ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2220 ไม่ไป / ตอนที่ 2221 จมลง
ตอนที่ 2220 ไม่ไป / ตอนที่ 2221 จมลง
………………..
ตอนที่ 2220 ไม่ไป
ภายในลานกว้าง เกิดความเงียบสงัดในชั่วพริบตา
เฉินอีจดจ้องเขา พลางเอ่ยเสียงเข้ม
“เมื่อครู่เจ้าว่าอันใดนะ”
ม่านตาของเชียงหว่านโจวพลันหดตัว ในเวลานี้ถึงเพิ่งได้สติกลับมา บนใบหน้างามวิจิตรปรากฏความงุนงงและประหม่าขึ้นหลายส่วน
“ข้า…พูดอันใดหรือ?”
เขาย่อมรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าตนพูดอันใดไป
เขาได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ!
แต่กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่า เหตุใดเขาถึงมอบคำตอบเช่นนั้นออกไป!
พลันกระชับมือที่กำลังจับประตูใหญ่ของเขาแน่นอยู่ ภายในใจเกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นมาอย่างไม่อาจต้านทานในทันที
เฉินอีชะงักเล็กน้อย แล้วเอ่ย
“เจ้ากลับไปพักผ่อนอีกสักหน่อยเถิด”
เชียงหว่านโจวเม้มริมฝีปาก แล้วพยักหน้าเล็กน้อย พลันเดินกลับไปอีกครา
เมื่อไปถึงหน้าประตูเรือน ย่ำก้าวของเขากลับพลันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ข้าอยากออกเดินเล่นสักหน่อย”
เฉินอีช้อนตาขึ้นมองเขา
เชียงหว่านโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ก็…จะไปดูตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ สักหน่อย”
ผ่านไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเฉินอีก็พยักหน้า
เมื่อวาจามาถึงที่ข้างปาก เขาก็พลันตระหนักได้
อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวาจาครึ่งหลังนั้นจะต้องตามมาด้วยคำใด แต่เหมือนว่าคำตอบนี้จะพุ่งพรวดออกมาตามจิตใต้สำนึกอย่างใดอย่างนั้น…
เขามองเฉินอีอย่างกริ่งเกรงอยู่บ้างปราดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาเรียบนิ่งราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจถึงได้เอ่ยขอบคุณอีกคราหนึ่ง แล้วหมุนกายจากไป
ประตูใหญ่ถูกเปิดออก แล้วปิดลงอีกครั้ง
“นำของที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นทั้งหมดคืนกลับไปให้เหลียงเหอ”
เฉินอีเอ่ยขึ้นอย่างไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
“ทิศอาคเนย์สามสิบเจ็ดลี้ เรือนหลังที่แปดบนถนนถงหลวน”
กองอยู่ที่หน้าประตู แม้จะไม่มีคนกล้าหยิบไปตามอำเภอใจ แต่ก็ย่อมไม่ค่อยสะดวกนัก
เชียงหว่านโจวรับคำเสียงหนึ่ง แล้วถึงค่อยจากไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง หัวซวงซวงก็เดินออกมาจากด้านในเรือน แล้วเอ่ยถามอย่างประหลาดใจอยู่บ้าง
“พี่ใหญ่ ท่านรู้ได้อย่างใดว่าเหลียงเหออาศัยอยู่ที่ใด?”
ในช่วงนี้ เหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่เคยเดินออกนอกประตูเลย
เฉินอีมองเขาปราดหนึ่ง
“ในช่วงหลายวันมานี้เขามาหาทุกวัน ทุกครั้งก็ล้วนกลับไปเพียงที่เดียว ยังมีอันใดจะยากคาดเดาอีกหรือ?”
