะเลที่ลึกลับซับซ้อนนั่นและพูดเสียงเบาขึ้นว่า
“พลังในน้ำทะเลนี้ทรงพลังมากเกินไป จึงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเข้ามาใกล้”
“นายท่าน หมายความว่าอันใด?”
น้องแปดกระพริบตาและเข้ามาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“หากมีพลังมากเท่าใด ก็ยิ่งดีต่อการฝึกฝนไม่ใช่หรือ”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่โค้งงอขึ้น
“หากพูดกันตามปกติมักเป็นเช่นนั้นจริง ทว่าภายใต้เงื่อนไขที่ร่างกายสามารถทนต่อสายน้ำและการกัดกร่อนของพลังเหล่านี้ได้ หากควบคุมไม่ได้ก็จะเป็นอันตรายมากกว่าประโยชน์ ”
ก่อนหน้านี้ในตำหนักของทะเลทรายจันทราสีขาดก็เคยเกิดปัญหาเช่นนี้
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!”
น้องแปดพยักหน้าอย่างจริงจัง และเอามือข้างหนึ่งเท้าคางเอาไว้
“แต่ว่าสถานที่แห่งนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก พลังแห่งสวรรค์และโลกมากมายเช่นนี้ แต่กลับไม่แพร่กระจายออกไปข้างนอก มีเพียงพลังที่อันแน่นอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่า…จะมีค่ายกลที่มองไม่เห็นชั้นหนึ่งทำให้ปิดกั้นที่นี่ทั้งหมด”
ฉู่หลิวเย่วมองไปยังสะพานเงินนั่นอย่างครุ่นคิด
ในขณะนั้นบนท้องฟ้าจู่ๆ ก็มีเสียงระฆังดังขึ้น!
ตุงงง
เสียงระฆังจากระยะอันไกลโพ้น ดึงกึกก้องไปทั่วระหว่างสวรรค์และโลก
ทุกคนต่างรู้สึกหนาวสั่น!
“ประตูแดนสวรรค์เปิดแล้ว!”
ท่ามกลางฝูงชนไม่รู้เป็นใครที่ตะโกนขึ้น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ยินความตื่นเต้นและความดีใจที่อัดแน่นอยู่ในน้ำเสียง
“ทะเลนี้แปลกๆ อยู่เล็กน้อย จะมีอันตรายหรือไม่”
“หากอันตราย ก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน และเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเอากลางคัน เช่นนี้จะให้มองดูอย่างแห้งเหี่ยวหรือ”
แม้จะรู้ว่าหนทางข้างหน้านั้นอันตราย แต่ก็ไม่สามารถลบความปรารถนาในใจคนทุกคนลงได้
“ข้ามาก่อน!”
ผู้อาวุโสชุดดำท่านหนึ่งลูบเคราไปมาและเดินนำออกไปก่อน
ฉู่หลิวเยว่มองดูอยู่ครู่หนึ่ง
นางไม่รู้จักผู้อาวุโสท่านนั้น แต่เมื่อเห็นพลังปราณบนร่างของเขา ก็น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่ผิดอย่างแน่นอน
ในเวลาเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมีความมั่นใจอยู่ไม่น้อยจริงๆ
ทุกคนต่างจ้องมอง
ผู้อาวุโสชุดดำท่านนั่นมาถึงริมฝั่ง จากนั้นจึงร่ายฝ่ามือและวางค่ายกลสีแดงรอบตัวเขา
ต่อมาเขาเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยและมุ่งหน้าไปยังสะพานเงินที่อยู่ตรงกลางทะเลนั่นอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเขาผ่านไประลอกคลื่นก็กระเพื่อมขึ้นบนทะเล
จากนั้นทุกคนเห็นว่าความเร็วของผู้อาวุโสชุดดำท่านนั้นค่อยๆ ลดช้าลงอย่างเห็นได้ชัด!
พลังแห่งสวรรค์และโลกที่แน่นหนาราวกับหลุมโคลน ที่ชะลอความเร็วของเขาลง!
