ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2243 ตามมา
………………..
ทันทีที่กลับมาถึงจวนที่พัก ฉู่หลิวเยว่ก็พบว่ามีกระแสพลังก่อตัวคล้ายน้ำวนอยู่กลางอากาศเหนือสวนหย่อม
พลังแห่งสวรรค์และโลกในปริมาณมากกำลังถาโถมลงไปยังด้านล่าง
นางมั่นใจได้ในทันที
เสี่ยวโจวใกล้จะทำการบุกทะลวงแล้ว
การเคลื่อนไหวครานี้หาได้ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นไม่
ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์เกลื่อนกลาดดุจเมฆ ทว่าระดับเทพขั้นสูงเช่นเสี่ยวโจวต่างหากที่มีจำนวนน้อย
ดังนั้นต่อให้รู้สึกถึงการกระเพื่อมไหวจากฟากนี้ ก็ไม่ได้มีใครมาสนใจมากนัก
ฉู่หลิวเยว่พาน้องแปดเข้าไปในสวนหย่อม เป็นเวลาเดียวกับที่ซั่งกวนจิ้งเดินออกมาจากห้อง
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ เขาก็ซุกตัวอยู่แต่ในห้องท่าเดียว แทบไม่ได้ออกมาข้างนอกเลย
เมื่อเห็นขอบตาดำคล้ำของซั่งกวนจิ้ง ฉู่หลิวเยว่ก็ตกใจอย่างมาก
“องค์ไท่จู่ นี่ท่าน…มิได้พักผ่อนเต็มอิ่มหรือ?”
ซั่งกวนจิ้งถอนใจ
“เฮ้อ ไม่ได้พักผ่อนเต็มอิ่มที่ไหนกัน ไม่ได้พักเลยต่างหาก”
เขานวดขมับ วางกริชเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะหินก่อนจะนั่งลง
ฉู่หลิวเยว่มองดูของสิ่งนี้แวบหนึ่ง ของทั้งชิ้นส่องแสงทอประกายเจิดจ้า ปลายมีดแหลมคมอย่างยิ่ง เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดเล่มหนึ่งอย่างแน่นอน
“ระยะนี้ท่านกำลังศึกษาของชิ้นนี้หรือ?”
“ทั้งใช่และไม่ใช่”
ซั่งกวนจิ้งส่ายศีรษะ
“ก่อนหน้านี้ข้าสัมผัสได้ถึงขีดจำกัดในการตีหลอมสมบัติศักดิ์สิทธิ์รางๆ แต่กลับไม่เคยทำได้สำเร็จ ทุกครั้งล้วนพลาดไปนิดเดียวเสมอ”
หากตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และของสิ่งนั้นในทะเลทรายจันทราสีชาดเหมือนกันราวกับแกะจริง เช่นนั้น…
บางทีความลับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์อาจจะอยู่ในจัตุรัสหยกดำก็เป็นได้?
หากเข้าไปในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ได้ เช่นนั้นข้อสงสัยทุกอย่างก็จะได้รับการไขกระจ่าง
“ช่างเถอะ เรื่องแบบนี้รีบไปก็เท่านั้น”
ขั้นพลังปราณของซั่งกวนจิ้งหยุดอยู่ที่ช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์มาหลายปีแล้ว แต่รอบนี้เขาไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะพูดอย่างใด ตอนนี้ก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง ดีกว่าเมื่อก่อนที่สิ้นหวังไปแล้วโดยสิ้นเชิง อย่างใดเสียก็ดีกว่าเป็นกอง
“เอ๋? นี่มัน…ใครกำลังจะบุกทะลวงกัน?”
เมื่อเห็นกลุ่มกระแสพลังที่กำลังหมุนวน เขาก็เอ่ยถามด้วยประหลาดใจอยู่บ้าง
ฉู่หลิวเยว่ผงกศีรษะรับ
“เป็นเสี่ยวโจว”
ใบหน้าของซั่งกวนจิ้งมีแววแปลกใจพาดผ่าน
“เร็วขนาดนี้เชียว? ข้าจำได้ว่าเขาเพิ่งบุกทะลวงสู่ระดับเทพขั้นสูงไปไม่นานมานี้เอง?”