หัวซวงซวงพลันหัวร่อฮ่าๆ “พี่ใหญ่ ที่จริงข้ารู้สึกว่าเหลียงเหอนั่นก็ไม่เลว แม้ว่าตัวคนนั้นจะมีรูปโฉมทั่วไป ทว่าก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเยาว์ พรสวรรค์ดี กับน้องแปดก็ไม่เลว”
หลายปีถึงเพียงนี้ ผู้ที่ตามเกี้ยวน้องแปดล้วนเป็นดั่งปลาไนข้ามแม่น้ำ แต่นางก็ไม่เคยชายตามอง
นางชื่นชอบความคึกคัก กลับไม่เคยมีความครุ่นคิดคะนึงหา รักอิสระเสรี
เฉินอีเอ่ยเสียงนิ่ง
ไม่ใช่ว่าก็แค่ล้อเล่นหรอกหรือ…
“ใคร ใครจะลักพาตัวข้าหรือ?”
ได้ยินชื่อของตนเอง น้องแปดก็หิ้วสมุนไพรที่ตั้งใจเลือกสรรมาแล้วตะกร้าหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างพราวเสน่ห์
“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านอย่ามาดูถูกคนกันเกินไปหน่อยเลยกระมัง ไหนเลยจะเป็นข้าถูกคนอื่นลักพาตัว กลับเป็นข้า ไม่แน่ว่าอีกครู่หนึ่งพออารมณ์ดีแล้ว ค่อยไปลักพาตัวลูกเขยมาให้พวกท่านดูสักหลายคนหน่อย”
หัวซวงซวงสีหน้าเคร่งเครียด “นั่นไม่ใช่ลูกเขย!”
“อ้อ นั่นหมายถึงน้องเขยหรือ เฮ้อ ก็เหมือนกันนั่นแหละ!”
เฉินอีลอบชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วมองนางปราดหนึ่ง
“ก็ดี”
น้องแปดเดินเซไปคราหนึ่ง
“พี่ใหญ่ ข้าก็แค่พูดเล่น ท่านคิดจริงจังหรือ?”
เฉินอีแย้มยิ้มเล็กน้อยอย่างแฝงนัยล้ำลึก
“สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ ไม่มีเหตุผลในการแต่งออกไปยังบ้านอื่น เช่นนั้นหาคนมาแต่งก็ไม่เลว”
…
ท่าเรือดอกท้อ
เยี่ยนชิงเปิดผนึกจดหมายฉบับหนึ่ง
หลังจากอ่านจบอย่างรวดเร็ว เขาก็ขยับปลายนิ้วคราหนึ่ง แล้วเผาจดหมายฉบับนั้นเป็นผุยผง
“ถ่ายทอดคำสั่งของนายท่านกลับไป พระราชวังเมฆาสวรรค์ทุกคนรอรับคำสั่งอยู่ที่เดิม ไม่ต้องก้าวเข้าประตูสวรรค์”
นายทหารสวมเกราะสีดำทั้งกายที่ยืนอยู่ข้างกายเขาพลันขานรับ
“ขอรับ!”
ขณะเขากำลังจะหันกายจากไป จู่ๆ ก็หยุดชะงัก แล้วเอ่ยถามอย่างลังเลอยู่บ้าง
ตอนที่ 2221 จมลง
บนใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยนชิงเป็นความสงบนิ่งทั่วทั้งดวง
“ไม่ไป”
ในเวลานี้ยังไม่มีความจำเป็นชั่วคราว
ถึงอย่างใดพวกอวี๋มั่วก็ล้วนอยู่
อีกอย่าง ที่ท่าเรือดอกท้อฝั่งนี้ก็ยังจำเป็นต้องมีคนดูแล
“ขอรับ”
นายทหารผู้นั้นเห็นท่าทีของเยี่ยนชิงแน่วแน่ จึงไม่ได้ถามต่อ แล้วหันกายจากไป
ภายในห้องเหลือแค่เพียงเยี่ยนชิงคนเดียว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง และมุ่งเดินไปทางนอกประตู
ยังไม่ทันได้เดินออกจากประตูใหญ่ของลานกว้าง ก็ชนเข้ากับถังเคอที่ตั้งใจเดินเข้ามาด้านหน้าโดยเฉพาะ
เยี่ยนชิงค้อมกายคารวะ
