ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2230 คำตอบ
ตอนที่ 2230 คำตอบ
………………..
“แม่นางซั่งกวน?”
เสียงที่ดังขึ้นในพลัน ขัดการเผชิญหน้าระหว่างคนทั้งสอง
ฉู่หลิวเยว่หันไปมอง เมื่อเห็นผู้ที่มาใหม่ ในใจก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน
“ใต้เท้าหมิง ท่านมาได้อย่างใด?”
หมิงซูหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู มองคนในลานบ้านทั้งสองคน
เมื่อได้ยินฉู่หลิวเยว่ถาม เขาก็ยิ้มตอบทันที
“เมื่อครู่ข้าไปหาท่านที่เรือนแล้ว แต่ท่านไม่อยู่ ได้ยินว่าท่านอยู่ที่นี่ ข้าก็เลยตามมา”
เซียวหรานจ้องมองหมิงซูทั้งยังจ้องมองฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะแสดงสีหน้าล้ำลึกขึ้นหลายส่วน
หมิงซูเป็นคนของร้านเจินเป่าเก๋อ โดยทั่วไปย่อมปฏิบัติต่อผู้อื่นสุภาพนอบน้อมมารยาทงาม
แต่ท่าทีที่เขามีต่อฉู่หลิวเยว่นั้น ดูแตกต่างออกไปอยู่บ้าง
ในความสุภาพยังมีความระมัดระวังและความจริงใจหลายส่วน
เหตุใดฉู่หลิวเยว่จึงได้รับการปฏิบัติที่ละเอียดอ่อนและระมัดระวังจากเขากัน
“ท่านมาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือ?” ฉู่หลิวเยว่ประหลาดใจอยู่บ้าง
“อ้อ คือเช่นนี้ ได้ยินว่าท่านไปสระอัสนีบาตมา ทั้งยังไปถึงก้นบึ้งของทะเลอัสนีบาตอีก ผ่านมาช่วงหนึ่งแล้ว ร้านเจินเป่าเก๋ออยากมอบของให้ท่านเพื่อแสดงความยินดี”
ขณะพูดหมิงซูก็หยิบกล่องหยกใบใหญ่เล็กหลายกล่องออกมา
“ของเหล่านี้มอบให้ท่านทั้งหมด ท่านลองดูว่าชอบหรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
แม้นเรื่องนี้จะรู้ถึงหูคนของร้านเจินเป่าเก๋อ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอันใด
“นี่…ท่านเกรงใจมากไปแล้ว อันที่จริงข้าไปยังสระอัสนีบาต เดิมทีก็เป็นเรื่องบังเอิญ สิ่งเหล่านี้ท่านนำกลับไปเถิด”
นัยน์ตาของหมิงซูวูบไหว
กว่าเขาจะหาเหตุผลเพื่อมอบของขวัญเหล่านี้ได้ล้วนไม่ง่าย!
ไหนเลยจะมีเหตุผลให้ขนกลับไปอีก
เขากระแอมไปทีหนึ่ง “หรือว่าแม่นางซั่งกวนมิถูกใจของเหล่านี้ เช่นนั้นท่านไปร้านเจินเป่าเก๋อกับข้า แล้วเลือกด้วยตนเองก็ย่อมได้”
ฉู่หลิวเยว่ไร้คำพูดอีกครา “…”
เมื่อมองแล้วว่าหมิงซูคล้ายจะไม่ได้พูดเล่น ใบหน้าจริงจังกระตือรือร้น ฉู่หลิวเยว่จึงทำได้เพียงขยับมือหยิบสิ่งของขึ้นมา
“เช่นนั้น ต้องขอบคุณท่านแล้ว”
หมิงซูค่อยเบาใจลงหน่อย
เมื่อทำหน้าที่สำเร็จ จิตใจของเขาก็เบิกบานขึ้นไม่น้อย แม้กระทั่งรอยยิ้มบนใบหน้าก็ผ่อนคลายสดใสขึ้นมาก
“ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ขอเพียงท่านชอบก็พอแล้ว ไม่ต้องขอบคุณอันใด อีกอย่างหลายปีมานี้ ในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผู้ใดทำเรื่องนี้ได้ พอท่านมาก็สามารถทำได้เลย ของตอบแทนนี้ท่านสมควรได้รับ!”