ในความทรงจำของเขา เชียงหว่านโจวเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผ่ายผอม หน้าตาเกลี้ยงเกลา คิดไม่ถึงว่าประเดี๋ยวเดียวก็จะบุกทะลวงสู่ระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว?
“เขาเหมือนจะอายุ…ห่างกับเจ้าไม่มากกระมัง? พรสวรรค์นี้…”
ซั่งกวนจิ้งส่งเสียง “ชิ” ออกมาคราหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาอย่างจนใจไม่น้อย ก่อนจะเล่าเรื่องที่ไอเย็นภายในร่างของเสี่ยวโจวระเบิดออกมาคร่าวๆ รอบหนึ่ง
“…ตอนนี้เขาไม่บุกทะลวงไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นละก็ ลำพังแค่พลังสายนั้นที่สะสมอยู่ในตัวเขาก็เพียงพอจะทำลายเขาแล้ว”
สีหน้าของซั่งกวนจิ้งเคร่งขรึมขึ้นมาหลายส่วน
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…”
“แต่ไม่รู้ว่าไอเย็นภายในร่างของเขาได้มาอย่างใดกันแน่?”
ซั่งกวนจิ้งพึมพำราวกับกำลังใช้ความคิด
“ผู้ที่สามารถผนึกพลังสายนี้เอาไว้ได้คงไม่ใช่คนธรรมดากระมัง…อีกอย่างหลายปีมานี้ เชียงหว่าน
โจวเองต้องฝืนทนเช่นนี้มาตลอดด้วย”
กระทั่งเขายังรู้สึกว่านี่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ
แท้จริงแล้วนี่ก็เป็นคำถามที่ฉู่หลิวเยว่เองก็สงสัยเช่นกัน
เชียงหว่านโจวพูดแค่ว่ามันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เขาจำความได้ ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ก็มิอาจทราบได้แล้ว
ไหนจะคนผู้นั้นที่เขาเฝ้าตามหาในคราแรกอีก…
ตูม!
คลื่นพลังอันแข็งแกร่งสายหนึ่งพลันแผ่ออกมาจากด้านในห้อง!
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ฉายแววมั่นใจโดยพลัน กำลังจะบุกทะลวงแล้ว!
จากนั้น ไอเย็นยะเยือกจนเสียดแทงลึกไปถึงกระดูกก็แพร่กระจายมาจากในห้อง
ฉู่หลิวเยว่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีเกล็ดน้ำแข็งสีขาวใสเป็นประกายจับตัวแข็งขึ้นมาลามไปบนบานประตูที่ปิดสนิทอย่างรวดเร็ว!
ไอเย็นสายนี้ลามไปทั่วสี่ทิศอย่างว่องไว ชั่วพริบตาทั้งบนชายคาและบนเสาระเบียงทางเดินล้วนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง!
ยิ่งไปกว่านั้น…ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด!
แววตาของซั่งกวนจิ้งพลันมีแววตื่นตะลึงพาดผ่าน เขารีบหยัดกายลุกอย่างรวดเร็ว
“นี่มันเรื่องอันใดกัน?”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วแน่น ในใจพลันบังเกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาหลายส่วน
ลมปราณสายนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยไม่เปลี่ยน เป็นไอเย็นจากร่างของเชียงหว่านโจวนั่นเอง
ท่าทางว่าตอนนี้พลังสายนี้ถูกปลดปล่อยออกมาโดยสมบูรณ์แล้ว!
มิรู้ว่าเขาจะสามารถต้านทานแรงกดดันมหาศาลอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ไว้ได้หรือไม่…
นางตะลึงงันจนนิ่งค้างอยู่กับที่ ทัณฑ์สวรรค์พวกนี้มัน…มาจากบ่ออัสนีบาตนี่!?
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นปราดเข้ามาในสมอง ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นก็มาหยุดอยู่เหนือศีรษะแล้ว!
จากนั้น ประตูที่ถูกแช่แข็งก็ถูกเปิดออกดังปัง!
เงาร่างร่างหนึ่งกระโจนออกมาอย่างว่องไว จากนั้นก็ พุ่งทะยานขึ้นไปด้านบนทันที
เป็นเชียงหว่านโจวนั่นเอง!
เห็นได้ชัดเลยว่าเขาคิดจะเข้าปะทะซึ่งหน้ากับทัณฑ์สวรรค์พวกนี้!
