ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2253 เขากำลังตามจีบน้องแปด
ตอนที่ 2253 เขากำลังตามจีบน้องแปด
………………..
ถังเคอกระแอมไอขึ้นมาหนึ่งเสียง
“เปล่า ไม่มีอันใด ข้าแค่รู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไปเท่านั้น นายท่านเยว่ ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าจะพาพวกเขาไปที่พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงกลับมาได้ล่ะ?”
ฉู่หลิวเยว่พูดว่า
“เล่าไปแล้วเรื่องมันยาว พวกเราเข้าไปคุยกันด้านในเถอะ”
…
“ดังนั้นเจ้าจึงอยากให้พวกเราเข้าไปดูว่าภายในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์นั้นมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น?”
หลังจากได้ยินฉู่หลิวเยว่อธิบายจนจบ ซูหลีก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาแล้ว
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“ข้ารู้ว่าการเดินทางนี้มันอันตรายมาก เดิมทีแล้วข้าไม่อยากจะรบกวนพวกท่าน แต่…”
มุมปากของซูหลียกยิ้มขึ้น
“เสี่ยวเยว่เออร์ เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะนับว่าเป็นอันใดได้? แล้วอีกอย่าง เรื่องเหล่านั้นก็นับว่าเป็นผลดีต่อตัวข้าด้วย หากสามารถช่วยเหลือเจ้าได้อีกก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก”
นางรู้ว่า ในตอนแรกฉู่หลิวเยว่ได้รับการชี้แนะจากผู้คนเหล่านั้น นางถึงสามารถช่วยหลอมกายเนื้อให้สำเร็จ
ตอนนี้เมื่อพวกเขามีภัย ดังนั้นนางก็ไม่สามารถนั่งเฉยต่อไปได้
“ความจริงแล้วข้าอยากจะเข้าไปในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ประจวบเหมาะมาก”
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก
มีผู้บำเพ็ญเพียรคนไหนบ้างที่อยู่ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่แล้วไม่อยากจะเดินทางไปที่นั่น
เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้เขาจำเป็นจะต้องเฝ้าท่าเรือดอกท้อให้ฉู่หลิวเยว่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เคลื่อนไหว
ในเมื่อตอนนี้ฉู่หลิวเยว่มาเชิญเขาด้วยตัวเอง เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป
ซูหลีมีความตั้งใจจะช่วยเหลือแบบนี้ก็ทำให้นางรู้สึกสบายใจไม่น้อย
“จริงสิ เสี่ยวเยว่เออร์ที่เจ้ากลับมาแบบนี้ ไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่?” ซูหลีพูดขึ้น “พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น…น่าจะมีกฎเข้มงวดมากเลยไม่ใช่หรือ?”
ต่อให้นางไม่เคยไปมาก่อน แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนมันจะไม่ใช่สถานที่ที่สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ถูกต้อง เดิมทีคนทั่วไปแล้วก็ไม่สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ แต่ข้าได้บอกกับเสินสื่อลำดับที่เจ็ดเอาไว้แล้วว่า ครั้งนี้ข้าจะไปเชิญช่างหลอมอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์กลับไปพร้อมกัน และเขาก็เห็นด้วย”
อีกทั้งยังทำให้เขาไม่พอใจมากด้วย
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ไม่ว่าจิ้นอวิ๋นไหล่จะรู้สึกโมโหขนาดไหน แต่เขาก็ไม่มีทางสร้างความลำบากใจให้กับนางเพราะเรื่องแค่นี้
ภายในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ ช่างหลอมอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในระดับสูง
ซูหลีจึงได้เบาใจ “ถ้าเช่นนั้นก็ดี”
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมองทางถังเคอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ตอนนี้เขามีท่าทางเหม่อลอยเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสถังเคอ ผู้อาวุโสถังเคอ?”
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนเรียกขึ้นสองครั้ง ถังเคอถึงสามารถดึงสติขึ้นมาได้
“หื้อ? มีอันใดหรือ?”
“เมื่อครู่นี้ที่ข้าได้พูดกับท่านซูไป ท่านมีความเห็นอย่างใดบ้าง?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
ถังเคอให้ความสำคัญกับซูหลีมาก ดังนั้นจึงขอความคิดเห็นจากเขาเป็นเรื่องดีที่สุด
แต่ปฏิกิริยาตอบรับของเขานั้นแปลกไปเล็กน้อย
หลังจากที่เขาเข้ามา เหมือนว่าจิตใจของเขายังไม่อยู่กับร่องกับรอยเล็กน้อย
ถังเคอดึงสติกลับคืนมา จากนั้นก็หันมองหน้านาง แล้วเห็นมองทางซูหลี ก่อนพูดว่า
“ข้าก็จะไป”
“แต่ข้าอาจจะตามไปทีหลัง”
นิ้วของถังเคอเคาะอยู่ที่เท้าแขน แล้วพูดขึ้นมาอย่างลังเล
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย คำตอบนี้ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจมาก
เดิมทีนางคิดว่า ถังเคอจะต้องเดินทางไปกับพวกนางอย่างแน่นอน
ซูหลีก็หันกลับมามองเขา
“ถังเคอ เจ้ายุ่งมากอย่างนั้นสินะ?”
หางตาของถังเคอกระตุก
เขาก็อยากจะไปพร้อมกันนั่นแหละ!
