ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2273 ได้มาอย่างง่ายดาย
เสินจู่!
รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่หดเล็กลง นางสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่า “เสินจู่” ที่อวี้เชียนพูดถึงนั้นจะต้องเป็นนายท่านที่แท้จริงของพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์แน่นอน!
ที่แท้ บรรพบุรุษหงส์ทองคำไม่ได้เป็นเพียงแค่อสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตำหนัก แต่ยังถูกเลี้ยงดูจากเสินจู่ผู้นั้นด้วย?
ภูเขาด้านหลังตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ถูกเก็บเอาไว้ให้เขา สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงความรักและเอ็นดูในปีนั้นของเสินจู่ที่มีต่ออีกฝ่าย
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น และทำให้คนผู้นั้นแปรพักตร์และเผาตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์โดยตรงแบบนี้?
เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความลับมากมายในอดีต ฉู่หลิวเยว่จึงไม่ได้ตอบรับ
อวี้เชียนไพล่มือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วหันมองทางภูเขาเฟิ่งหมิง ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เสินจู่ดีต่ออี้หลิงมาก แต่น่าเสียดายที่มันทำให้เสินจู่ผิดหวัง”
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย
อี้หลิง
นี่อาจจะเป็นชื่อของบรรพบุรุษหงส์ทองคำท่านนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้เชียน นางก็คิดว่าข่าวลือทั้งหมดในตอนนั้นเป็นเรื่องจริง
แต่…ใครจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหล่านั้นว่าเป็นมาอย่างไร?
เมื่ออวี้เชียนเห็นว่านางยังคงเงียบเสียง เขาจึงหัวเราะขึ้นมา
“ไม่ต้องตื่นตระหนก ที่ข้าพูดเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายแฝงอื่นใด เพียงแค่ตอนที่ข้ามองเจ้า และรู้สึกถึงอันใดบางอย่างเท่านั้นเอง”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นระรัว
“ข้า?”
นางมีอะไรดีกันถึงทำให้เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
หากเขาไม่มีจุดประสงค์อื่น เดิมทีเขาไม่มีทางเรียกนางมาที่นี่แน่นอน และเขาไม่มีทางมาพูดคุยกับคนที่ไม่มีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์อย่างนางด้วยซ้ำ
อวี้เชียนพยักหน้า แล้วพูดว่า
“ใช่แล้ว”
“เจ้าทำพันธสัญญากับนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำใช่หรือไม่?”
สีหน้าและแววตาของเขาอ่อนโยนมาก เหมือนกับเพื่อนสนิทที่กำลังพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระอย่างคุ้นเคย
แต่อย่างไรก็ตาม ฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณไอเย็นยะเยือกที่อันตราย ลมปราณนั้นตกหลุมรอบตัวนางทันที!
เงาร่างของนางตึงเกร็ง นางเงยหน้าขึ้นมอง แล้วจ้องไปทางอวี้เชียน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
วินาทีนั้น แม้กระทั่งอากาศก็ยังถูกแช่แข็ง
หลังจากผ่านไปสักพัก ฉู่หลิวเยว่ก็พยักหน้าเบาๆ
“ใช่แล้ว ข้าทำพันธสัญญากับเขาหงส์ทองคำตัวหนึ่ง มันติดตามข้ามาหลายปีแล้ว เหตุใดเสินสื่อลำดับที่สองถึงถามเรื่องนี้ขึ้นอันใดเจ้าคะ?”
อวี้เชียนเผยสีหน้าพึงพอใจออกมา
เขาชอบพูดคุยกับคนที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า
“นั่นไม่ใช่หงส์ทองคำธรรมดา ต้องบอกก่อนว่าหมื่นปีที่ผ่านมานี้ ทั่วทั้งเผ่าหงส์ทองคำ มีสายเลือดบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นมาเพียงสองตัวเท่านั้น ตัวแรกคือ อี้หลิง ส่วนอีกตัวหนึ่งคือ ตัวที่ทำพันธสัญญากับเจ้าอยู่”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระรัว
“ความจริงแล้วที่ข้าเชิญเจ้ามาในวันนี้ เพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับเจ้าเรื่องหนึ่ง ข้าหวังว่าเจ้าจะยกเลิกพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวนั้น”
น้ำเสียงของอวี้เชียนราบเรียบมาก เหมือนว่าเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
ฉู่หลิวเยว่สังเกตได้ว่าคำพูดของเขานั้นไม่มีการประนีประนอม หรือต้องการหารือกับนางเลย
“เสินสื่อลำดับที่สอง ข้าสามารถตอบว่า ไม่ หรือเปล่า?”
ใบหน้าของอวี้เชียนอ่อนโยน
“เกรงว่าจะไม่ได้”
ฉู่หลิวเยว่ปิดปากของตนเอง
นางรู้ว่าอีกฝ่ายมีท่าทางยืนหยัดหนักแน่น ต่อให้พูดต่อก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
อีกฝ่ายคือ เสินสื่อลำดับที่สอง ฐานะของเขานั้นสูงส่งกว่านางก็ไม่รู้กี่เท่า
แต่นางก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวเหล่านั้นเลย
หลังจากผ่านไปสักพัก ฉู่หลิวเยว่ก็ถามขึ้นมาว่า
“เสินสื่อลำดับที่สอง หากข้าไม่ตอบตกลงจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
อวี้เชียนพูดว่า
“นั่นก็เป็นเรื่องน่าเสียดายแล้ว ได้ยินมาว่าองค์ไท่จู่ของเจ้าท่านนั้นมีความหวังอย่างมากที่จะทะลวงด่านช่างหลอมอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งลูกน้องของเจ้าทั้งหลายก็มีพรสวรรค์ที่ไม่เลว จริงสิ เหมือนว่าที่เจ้ากลับมาในครั้งนี้ ยังพาสามีมาที่นี่ด้วยใช่หรือไม่?”