“ผู้อาวุโสถังเคอมาเยือนเช่นนี้ มีเรื่องที่เร่งด่วนหรือไม่”
ถังเคอหัวเราะแหะๆ แล้วเอ่ย
“ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนอันใด แต่ช่วงนี้จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบหลอมอาวุธจำนวนหนึ่ง…”
เยี่ยนชิงพลันชะงัก
“ท่านเขียนรายการไว้แล้วหรือไม่”
ถังเคอยื่นมือส่งให้ไปตามสะดวก
“อืม ล้วนอยู่นี่แล้ว”
เยี่ยนชิง “…”
ถังเคอนวดมือเล็กน้อย
“แหะๆ รบกวนเจ้าสักหน่อยจริงๆ”
เรื่องนี้หากว่าเป็นเมื่อก่อน การคิดอยากจะนำของเหล่านี้มาจากเหยียนเก๋อนั้น ไม่ได้ง่ายนัก
แต่ เวลานี้สิ่งที่เขาหลอมล้วนส่งไปให้ฉู่หลิวเยว่ มีพระราชอนุญาตของฝ่าบาท เหยียนเก๋อไม่กล้าไม่ให้
เยี่ยนชิงยังคงมีสีหน้าเย็นชา
“นี่เดิมทีก็เป็นเรื่องในความรับผิดชอบของข้า หากผู้อาวุโสไม่มีเรื่องอื่นอีก ข้าก็ขอตัวลาก่อนแล้ว”
ถังเคอหัวเราะแหะๆ “รีบไปทำธุระเถิด!”
หลายเรื่องราวของท่าเรือดอกท้อในช่วงนี้ล้วนเป็นเยี่ยนชิงจัดการ ยุ่งมากจริงๆ
เยี่ยนชิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วถึงค่อยจากไป
ขณะกำลังมองเงาหลังของเขา ถังเคอก็ “จิ๊” เสียงหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยพึมพำเสียงหนึ่ง
“หลายปีถึงเพียงนี้แล้ว นิสัยนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปแม้เพียงครึ่ง…”
…
ตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ สระอัสนี
ฉู่หลิวเยว่เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าและมั่นคง
ดวงแสงสีเงินเรืองรองโอบล้อมอยู่รอบตัวนาง อานุภาพของทัณฑ์สวรรค์นับไม่ถ้วนแทรกซึมเข้าไปในกายนาง แล้วห่อหุ้มพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างเอาไว้ทีละเล็กทีละน้อย
ยิ่งเดินเข้าไปด้านใน ขุมพลังที่อบอวลอยู่ในทัณฑ์สวรรค์ก็ยิ่งกล้าแกร่ง
แต่ อาจเป็นเพราะร่างศักดิ์สิทธิ์ของนางค่อนข้างพิเศษ ทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้จึงไม่ได้มีภัยคุกคามอันใดต่อนาง
พูดให้ตรงตัวหน่อยก็คือ…ไม่เจ็บไม่คัน
หลังจากเดินมาเป็นช่วงระยะทางหนึ่ง นางก็ยังไม่อาจสัมผัสถึงพลังปราณของอี้เจา จึงเอ่ยถามขึ้นในใจอย่างไม่รู้ตัว
“ถวนจื่อ เจ้าสัมผัสอันใดได้หรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่ “อืม” เสียงหนึ่ง กลับไม่ได้ประหลาดใจ
หากสามารถหาอี้เจาพบได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนั้นจริง เช่นนั้นถึงจะมีปัญหาแล้ว
“อย่างนั้นพวกเราก็ไปดูที่ด้านในกันสักหน่อย”
…
“เหตุใดนางถึงเดินไปยังด้านในอยู่อีก”