เปรี้ยง!
ทัณฑ์สวรรค์เส้นที่มาถึงก่อนเพื่อนส่งเสียงระเบิดกึกก้อง ก่อนเข้าห่อหุ้มร่างของเชียงหว่านโจวในชั่วพริบตา!
จากนั้นทัณฑ์สวรรค์เส้นอื่นก็พุ่งตามมันเข้าไป
ชั่วขณะนั้น มองเห็นได้แค่เพียงแสงสีเงินที่แลบแปลบปลายอยู่เหนือฟากฟ้า กระแสพลังปะทุออกอย่างบ้าคลั่ง
อีกทั้งบนผืนฟ้าที่ห่างไกลออกไป ยังมีทัณฑ์สวรรค์จำนวนหนึ่งที่กำลังพุ่งทะยานมาทางนี้อย่างไม่รู้จบ
ท้ายที่สุดภายฉากนี้ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนส่วนหนึ่งไว้ได้
“นั่นใครกำลังบุกทะลวงกันน่ะ”
“ดูแล้วมีการเคลื่อนไหวไม่เบาเลย เหมือนจะเป็นจวนของซั่งกวนเยว่ หรือว่าหนึ่งในผู้ติดตามของนางกำลังจะบุกทะลวง?”
“ได้ยินมาว่านางพาระดับเทพขั้นสูงมาสามคน คงจะเป็นหนึ่งในนั้นกระมัง?”
“เช่นนั้นก็กำลังบุกทะลวงสู่ระดับเทพศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ? แต่ดูจากสถานการณ์แล้วออกจะใหญ่โตไปหน่อยกระมัง!”
“เอาแค่เรื่องนี้ หากคนผู้นี้บุกทะลวงได้สำเร็จละก็ เกรงว่าพลังจะต้องพุ่งสูงพรวดพราดแน่ แต่เห็นว่าพวกเขาต่างก็ไม่มีสายเลือดแห่งเสาเทพยดา ต่อให้กลายเป็นระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์อันใด…”
แม้ทุกคนจะประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ตะลึงพรึงเพริดแต่อย่างใด
หากประเมินโดยรวมแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้เห็นพวกฉู่หลิวเยว่อยู่ในสายตาสักเท่าไร
ต่อให้บุกทะลวงแล้ว สำหรับพวกเขาก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าโจษจันอยู่ดี
ฉู่หลิวเยว่แทบจะแยกเงาร่างของเชียงหว่านโจวไม่ออกแล้วด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเอง ก็มีทัณฑ์สวรรค์เส้นหนึ่งพุ่งลงมาหาบรรดาคนที่อยู่ในสวนหย่อม!
ในใจฉู่หลิวเยว่พลันกระตุกกึก กำลังจะเคลื่อนไหว แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
นางรีบห้ามปรามซั่งกวนจิ้งที่กำลังจะลงมือทันที
“รอก่อนองค์ไท่จู่! นี่คือซื่อจิง!”
ซั่งกวนจิ้งพลันมีสีหน้างุนงง
“ว่าอันใดนะ!”
ในขณะที่คนทั้งสองกำลังพูดคุย ทัณฑ์สวรรค์สายนั้นก็ผ่าลงใจกลางสวนหย่อม
ในตอนนั้นเอง ท้ายที่สุดพวกเขาจึงได้เห็นชัดเจนว่าที่ผ่าลงมาเป็นซื่อจิงจริงๆ
เหตุผลที่มองผิดไปนั้น เป็นเพราะว่า…บนหลังของเขามีทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งนาบติดอยู่
เมื่อครู่ระยะห่างค่อนข้างไกล คนข้างล่างจึงมองได้ไม่ชัดเจน
“นายท่าน พวกท่านมองข้าเช่นนี้เหตุใด?”
เมื่อเห็นสีหน้าของคนเหล่านี้ประหลาดพิกล ซื่อจิงก็ตกใจ จึงได้รีบหันกลับไปมองทันที จากนั้นก็พลิกฝ่ามือไปบนหลัง แล้วดึงทัณฑ์สวรรค์เส้นนั้นออกมา
“เอ๋ เหตุใดยังอยู่ละนี่?”
แกร๊ก!
เขาจัดการหักทัณฑ์สวรรค์เส้นนั้นออกเป็นสองท่อนทันที