ผู้อาวุโสชุดดำตกตะลึง เขารู้สึกราวกับมีภูเขาลูกใหญ่กดทับลงมาอย่างหนักจนเขาแทบหายใจไม่ออก
เขาโคจรพลังในร่างอย่างรวดเร็ว เพื่อฝืนประคองร่างกายของตนไม่ให้ล้มลง
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเชื่องช้าลงอย่างมาก
การเดินทางเพิ่งผ่านไปครึ่งทาง แต่พลังในร่างกายของเขาได้หายไปอย่างน่าตกใจ
เมื่อรอเขาไปถึงด้านหน้าสะพานเงินนั้นอย่างยากลำบาก หน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
ขณะที่เขาก้าวขึ้นสะพานเงิน ก็รู้สึกได้ถึงความกดดันบนร่างกายลดลงในทันที!
“ปัง”
หากช้าไปอีกนิดเดียว เกรงว่าเขาจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ และตกลงไปในน้ำทะเลนั่น
เขามองไปทางทุกคนที่ยืนอยู่บนริมฝั่งและพูดขึ้นด้วยความหวาดผวา
“ทะเลด้านนี้ เกรงว่าจะมีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะฝืนผ่านไปได้ คนในระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ลงไปควรยอมแพ้เสียเถอะ!”
…
เมื่อเขาพูดจบทุกคนต่างหันหน้ามองกันไปมา
แท้จริงหลายคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่สัดส่วนของเทพขั้นสูงก็มีไม่น้อยเช่นกัน
คำพูดเช่นนี้จะทำให้เทพขั้นสูงของที่นี้เลือกที่จะยอมแพ้และพวกเขาจะเต็มใจได้อย่างใดกัน
“คำพูดนี้…ไม่ได้หลอกพวกเราใช่หรือไม่ ก็แค่บินข้ามเมืองทะเลนี้ จะพูดเกินจริงเช่นนั้นได้อย่างใด”
“ก็จริง ระยะห่างจากตรงนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่นับว่าไกลเกินไป เหตุใดถึงมีแค่เทพศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านไปได้เล่า แสร้งปล่อยข่าวลือเกินไปหน่อยกระมัง”
“แต่จากที่ข้าเห็นท่าทางของเขา ดูเหมือนไม่ใช่คนโกหกเลยนะ…”
“ไม่ว่าอย่างใด ในเวลาเช่นนี้ คำพูดของใครก็อย่าเชื่อไปเสียหมดเป็นดีที่สุด”
แต่ละคนต่างมีความเห็นที่ต่างกันอยู่ครู่หนึ่ง
แทนที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เชื่อคําพูดขอผู้อาวุโสชุดดำนั่น ไม่สู้บอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงที่นี่ เพียงได้ยินคำพูดของคนอื่นแค่ประโยคเดียวแล้วจะล้มเลิกได้อย่างใด
เมื่อผู้อาวุโสชุดดำเห็นปฏิกิริยาของทุกคน พลางยืดอกและสะบัดแขนเสื้อเต็มแรง
“ในเมื่อข้าพูดเช่นนี้แล้ว พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่! จะรนหาที่ตายกัน ต่อไปหากเกิดเรื่องขึ้น ก็อย่าหาว่าตาเฒ่าคนนี้ไม่เตือนพวกเจ้าก็แล้วกัน!”
หลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า!
“พวกเราสองสามคนจะไปที่นั่นด้วยกัน และยังสามารถช่วยเหลือกันได้ไม่มากก็น้อย บางที่อาจจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น!”
“มีเหตุผล!”
“งั้นพวกข้าตามพวกเขาไปด้านหลังก็พอ…”
จากนั้นชั่วครู่ฉู่หลิวเยว่ก็เห็นสามคนเดินจับมือกันไปข้างหน้า
ในสามคนนี้ คนหนึ่งคือเทพศักดิ์สิทธิ์ อีกสองคนคือเทพขั้นสูง ดูแล้วอายุยังน้อยนัก
แต่ก็ไม่แปลกใจเลยที่อารมณ์จะพลุ่งพล่านเช่นนี้
เมื่อทั้งสามคนนี้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมาดมั่น แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้
แรงกดดันที่ทับซ้อนกันทะลักออกมาจากทุกทิศทาง จนแทบจะต้านทานเอาไว้ไม่ไหว!
พลังในร่างของพวกเขาเริ่มถูกใช้ไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ยังคงต่อสู้ดินรนอยู่เช่นนั้น
เมื่อเดินไปตำแหน่งหนึ่งในสามส่วน หนึ่งคนในนั้นก็ทนต่อไปไม่ไหวจึงตกลงในน้ำทะเล
จ๋อม!