ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2232 มีอยู่จริง ตอนที่ 2233 สมดุล
ตอนที่ 2232 มีอยู่จริง
“นี่… ข้อมูลเรื่องเขตต้องห้ามของสระอัสนีบาตถูกปกปิดมิดชิดมาแต่ไหนแต่ไร อีกทั้งตัวนางเพิ่งมาถึงตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ไม่น่าจะรู้เรื่องนี้กระมัง?”
มู่ตงโหย่วนึกย้อนไปถึงสีหน้าจริงใจใสบริสุทธิ์ของแม่นางผู้นั้น รู้สึกว่าไม่มีอันใดที่น่าสงสัยแม้แต่น้อย
“อีกอย่าง ตัวนางเองก็หามีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ไม่ ใช้เวลาไม่นานก็คงออกมาได้แล้ว”
“…ตอนแรกข้าก็คิดแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่เสมอไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เจินเป่าเก๋อได้ออกคำเชิญให้นางไปคัดลอกค่ายกลใหม่” บุรุษผู้นั้นถามเสียงเรียบ
มู่ตงโหย่วตื่นตกใจ
“ร้านเจินเป่าเก๋อ? นี่พวกเขาเลือกนางอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องราวในสองวันนี้ ลำพังแค่ข้อนี้ข้อเดียวก็เพียงพอที่จะให้นางรั้งอยู่ต่อไปได้อีกสักระยะ”
บุรุษผู้นั้นชะงักไปชั่วครู่ กล่าวว่า
“เจ้าได้เจอนางแล้ว คิดเห็นเป็นเช่นไรบ้าง?”
มู่ตงโหย่วครุ่นคิด ก่อนตอบอย่างจริงใจ
“หากมีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ไว้ในครอบครองได้ อนาคตย่อมไปได้ไกลไร้ขีดจำกัด”
“ดูเหมือนเจ้าจะค่อนข้างชื่นชอบนางทีเดียว”
“นางเปี่ยมด้วยพรสวรรค์โดยแท้” มู่ตงโหย่วส่ายศีรษะอย่างเสียดาย “สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคือร่างศักดิ์สิทธิ์ของนางแปรสภาพมาจากทัณฑ์ทลายเทพ พอดูคร่าวๆ แล้ว เกรงว่าผู้ฝึกตนจากทั่วทั้งตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ที่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ยอดเยี่ยมมากพอจะเทียบเทียมกับนางได้มีไม่มาก และเพราะเช่นนี้เอง นางถึงดิ่งลงไปถึงก้นบึ้งของสระอัสนีบาตได้ง่ายดายนัก”
ปกติการที่พรสวรรค์แลวาสนาเช่นนี้ล้วนมารวมกันอยู่ที่ตัวคนผู้เดียวก็ย่อมพบเจอได้ยากมากแล้ว
“พูดเสียจนทำให้ข้าอยากเจอนางขึ้นมาเลย” บุรุษผู้นั้นเอ่ยแกมหัวเราะ
ทว่าหลังจากครุ่นคิดไปชั่วครู่ เขาก็ส่ายศีรษะ
…
ฟากของซื่อจิงได้เดินทางมาถึงบ่ออัสนีบาตแล้ว
เขายืนอยู่บนริมฝั่ง พลางทอดสายตามองไปด้านหน้าไกลๆ
ทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนลอยร่อนเร่อยู่ในนั้น ประกายแสงที่ทอออกมานั้นสว่างเจิดจ้าแลเรืองรองระยิบระยับ
ซื่อจิงเบิกตากว้างน้อยๆ ส่งเสียงจิ๊ออกมาคราหนึ่ง
พี่ใหญ่ไม่ได้หลอกเขาอย่างที่คาดไว้ ที่นี่ช่างเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วสาวเท้าก้าวยาวไปยังเบื้องหน้า
ตอนนี้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่บริเวณรอบข้างสังเกตเห็นเขาแล้ว
แน่นอนว่าสาเหตุหลักเป็นเพราะคนพวกนั้นไม่คุ้นหน้าของเขา ไหนจะตราศรัทธากลมที่ปักร้อยอยู่บริเวณเอวของเขาด้วย
“ใครอีกละนี่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเลย”
“เหมือนจะเป็นคนมาใหม่น่ะ ก่อนหน้านี้ท่านเทพลำดับเจ็ดเพิ่งปล่อยให้เข้ามา”
“แล้วเหตุใดเขาก็พกตราศรัทธากลมมาด้วยเล่า”
“ได้ยินว่าเป็นคนของซั่งกวนเยว่น่ะสิ…”
“เหตุใดถึงเป็นคนของนางอีกแล้วเล่า คนที่นางพามาทั้งหมดไม่มีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์สักคนเลยหรือไร?”