คำพูดนี้เป็นคำพูดที่มาจากใจหมิงซูอย่างแท้จริง
เมื่อเขาได้ยินว่าฉู่หลิวเยว่ไปสระอัสนีบาตเป็นครั้งแรก ทั้งยังสามารถไปถึงก้นบึ้งได้ก็ตกใจอย่างมาก
ทราบมาก่อนว่าท่านผู้นี้เก่งกาจ ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้อยู่บ้าง
นางเปิดกล่องออกดู พลันตกใจเล็กน้อย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอด ราคาแพงหาใดเปรียบ
คิดไม่ถึงว่าหมิงซูจะมอบให้นางทั้งๆ อย่างนี้…
“ใต้เท้าหมิง หอบของพะรุงพะรังเช่นนี้มาจากร้านเจินเป่าเก๋อ ท่านคงลำบากไม่น้อยเลย”
เซียวหรานเดินเข้ามา มองฉู่หลิวเยว่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มหนึ่งครา
ในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ล้วนมีไม่กี่คน
หมิงซูหนังตากระตุกอย่างแรง
นังหนูหรือ?
คนผู้นี้วาจาช่างกล้าหาญเกินธรรมดา!
เขาหัวเราะฮ่าหนึ่งที
“ยามนี้แม่นางซั่งกวนเป็นคนของร้านเจินเป่าเก๋อ ย่อมต่างจากผู้อื่นเป็นแน่อยู่แล้ว!”
เซียวหรานงุนงง
“นี่มันหมายความว่าอย่างใด?”
นังหนูผู้นี้มาเยือนยังตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่เท่าไร ไฉนจึงได้ไปเกี่ยวข้องกับร้านเจินเป่าเก๋อกัน
“เซียวหราน เจ้าไม่รู้สินะว่าช่วงนี้ร้านเจินเป่าเก๋อของเรา ได้เชิญแม่นางซั่งกวนมาช่วยคัดลอกค่ายกล!”
หมิงซูยิ้มร่าตอบคำ
“ว่ากระไรนะ!”
เซียวหรานอึ้งงันไปแล้ว!
เขาถลึงตาโต มองฉู่หลิวเยว่อย่างยากจะเชื่อ
“เจ้า เจ้า…”
ทางร้านเจินเป่าเก๋อต้องการคนที่มีคุณสมบัติที่เคร่งครัดปานใด เขามิใช่ว่าไม่รู้
เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็เป็นที่สนใจของฝั่งนี้ น่าเสียดายที่ขาดไปอีกนิดเดียว จึงไม่ประสบผลสำเร็จ
ทว่ายามนี้ กลับได้ยินหมิงซูกล่าวเช่นนี้ จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างใด
เรื่องนี้คนที่รู้ก็มีไม่มาก
แง่หนึ่งเรื่องนี้เพิ่งถูกยืนยัน และอีกแง่หนึ่งคือ ทางร้านเจินเป่าเก๋อและฉู่หลิวเยว่ไม่ได้แพร่งพรายเรื่องนี้ต่อภายนอก
นอกจากวันนั้นที่พบเข้ากับมู่หย่าเฟิงพอดีทำให้นางรู้เรื่องเข้า คนอื่นในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ล้วนไม่รับรู้เรื่องนี้
นางยิ้มเบาๆ และตอบ
“นี่ก็คือคำตอบที่ท่านถามข้าเมื่อครู่”
เซียวหรานอ้าปากค้าง
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
เขาคิดว่าด้วยระดับปรมาจารย์ของฉู่หลิวเยว่ในตอนนี้ นางคงไม่มีทางมองเห็นค่ายกลอสูรฟ้าเสียอีก
แต่นางกลับมีท่าทีคุ้นเคยอย่างมาก จนดูมีพิรุธ
ทว่าตอนนี้ ข้อสงสัยนี้ได้รับคำตอบแล้ว
“… นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะทำเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร้สุ้มไร้เสียง”
หลังจากตกใจในตอนแรกเซียวหรานก็เลือกที่จะยอมรับ
เขากระจ่างแจ้งแก่ใจดีว่าพื้นฐานการฝึกปราณนั้นโดดเดี่ยวเพียงไร