ดวงตาของเย็นชาขึ้น
…
“นายท่าน เสินสื่อลำดับที่เจ็ดเชิญพระชายาออกไปแล้ว”
เยี่ยนชิงเดินเข้ามาในห้อง จากนั้นก็มองไปทางหรงซิวที่กำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง โดยที่ตรงหน้าของเขามีกระดานหมากรุกวางเอาไว้อยู่
นิ้วเรียวยาวของเขากำลังถือตัวหมากสีดำ เหมือนกำลังลังเลว่าจะวางไว้จุดไหนดี
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยนชิง เขาก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วตอบรับเพียงว่า “อื้อ”
เยี่ยนชิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นอย่างลังเล
“คนต้องการจะพบพระชายาจริงๆ น่าจะเป็นเสินสื่อลำดับที่สองมากกว่า”
“ข้ารู้แล้ว”
เยี่ยนชิงรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม
“นายท่าน ด้วยนิสัยของเขาแล้ว หากถูกบีบบังคับจนจนมุม เกรงว่าเขาจะยอมทำทุกอย่าง”
เมื่อถึงตอนนั้น สถานการณ์ของพระชายาก็จะตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
“เขากำลังร้อนรน ประตูสวรรค์เปิดได้สองเดือนแล้ว เวลาเหลือสำหรับเขานั้นไม่มากแล้ว”
หรงซิวพูดขึ้นเสียงเรียบ
ปึก
หมากสีดำในมือจัดการทางรอบสุดท้ายของหมากสีขาวบนกระดาน
“หากเขายังจะอยากเอาหัวชนฝาก็ปล่อยเขาทำไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องขวาง”
เยี่ยนชิงตกใจมาก จากนั้นก็เหมือนตระหนักอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย
“ขอรับ”
…
ภูเขาเฟิ่งหมิง
เมื่อได้ยินคำตอบของฉู่หลิวเยว่ อวี้เชียนก็ไม่ได้รู้สึกโมโห เขากลับยิ้มขึ้นมาบางๆ
“ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ เจ้าจะลังเลก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว หากเป็นข้า ข้าก็ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าขอเสนอเงื่อนไขหนึ่งแลกกับเจ้า เจ้าอยากได้สิ่งใดก็พูดออกมาได้เลย”
หากเป็นคนอื่นได้ยินเช่นนี้ อาจจะคิดว่าอวี้เชียนเป็นคนที่พูดคุยด้วยง่าย
แต่ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้คิดเช่นนั้น
นี่กลับทำให้นางระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คำพูดที่อวี้เชียนพูดกับนางนั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่ง
ต่อให้นางไม่ตอบตกลง แล้วอวี้เชียนจะทำอะไรนางไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ลังเลไม่พูดจา อวี้เชียนพูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าเห็นว่าเจ้าสนใจตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์มาก? หากว่าเจ้าอยากเข้าไป ขอเพียงเจ้าพยักหน้า หลังจากนี้อนาคตของเจ้าภายในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีทางเลวร้ายแน่นอน”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้น
“เสินสื่อลำดับที่สองพูดได้ถูกต้อง ข้าอยากเข้าตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆ แต่ขอแค่เพียงข้าเดินผ่านเส้นทางดวงดาวได้ ข้าก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน แล้วทำไมข้าจะต้องเอาถวนจื่อไปแลกด้วยเล่า?”
อวี้เชียนกลับหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหมือนเขาได้ยินเรื่องตลกอะไรบางอย่าง
“ซั่งกวนเยว่ ต่อให้เจ้าจะทะลวงค่ายกลทั้งหมดบนเส้นทางดวงดาว แต่เพราะเจ้าไม่มีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ ประตูบานใหญ่แห่งตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีทางเปิดให้เจ้าหรอก”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้พูดอะไร
“แต่ หากเจ้าตอบตกลงว่าจะยกเลิกพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวนั้น ข้าก็จะทำให้เจ้ามีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็สามารถเข้าไปในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว หลังจากนี้เจ้าก็สามารถขึ้นสวรรค์ทำลายเทพได้ เหตุใดเจ้าถึงไม่ยินดีที่จะทำล่ะ?”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกตะลึงมาก
คำพูดของอวี้เชียนหมายความว่า…
“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินว่ามู่หยาเฟิงเคยล่วงเกินเจ้า? พลังแห่งสายเลือดของนางก็ไม่เลวเลย หากเจ้าไม่รังเกียจ ก็เลือกนางเสียสิ แน่นอนว่าหากเจ้าไม่ชอบ ทั่วทั้งพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ ยังมีคนอีกจำนวนมาก”
สาวเท้าก้าวขึ้นไปด้านหน้า ก่อนมองนางอย่างเย้ยหยัน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ขอเพียงแค่เจ้ายอมรับเงื่อนไขเมื่อครู่นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะอยู่ในกำมือของเจ้าอย่างง่ายดาย”