“เฮ้ย อย่าเพิ่งเอ็ดไป คนผู้นี้เข้ามาด้วยทักษะของตัวเอง นับว่าพอมีความสามารถอยู่บ้าง ดูซี เขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันหนา”
“ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างใด? ก็คงลงเอยอย่างที่ผ่านๆ มา…”
ฟุ่บ!
ซื่อจิงมิได้ใส่ใจคนเหล่านั้นแม้แต่น้อย เขาหย่งตัวโจนขึ้นมา จากนั้นก็กระโดดลงไปในบ่ออัสนีบาตตรงๆ!
ทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่บริเวณโดยรอบโถมถลามาทางเขาอย่างรวดเร็ว
ซื่อจิงหัวเราะเริงร่าพลางมุ่งดำดิ่งลึกลงกว่าเก่าโดยไม่ลังเล
ทันทีที่เอ่ยจบ เขาพลันรู้สึกถึงความผิดปกติ
เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แล้วไปรู้ได้อย่างใดเล่าว่าทัณฑ์สวรรค์ที่นี่น้อยลงกว่าเมื่อก่อน?
ซื่อจิงขมวดคิ้ว
หึ่งหึ่ง…
ค้อนที่ห้อยอยู่บริเวณเอวของเขาสั่นไหวน้อยๆ
เขาหลุบตามองก่อนยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมา
จากนั้น เขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหินสักก้อนพลางจับจ้องไปที่มันพักหนึ่งด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
“ไม่น่า… ใช่กระมัง…”
ลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดเขาก็กำค้อนในมือไว้แน่น จากนั้นก็ทุบลงบนหินก้อนนั้นอย่างแรง!
ปึง!
ก้อนหินพลันแตกร้าว!
ก่อนที่พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์สีเงินจำนวนหนึ่งพุ่งพรวดออกมาจากภายในหินก้อนนั้น!
ซื่อจิงเบิกตาโพลง
“บ้าเอ๊ย!”
…
ตอนที่ 2233 สมดุล
ซื่อจิงจัดการคว้าหมับเอาทัณฑ์สวรรค์สักเส้นหนึ่งยัดกลับเข้าไปใหม่
ทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ่งพุ่งทะยานหนีเร็วกว่าเดิม!
เมื่อเห็นว่าหินก้อนนั้นแตกออกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เขาก็รีบย้ายร่างของตัวเองไปอยู่ข้างๆ หินก้อนนั้น ก่อนจะจัดการอุดปากโพรงตรงรอยร้าวทั้งแบบนั้น
ในที่สุดทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่ด้านในก็ไม่วิ่งถลาออกมาด้านนอกอีก ส่วนที่ทะลักออกมาเมื่อก่อนหน้าก็ถูกเขาจับกลับมาได้แล้วเสียส่วนใหญ่ มีเพียงทัณฑ์สวรรค์บางเส้นที่แวบหายไร้ร่องรอยเข้าไปซ่อนในมวลทะเลอัสนีบาตโดยรอบอย่างรวดเร็ว
“ฟู่…ทำข้าตกใจเกือบตายแน่ะ!”