“ยิ่งเป็นด้านใน อานุภาพของทัณฑ์สวรรค์ยิ่งแข็งแกร่ง ฝั่งนั้นแม้แต่ข้าก็ล้วนไม่ค่อยกล้าไป นางกล้าเช่นนี้ก็กล้าเกินไปแล้วกระมัง”
“ไม่ว่าจะมองอย่างใดข้าก็เห็นว่า…ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นไม่มีภัยคุกคามใดต่อนางเลยใช่หรือไม่ ได้ยินว่านางบรรลุระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่เยาวัย พรสวรรค์แก่กล้า แต่…ก็ไม่ถึงกับแกร่งเช่นนี้กระมัง”
“ข้ากลับได้ยินมาว่า ร่างศักดิ์สิทธิ์ของซั่งกวนเยว่นี้ถึงขั้นจำแลงมาจากทัณฑ์ทลายเทพ แม้แต่ทัณฑ์ทลายเทพนั่นนางล้วนยังต้านทานได้ สิ่งตรงหน้าเหล่านี้ก็น่าจะไม่สร้างปัญหากระมัง แต่ว่า ข้ากลับยิ่งแปลกใจว่าที่สุดแล้วนางจะเดินไปได้ถึงไหนกัน”
ตามการที่ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ มุ่งเดินเข้าไปยังส่วนลึกของสระอัสนี บริเวณโดยรอบก็ยิ่งมีหลายคนนำความสนใจมาไว้ที่ตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆ
เฉิงเพ่ยที่กำลังหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่บริเวณขอบสระอัสนี เมื่อได้ยินวาจาเหล่านั้นก็เบิกตาขึ้นกว้างอย่างอดรนทนไม่ได้
เมื่อสายตาเห็นว่าเงาร่างสายนั้นยังมุ่งเข้าไปในจุดที่มีแสงอัสนีเรืองรองไม่หยุดจริงๆ สองมือของเขาก็กำหมัดแน่น โทสะและความไม่ยินยอมล้นทะลักขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ
ผู้ใดก็ล้วนรู้ว่า จุดที่ลึกที่สุดของสระอัสนีนั้นเก็บสะสมอานุภาพและอำนาจกดดันอันยิ่งใหญ่ถึงที่สุดเอาไว้
เพราะตรงที่แห่งนั้น นอกจากทัณฑ์สวรรค์สีเงินแล้วยังมีทัณฑ์สวรรค์สีทองแอบซ่อนอยู่ด้วย!
หากสามารถไปถึงจุดนั้นได้ และผ่านการหลอมทัณฑ์สวรรค์ระดับสูงสุด ผลประโยชน์ที่จะสามารถได้รับก็แทบจะยากประมาณการ
ผู้ฝึกตนเหล่านี้ของตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ มีผู้ใดไม่เคยคิดอยากไปบ้าง
แน่นอนว่าเขาก็ไม่มีข้อยกเว้น
แต่ ทุกคนล้วนมีขีดจำกัดที่สามารถแบกรับได้ของตนเอง
และขีดจำกัดของเขาก็คือที่นี่
หากเข้าไปใกล้ยิ่งกว่านี้อีก เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าตนจะยังสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยไร้ความเสียหายแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในใจเขาก็นับว่ารู้สึกดีขึ้นอยู่บ้าง
……
“อาเยว่! เหมือนว่าจะเป็นด้านล่าง!”
เมื่อผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม เสียงตื่นเต้นของถวนจื่อก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ความคิดของฉู่หลิวเยว่พลันแล่นปราด แล้วมุ่งไปทางด้านล่างในทันที
พรึ่บ…
เงาร่างของนางเพียงครู่เดียวก็พลันหายไปอยู่ที่ด้านล่างของสระอัสนี!