ถึงแม้ตอนนี้นางจะเป็นแค่ปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชา แต่การที่ร้านเจินเป่าเก๋อยอมเลือกนางเช่นนี้ แสดงว่าพวกเขายกย่องและชื่นชมนางมาก ต่อให้นางไม่มีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
เซียวหรานมองฉู่หลิวเยว่ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สีหน้าซับซ้อนอยู่สักหน่อย
“เช่นนี้เจ้าก็เคยภาพทมิฬสิ้นอัคคีแล้วสินะ?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มจางๆ แล้วพยักหน้ารับ
“ข้าเพิ่งจะดูไปได้นิดหน่อยเองเจ้าค่ะ”
“แล้วค่ายกลอสูรฟ้าเล่า?” เซียวหรานเอ่ยถาม
ฉู่หลิวเยว่ชะงัก
“เจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ข้าดูมาคร่าวๆ หนึ่งรอบ แต่ยังมิได้ศึกษาให้ละเอียด”
นัยน์ตาของเซียวหรานปรากฏแววความอิจฉาอยู่บางส่วน
“ในช่วงหลายปีมานี้ เจ้าเป็นคนเดียวที่ร้านเจินเป่าเก๋อเลือก”
พวกที่ก่อนหน้านี้ดูถูกเยาะเย้ยนางสารพัด ต่อไปจะต้องตรึกตรองให้ดีแล้ว
หมิงซูทำหน้าที่สำเร็จ ก็รู้สึกราวกับยกหินออกจากอก
“หวังว่าหากแม่นางซั่งกวนมีเวลาว่าง จะแวะเวียนไปนั่งเล่นที่ร้านเจินเป่าเก๋อสักหน่อย”
ฉู่หลิวเยว่ก้มหัวยิ้ม
“ท่านเกรงใจไปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่สมควรทำ”
และในที่สุดหมิงซูก็ขอตัวลา
พอเขาไปแล้ว เซียวหรานก็หันมาจ้องฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง
“จิ๊ ไม่รู้ว่าพวกคนก่อนหน้านั้นพอได้รู้เรื่องนี้จะว่าอย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย
“พวกเขาจะมองอย่างใดก็เรื่องของพวกเขา ไม่เกี่ยวกับข้า”
เซียวหรานพ่นเสียง “จิ๊” ออกมาคำหนึ่ง
“นังหนูเจ้าอายุเพียงแค่นี้ แต่มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง หาได้ยากยิ่งนัก!”
ฉู่หลิวเยว่เก็บกล่องหยกพวกนั้นก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“แต่ก่อนท่านเคยบอกว่า หากมีเรื่องที่ไม่เข้าใจ ก็สามารถให้ท่านชี้แนะได้ใช่หรือไม่?”
เซียวหรานดูระมัดระวังขึ้นทันที พลันเอ่ยต่อ “เจ้าอยากแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องค่ายกลกับข้ารึ แต่สถานะของตัวเจ้าตอนนี้คงจะไม่สามารถทำได้ตามใจชอบกระมัง”
ค่ายกลทั่วไปนั้นยังไม่เท่าไร ค่ายกลระดับสูงเหล่านั้นมีค่ามาก หากนางแพร่งพรายออกไป บางสิ่งย่อมถูกเปิดเผยอย่างเลี่ยงมิได้
นับตั้งแต่ที่นางได้รับเลือกจากร้านเจินเป่าเก๋อ นางก็ถูกจำกัดห้ามในด้านนี้
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มส่ายหน้า
“มิใช่เรื่องนี้ กฎเกณฑ์ของร้านเจินเป่าเก๋อนั้นข้ากระจ่างแจ้งแก่ใจดี สิ่งที่ข้าอยากถามเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ท่านอยู่ในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์มาหลายปีแล้ว ท่านเคยพบเห็นหงส์ทองคำบ้างหรือไม่?”