ซื่อจิงพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด แผ่นหลังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นที่หลั่งไหล
“กลอุบายแบบนี้ช่างวิปริตเสียจริง!”
เขาเพิ่งใช้ค้อนทุบลงไปแค่ครั้งเดียวเองไม่ใช่หรือไร เหตุใดถึงได้มีทัณฑ์สวรรค์พุ่งพรวดพราดออกมาเยอะขนาดนี้เล่า
ตอนเขาบุกทะลวงก่อนหน้านี้ จำนวนทัณฑ์สวรรค์ที่อัญเชิญมาได้ยังไม่เยอะเท่านี้เลย!
หลังเขาจ้องมองอยู่พักหนึ่งจนแน่ใจแล้วว่าทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ด้านในจะไม่ออกมาอีก ใจที่ห้อยแกว่งอยู่กลางอากาศของเขาก็สงบลง
สายตาเขาสำรวจกวาดซ้ายมองขวา ยังดีที่ไม่มีผู้ใดเห็นเข้า
มิรู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกมาโดยตลอดว่าเรื่องนี้มิอาจเผยให้ใครรู้ได้
เขาหยิบค้อนขึ้นมาแล้วสาวเท้าก้าวเดินไปยังทิศทางด้านข้าง
บ่ออัสนีบาตแห่งนี้มิได้ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ทั้งริมฝั่งและส่วนที่ลึกลงไปล้วนแต่มีก้อนหินและสันเขาเรียงร้อยต่อกันเป็นแถบ
หินก้อนที่เขาเพิ่งทุบจนแหลกไปเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนเล็กน้อยของบริเวณทั้งหมดเท่านั้น
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็ยังทำให้เขาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่ออยู่ดี
เขาเพิ่งมาถึงตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ หากทำอันใดไม่เรียบร้อย ก่อปัญหาให้นายท่านเข้าจะทำอย่างใด?
พอคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็เก็บค้อนลงไปทั้งแบบนั้น
ครั้นเดินต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เขาก็หยุดยืนนิ่งอีกครั้ง ก่อนปรายมองโขดหินขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างสองจิตสองใจด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
ทันใดนั้น เขาก็กัดฟันยื่นมือออกไปลูบด้านบนโขดหินนั้น
หึ่งหึ่ง!
“อยู่ให้มันดีๆ หน่อย!”
เขาคำรามเสียงต่ำ ค้อนอันนั้นจึงสงบลงทันตาเห็น
จากนั้น เขาก็พบว่าเสียงการเคลื่อนไหวที่ดังออกมาจากหินก้อนใหญ่ใต้ฝ่ามือก็ดูเหมือนจะเงียบหายไปเช่นกัน
ซื่อจิงนัยน์ตาเป็นประกาย
“เจ้าของสิ่งนี้… ดูน่าสนุกดีนี่!”
…
ภายในห้องพัก ฉู่หลิวเยว่กำลังหลอมยาอยู่
เปลวเพลิงสีใสแผดเผาลุกโชนอยู่ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์
นางจัดการหย่อนสมุนไพรที่จัดเตรียมไว้อย่างดีลงในหม้อตามลำดับ
สมุนไพรปริมาณมากค่อยๆ ถูกหลอมเข้าด้วยกัน กลิ่นยาอันเข้มข้นแฝงด้วยความขมปร่าจางๆ เริ่มแผ่กำจายภายในห้อง
สองตาของนางจ้องหม้อยาเขม็งด้วยท่าทีจดจ่ออย่างมาก
ยาที่ต้องหลอมขึ้นมาคราวนี้เป็นยาอายุวัฒนะระดับปรมาจารย์โอสถ
ตั้งแต่การบุกทะลวงในทะเลทรายจันทราสีชาดครั้งก่อน นางก็พบว่าก่อนหน้านี้ตนเองท่องจำใบสั่งยาระดับปรมาจารย์โอสถไปมากมายโดยไม่ได้รู้ความจริงแม้แต่น้อย
โชคยังดีที่ตอนนี้นางถูกพี่เป่าโกงจนชินแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกรู้สาอันใดมากมาย กลับกันยังรู้สึกดีอยู่หน่อยๆ ด้วย
…อืม จะมีอันใดเทียบได้กับตอนเจ้าอยากบุกทะลวง แต่กลับค้นพบว่าตัวเองผ่านกระบวนการฝึกตนที่ข้องเกี่ยวมาตั้งนานแล้ว จึงผ่านมาได้อย่างง่ายดายกันเล่า?
เวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างเชื่องช้า บัดนี้ความเร็วในการหลอมยาของฉู่หลิวเยว่ไวกว่าแต่ก่อนมาก
ไม่กี่ชั่วยามต่อมา สมุนไพรทั้งหมดก็หลอมรวมเสร็จสิ้น เปลวเพลิงสีทองอร่ามสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาจากมือของนาง ก่อนปราดลามสู่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เพื่อดำเนินการหลอมยาอายุวัฒนะขั้นตอนสุดท้าย
“แข็งตัว!”
ฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่ขยับไหวเบาๆ ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นก็ทะยานมาหานางเร็วรี่
นางหยิบขวดหยกที่เตรียมพร้อมไว้อยู่ก่อนแล้วออกมาก่อนนำยาอายุวัฒนะใส่เข้าไป
จากนั้นนางก็จัดการเก็บของ แล้วผลักประตูออกจากห้องไป
…
เชียงหว่านโจวกำลังบำเพ็ญตนอยู่ภายในห้องพักของตัวเอง
เขานั่งขัดสมาธิสองขา ดวงตาปิดพริ้ม
พลังปราณศักดิ์สิทธิ์อันแข็งกร้าวไหลเวียนอย่างต่อเนื่องอยู่ภายในร่างของเขา ทั้งยังมีไอเย็นยะเยือกเสียดแทงถึงกระดูกสายนั้นแล่นตามมาด้วย
ทั่วทั้งร่างเขาต่างก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งบางเฉียบ
ทั้งบนเส้นผม เรียวคิ้ว หรือแม้กระทั่งขนตาที่ยาวหนาเป็นแพล้วนแต่จับตัวเป็นน้ำค้างแข็งสีขาวโพลนระยิบระยับ ริมฝีปากดั่งกุหลาบปรากฏร่องรอยซีดเผือดน้อยๆ
ไอหมอกสีขาวสายหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากร่างของเขา
มันคือไอเย็นจากภายในร่างของเขาที่ไหลทะลักออกมาด้านนอกไม่หยุดนั่นเอง
ส่วนสีบนตัวอักษรบนตราศรัทธากลมที่ห้อยอยู่บริเวณเอวของเขาเองก็ค่อยๆ ทวีความเข้มขึ้น!
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่เข้ามาก็เห็นภาพฉากเช่นนี้เข้าพอดี
หัวคิ้วของนางขมวดเข้าหากันน้อยๆ
ราวกับได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เชียงหว่านโจวค่อยๆ ปรือตาขึ้น
ยามเห็นว่าคนมาใหม่คือฉู่หลิวเยว่ เขาก็ตาสว่างขึ้นมาทันที
เขาหยัดกายขึ้นมารุดหน้าไปต้อนรับพลางรวบตราศรัทธากลมเข้าด้วยกัน
“นายท่าน”
ฉู่หลิวเยว่ยื่นขวดหยกในมือส่งไปให้
เชียงหว่านโจวกำขวดหยกในมือแน่นพลางเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอันใด ทำเพียงแค่ผงกศีรษะ จากนั้นก็เทยาสลายอาดูรออกมาแล้วกลืนมันลงไป
ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นละลายทันทีที่เข้าปาก
เชียงหว่านโจวรู้สึกเพียงว่ามีความร้อนรุ่มแผดเผาสายหนึ่งไหลผ่านลำคอไป!