แต่…
“ก็ไม่ได้ยุ่งมากหรอก แต่ก่อนหน้านี้โอรสสวรรค์ได้ทิ้งของบางอย่างให้ข้าจัดการ แม้มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่ก็อาจต้องใช้เวลาพอสมควร”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
เดิมทีนางจะพูดว่านางจะรอ แต่ถ้าใช้เวลานานกว่านั้นละก็…
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เสี่ยวเยว่เออร์ พวกเราก็ออกเดินทางกันก่อนเถอะ”
ซูหลีเหลือบสายตามองทางถังเคออย่างครุ่นคิด จากนั้นก็หันไปพูดกับฉู่หลิวเยว่
“ท้ายที่สุดแล้วเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่รั้งรอได้ หากสามารถไปเร็วหน่อยก็จะดีกว่า เจ้าคิดว่าอย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบรับว่า
“ถ้าเช่นนั้น…ก็เอาตามนี้นะเจ้าคะ”
ฉู่หลิวเยว่โบกมือพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้อง”
ซานซานถูมือของตัวเองไปมา
“คือว่า…น้องแปดก็ไม่ต้องการหรือขอรับ?”
สมุนไพรในส่วนของน้องแปดนั้นถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วเสมอ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในท่าเรือดอกท้อ นางแทบจะมาปล้นเขาทุกๆ สองวัน
นี่ไม่ใช่เพราะเขาใจกว้าง แต่เป็นเพราะเขาเคยชินกับการถูกบังคับขู่เข็ญ
เมื่อคิดว่าพวกเขาเดินทางไปที่พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์นานขนาดนั้น ซานซานก็คาดเดาว่าสมุนไพรในมือของน้องแปดก็น่าจะหมดไปตั้งนานแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ยิ้ม
“นั่นก็ไม่ต้อง ตอนนี้ยอดเขาโอสถของพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระแล้ว ไม่โดนขัดขวางอีก น้องแปดก็มีสมุนไพรตลอดไม่ขาดมือ อยากได้สมุนไพรชนิดไหนก็ไปหยิบมา สะดวกกว่าเอาจากเจ้าอีก”
นางรู้เป็นอย่างดีว่า น้องแปดได้เอาสมุนไพรจากซานซานมาโดยตลอด อีกทั้งซานซานก็จดใส่บัญชีเอาไว้อย่างเงียบๆ
แม้น้องแปดจะไม่เคยจ่ายเงินเลยก็ตาม แค่กๆ
ซานซานเบิกตาเล็กๆ โตขึ้น
“ยอดเขาโอสถ? ขัดขวาง? นายท่าน นี่มันเรื่องอันใดกันแน่ มีคนกลั่นแกล้งน้องแปดอย่างนั้นหรือ? แบบนี้ไม่ได้นะขอรับ!”
เขาดูแลน้องแปดมาหลายปี ยุ่งไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แล้วจะมีคนมากลั่นแกล้งนางได้อย่างใด?
“วางใจเถอะ นางดูเป็นคนยอมคนอย่างนั้นหรือ?”
แม้กระทั่งเสินสื่อลำดับที่แปดทำให้นางโมโห ต่อมานางก็ยังเอาคืนได้เลย?
ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ยังจำได้เลยว่า สีหน้าของชูจิ้งที่โดนน้องแปดยั่วโมโหนั้นเขียวคล้ำเพียงใด
ซานซานถอนหายใจออกมา
“ก็จริง! ยิ่งไปกว่านั้นพวกพี่ใหญ่ก็ยังอยู่ที่นั่น…แต่ว่า เมื่อครู่นี้ท่านพูดถึงยอดเขาโอสถ นั่นมันคือเรื่องอันใดกันหรือ?”
“…นั่นก็หมายความว่า หลังจากที่ต่อสู้กับเหลียงเหอคนนั้นแล้ว ท่านก็ทะลวงสู่ระดับปรมาจารย์เซียนหมอ จากนั้นก็หลอมโอสถคงปราณตั้งต้น และเพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ ทำให้เสินสื่อลำดับที่แปดต้องได้รับการลงโทษ ไม่กล้ายึดครองยอดเขาโอสถอีกต่อไป”
มุมปากของซานซานกระตุก
จากนั้นก็คร่ำครวญถึงชูจิ้งอยู่ภายในใจเงียบๆ
นางสมองบวมไปแล้วหรือ?
ต่อให้ไม่รู้ฐานะของฉู่หลิวเยว่ อย่างน้อยก็สามารถมองเห็นท่าทางของร้านเจินเป่าเก๋อที่ปฏิบัติต่อนางได้ไม่ใช่หรือ?
น่าทึ่งมากที่นางสามารถทำเรื่องปัญญาอ่อนเช่นนี้ได้
เพื่อพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองภายในยอดเขาโอสถ นางถึงกับตามืดบอดไปแบบนี้
ซานซานได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก
“นายท่านๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านแข็งแกร่งที่สุด ฮ่าๆ !”
ได้ยินหรือไม่
ครั้งแรกที่พยายามหลอมโอสถคงปราณตั้งต้นก็สามารถทำได้สำเร็จเลย อีกทั้งยังทะลวงด่านเป็นปรมาจารย์เซียนหมอ!
นี่เป็นพรสวรรค์แบบใดกัน!
เมื่อมองไปทั่วทั้งโลกก็คงไม่มีคนแบบนั้นเป็นคนที่สองแล้ว!
“เหอๆ อันใดนั่น คาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้ามาต่อสู้กับนายท่าน เขาช่างคิดสั้นจริงๆ”
ฉู่หลิวเยว่เอียงศีรษะ
“เหลียงเหอเป็นปรมาจารย์เซียนหมอที่อายุน้อยที่สุดในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งเขายังมีอนาคตที่ดี…นิสัยทั่วไปของเขาก็ไม่ได้แย่”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“แน่นอนว่า อาจจะเพราะเขากำลังไล่ตามจีบน้องแปดเป็นหลักอยู่ล่ะมั้ง”
เยี่ยนชิงที่อยู่ด้านนอกประตูได้ยินดังนั้นก็ชะงักฝีเท้าไป