ประดาผู้คนเห็นเพียงแสงอัสนีพันพัวไปทั่วทั้งผืน กระบวนท่าเพียงครู่หนึ่ง เงาร่างของฉู่หลิวเยว่ก็เลือนหายไปโดยสมบูรณ์ท่ามกลางสายของผู้คน
“คนเล่า! เหตุใดจู่ๆ ก็ไม่เห็นแล้ว”
“คงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นหรอกกระมัง”
“ส่วนลึกของสระอัสนี แปลกพิกลและอันตราย หรือว่าเป็นเพราะนางต้านทานไว้ไม่ไหวแล้ว”
“แต่ว่าไม่ได้ยินนางร้องขอความช่วยเหลือ…”
ผู้คนต่างพูดคุยกันเซ็งแซ่ในทันที
ซ่งชิงจดจ้องสระอัสนีที่อยู่ด้านหน้า เมื่อรออยู่ครู่หนึ่ง ก็เห็นว่าฉู่หลิวเยว่ยังไม่ขึ้นมา ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
“สถานการณ์มีความไม่ถูกต้องอยู่บ้าง ไปแจ้งเสินสื่อลำดับที่สี่เถิด”
เมื่อคนโดยรอบได้ยินเขาพูดเช่นนี้ต่างก็มองหน้ากันไปมา
อันที่จริงการไปเชิญเสินสื่อลำดับที่สี่นั้นไม่ใช่เรื่องยากอันใด สิ่งสำคัญคือ…
เรื่องนี้ ผู้ใดจะยินยอมไปทำกันล่ะ
เฉิงเพ่ยที่ในเวลานี้เพิ่งจะเดินออกมาจากสระอัสนีพอดี เมื่อได้ยินวาจานี้ ก็อดแค่นหัวเราะเสียงหนึ่งไม่ได้
“เหล่าซ่ง แต่ไรมาที่สระอัสนีแห่งนี้ก็ล้วนเข้าออกได้อย่างอิสระ เป็นตายรับผิดตนเอง ในเมื่อนางต้องการไปด้วยตนเอง เช่นนั้นก็ต้องจ่ายราคาในการเลือกของตนเอง ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ก็มีคนไม่น้อยที่ล้วนฝังร่างเอาไว้ในสระอัสนีแห่งนี้นะ กลับไม่เคยได้ยินว่าเสินสื่อลำดับที่สี่เป็นฝ่ายลงมือช่วยคน ต่อให้ท่านในเวลานี้ไปแจ้ง ก็เกรงว่าจะเสียแรงเปล่า”
ผู้คนต่างก็สบตากัน แล้วจึงล้วนนิ่งเงียบลง
วาจานี้ของเฉิงเพ่ยแม้จะกระดากหูอยู่บ้าง แต่ที่พูดกลับเป็นเรื่องจริง
ไม่ว่าจะพูดจากมุมใด เสินสื่อลำดับที่สี่ กระทั่งรวมไปถึงพวกเขาที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้ก็ล้วนไม่มีหน้าที่ไปช่วยเหลือ
ภายในใจของซ่งชิงยุ่งเหยิงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทำได้เพียงล้มเลิกไป
เขาก็ไม่ได้เกี่ยวพันอันใดกับฉู่หลิวเยว่มากนัก เพียงรู้สึกว่านางยังเยาว์ สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ในวันนี้ พรสวรรค์เลิศล้ำจริงๆ ไม่ง่ายดายอย่างมาก
ซ่งชิงประทับใจในตัวนางหลายส่วน
แต่ที่ตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้ การที่ทุกคนสามารถดูแลตนเองให้ดีได้นั้นก็ไม่ง่ายอย่างมากแล้ว นับประสาอันใดกับคนอื่นเล่า
หวังเพียงว่านางจะสามารถหลุดพ้นออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว…
เฉิงเพ่ยหัวเราะเสียงหนึ่ง ในดวงตาวาบประกายความเย็นชาสายหนึ่งพาดผ่าน
ถ้าวันนี้นางสามารถตายอยู่ที่นี่ได้ ก็ประหยัดกลยุทธ์ในมือเขาไปได้ไม่น้อย
…
ฉู่หลิวเยว่จมลงมาตลอดเส้นทาง
เพราะรอบด้านล้วนเป็นทัณฑ์สวรรค์สีเงินลิ่วละล่อง ด้านล่างนี้จึงไม่ได้มืดมิด กลับสว่างไสวเรืองรอง
เพียงมองไปก็ไม่เห็นปลายทาง
นางเดินไปต่อข้างหน้าตามทิศทางที่ถวนจื่อชี้นำ
ไม่รู้ว่านานเท่าไร แสงเรืองสีทองสายหนึ่งก็วาบปรากฏขึ้นที่ตรงหน้านางไม่ไกล!