ความรู้สึกร้อนลวกแล่นปราดไปทั่วแขนขาของเขาอย่างรวดเร็ว!
ดวงหน้าที่แต่เดิมใสกระจ่างของเขาพลันแดงก่ำขึ้นมาทันใด ราวกับเลือดทั้งหมดสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าก็มิปาน!
เพล้ง!
ขวดหยกในมือของเขาพลันตกลงบนพื้น ก่อนแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ส่วนร่างกายของเขาเองก็ราวกับถูกสูบพลังไปหมดสิ้นจนล้มกองกับพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
“เสี่ยวโจว!”
ฉู่หลิวเยว่ตื่นตกใจ รีบปรี่เข้าไปช่วยพยุงเขาทันที
ทันทีที่สัมผัสโดนมือเขา นางก็สั่นสะท้านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว…เย็นเหลือเกิน!
ยามก้มศีรษะลงมอง กลับพบว่าผิวหนังหลังมือของเขาก็ขึ้นสีแดงห้อเลือดแพร่กระจายอย่างน่าพิกล ทั้งยังเคลือบด้วยแผ่นน้ำแข็งเย็นเยียบชั้นหนึ่ง!
นี่แตกต่างจากเกล็ดน้ำแข็งปกติโดยสิ้นเชิง มันเย็นเยียบกว่าหลายเท่าตัว!
นางพลิกข้อมือเชียงหว่านโจวทันที สองนิ้วยกชิดติดกัน แบ่งเอาพลังปราณดั้งเดิมส่วนหนึ่งภายในร่างตนถ่ายทอดเข้าไปยังชีพจรของเขา
แต่พอมองเช่นนี้แล้ว กลับทำให้นางต้องพรูลมหายใจหนาวเหน็บออกมาทันที
จู่ๆ ผนึกในตัวเชียงหว่านโจวก็ถูกทำลาย ไอเย็นที่กักเก็บยามก่อนหน้าพวกนั้นไร้การยับยั้ง จึงทะลักออกมาทั้งหมดอย่างบ้าคลั่ง!
ประหนึ่งน้ำป่าไหลหลากที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงภายในระยะเวลาสั้นๆ!
ร่างกายของเขาย่อมมิอาจรับการโจมตีเช่นนี้ได้ไหว!
“เกิดอันใดขึ้นกับผนึกของเจ้ากัน!?”
นางเหลือบสายตามองเชียงหว่านโจวพลางเอ่ยถามอย่างรีบร้อน
เชียงหว่านโจวกัดฟันกรอดพลางส่ายศีรษะ ทว่าจะพูดสักคำยังพูดไม่ออก
ในความเป็นจริง ผนึกนี้คลายตัวออกตั้งนานแล้ว
ด้วยพลังกายของเขาที่สูงขึ้น พลังบนผนึกก็ค่อยๆ อ่อนกำลังลง
หลังจากมาถึงตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ มีอยู่หลายครั้งที่เขารู้สึกว่าผนึกนี้เหมือนจะถูกทำลายไปแล้วอย่างใดอย่างนั้น
แต่เพราะได้เฉินอียื่นมือเข้าช่วย จึงยังพอประคับประคองยับยั้งมันไว้ได้
แต่คาดไม่ถึงว่ายาสลายอาดูรที่ฉู่หลิวเยว่มอบให้จะไปทำลายการป้องกันสมดุลอันอ่อนแรงนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ!
ดังนั้นเมื่อผนึกถูกทำลาย ไอเย็นที่ยับยั้งไว้เหล่านั้นก็เริ่มทยอยพวยพุ่งออกมา!
ไม่ช้าฉู่หลิวเยว่ก็รับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาถามเรื่องพวกนี้
อีกทั้งตอนนี้เอง ลมปราณบนร่างของเชียงหว่านโจวก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ตราศรัทธากลมบริเวณเอวของเขาเผยแววเตรียมจะระเบิดออกจางๆ!