ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2289 การปะทุขึ้นของอี้เจา
ตอนที่ 2289 การปะทุขึ้นของอี้เจา
………………..
เฉิงเพ่ยพลันรู้สึกราวกับตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง ทั่วกายเย็นวาบ
ความจริงแล้ว หากไม่อยู่ในสถานการณ์จนตรอก เขาก็ไม่มีทางบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากซื่อจิง
มันไม่มีอันใดจะทำได้แล้วไม่ใช่หรือไร
เขาถูกขังอยู่ในนี้เพียงพักเดียว ก็ถูกทัณฑ์สวรรค์น่ากลัวพวกนั้นเฉือนร่างจนมีบาดแผลนับไม่ถ้วน ทั่วกายแทบไม่เหลือพื้นผิวสภาพดีไว้แล้ว
หากเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานเขาได้ถูกฝังร่างอยู่ที่นี่จริงๆ แน่!
ใช่ว่าเขาจะไม่ลองหนีด้วยตัวเองดู แต่พบว่าทำไม่ได้ต่างหาก
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ คิดจะสวนกระแสธารเชี่ยวกรากขึ้นไปนั้นยากดุจทะยานสู่สวรรค์!
แต่ว่าซื่อจิงกลับต่างออกไป
ไม่รู้เพราะเหตุใด อาจเป็นเพราะคุณสมบัติด้านกายภาพของเขาพิเศษหรือด้วยเหตุผลอื่นใด สรุปได้ว่า เขาอยู่ในสระอัสนีบาตได้ผ่อนคลายกว่าคนอื่นมากอย่างเห็นได้ชัด
หากไม่นับเรื่องก่อนหน้า เอาแค่ตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดล้วนถูกทัณฑ์สวรรค์ที่เปลี่ยนแปลงท่าทีกะทันหันเล่นงานจนดูไม่จืด มีแค่ซื่อจิงลอยชายสบายใจอยู่ที่นี่ได้เหมือนเก่า
นอกจากเขา เฉิงเพ่ยก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปขอให้ใครช่วยได้อีก
เขาขบกรามแน่น ตะโกนว่า
“ซื่อจิง! จะ จะดีร้ายยังไงพวกเราก็เป็นกลุ่มที่มาพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน เจ้าไม่คิดจะช่วยเหลือกันสักนิดเลยจริงๆ หรือ”
ซื่อจิงแค่นหัวเราะคราหนึ่ง
“ข้ามาด้วยตัวเองต่างหาก ใครมากับเจ้ากัน อีกอย่าง เจ้ามันแข็งแกร่งมากไม่ใช่หรือไร แบบนั้นก็หนีออกมาเองซี่! ข้าได้ยินมาว่าตอนแรกที่ต้องข้ามทะเลมา เจ้าขอให้นายท่านข้าช่วยเหลือเจ้า พอนายท่านข้าปฏิเสธเจ้า เจ้าก็ผูกใจเจ็บจำมาถึงทุกวันนี้นี่? เฉิงเพ่ย เจ้าก็อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว เหตุใดถึงได้หน้าไม่อายขนาดนี้กัน”
เฉิงเพ่ยถูกโต้กลับจนพูดไม่ออก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีด
“เจ้า…”
ในตอนที่เฉิงเพ่ยกำลังจะพูดอันใดออกมา ทัณฑ์สวรรค์จำนวนหนึ่งที่รวมตัวกันก่อร้างขึ้นเป็นเกลียวคลื่นอยู่ด้านหน้าก็พุ่งโถมมาทางนี้อย่างรวดเร็ว!
ซื่อจิงที่อยู่เบื้องหน้าเขากลายเป็นหน้าด่านไปในทันที!
ทว่าในตอนที่เฉิงเพ่ยคิดว่าซื่อจิงถูกกลืนกินไปแล้วนั่นเอง กลับพบว่าซื่อจิงเงื้อค้อนเหล็กในมือขึ้น ก่อนจะเหวี่ยงออกไปคราหนึ่ง
ซ่า…
กระแสพลังไร้รูปร่างพวยพุ่งออกมาจากค้อนเหล็ก ทัณฑ์สวรรค์สีเงินเหล่านั้นที่โถมสาดอย่างรุนแรงราวกับถูกบังคับให้เบี่ยงออกก็มิปาน กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว
หลังจากพุ่งผ่านตัวซื่อจิงไป พวกมันก็กลับมารวมตัวกันอีกรอบหนึ่งอย่างเร็วรี่ ทั้งยังหอบเอากระแสคลื่นลมมาด้วย!
ลมปราณที่แผ่ออกมาจากพวกมันดุร้ายมากกว่าก่อนหน้านี้เป็นเท่าตัว!
แววตาของเฉิงเพ่ยมีรอยหวาดผวาเคลื่อนวูบผ่าน… เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้!?
ทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้เหมือนกับได้รับคำสั่งจากซื่อจิงและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างใดอย่างนั้น!
ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา จู่ๆ ซื่อจิงก็หันศีรษะกลับมามองทางนี้แวบหนึ่ง
เรียวคิ้วข้างหนึ่งดวงหน้าดำคล้ำดุดันเลิกขึ้น จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
เฉิงเพ่ยพลันตระหนักได้ถึงอันใดบางอย่าง “เจ้า…”
ซ่า!
ทันทีที่เขาเปิดปาก ยังไม่ทันจะได้คำพูดที่เหลือออกมา เกลียวคลื่นอัสนีดุดันอันน่าหวาดผวาก็สาดซัดมาทางนี้เป็นที่เรียบร้อย กลืนกินเขาเข้าไปในชั่วพริบตา!
จากนั้น เงาร่างของเขาก็มอดไหม้สลายไปท่ามกลางทัณฑ์สวรรค์นับไม่ถ้วนอย่างรวดเร็ว
ซื่อจิงกะน้ำหนักค้อนเหล็กในมือของตน
นับว่าใช้ได้ดีทีเดียว
โชคยังดีที่เมื่อครู่เขาไม่ได้เคลื่อนไหวใหญ่โต เหมือนว่านอกจากเฉิงเพ่ยแล้วก็ไม่น่าจะมีใครเห็นอีก
…
ครั้นมาถึงขอบสระอัสนีบาต จำนวนทัณฑ์สวรรค์ของที่นี่ก็ลดลงไปมาก หลงเหลืออยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น
ซื่อจิงกระโจนกลับขึ้นมาบนขอบฝั่งได้อย่างสบายๆ
สายตาของบรรดาฝูงชนที่อยู่โดยรอบต่างจับจ้องมาที่เขาเป็นจุดเดียว
เป็นอย่างที่คิดไว้ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างพลิกผัน เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดอยู่ดี!
คนจำนวนมากต่างสบสายตากันอย่างท้อแท้
เรื่องพวกนั้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ช่างมันเถอะ พวกเขาคิดแค่ว่ากายเนื้อเขานั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทานถึงได้ต้านทานทัณฑ์สวรรค์พวกนั้นไว้ได้ด้วยซ้ำ
แต่มาตอนนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าคำอธิบายพวกนั้นไม่เพียงพอแล้ว
คนบาดเจ็บล้มตายมากมายปานนั้น แต่มีแค่เขาเท่านั้นที่ออกมาจากสระอัสนีบาตได้แบบปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน!
นี่มันก็อธิบายคำถามเรื่องนี้ได้แล้วไม่ใช่หรือไร
ทว่าซื่อจิงมิได้ใส่ใจในสายตาของบรรดาฝูงชนที่อยู่โดยรอบแม้แต่น้อย
เขาจัดเสื้อคลุมที่ยับยู่ยี่ของตนให้เรียบร้อย มือกำค้อนเหล็กไว้แน่นพลางหันศีรษะกลับไปมองสระอัสนีบาต
ทัณฑ์สวรรค์นับไม่ถ้วนยังคงกำลังมุ่งหน้าลงไปยังก้นบึ้งของสระ
ยามมองจากที่ไกลๆ จะเห็นเพียงแสงสว่างเรืองรองทอประกายอยู่ระหว่างพื้นที่อันมืดมิด
ซื่อจิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า
หรือเขตหวงห้ามที่ก้นบึ้งของสระอัสนีบาตจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นจริงๆ?
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นปราดเข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงกัมปนาทกึกก้องขึ้นมาทันทีทันใด!
ตูม ครืน ครืน…
เสียงนี้ดังมาจากด้านล่างสระอัสนีบาตที่อยู่ไกลออกไป ฟังดูหนักหน่วงยิ่ง!
บรรดาผู้คนรู้สึกเพียงราวกับถูกอันใดบางอย่างบดขยี้ลงบนหัวใจอย่างหนักจนหายใจแทบไม่ออกอยู่รอมร่อ
จากนั้น เปลวเพลิงสีทองอร่ามสายหนึ่งก็พุ่งพรวดจากสระอัสนีบาตขึ้นไปบนผืนฟ้า!
ท่ามกลางการโอบล้อมจากประกายแสงสีเงินแวววาว เปลวเพลิงสีทองสายนี้จึงยิ่งเจิดจ้าหาสิ่งใดเปรียบ
พริบตาที่มันปรากฏขึ้น ผืนฟ้าก็สว่างจ้าขึ้นมาไปเกือบครึ่ง!
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบล้วนราวกับหม่นแสงลงไปชั่วขณะ
กระทั่งทัณฑ์สวรรค์สีเงินเหล่านั้นก็ยังไร้หนทางจะเทียบเคียง
พริบตาต่อมา เปลวเพลิงสายนั้นก็เริ่มพวยพุ่งกระจายไปรอบสี่ทิศอย่างบ้าคลั่งดุจธารเพลิงร้อนเหลว!
เปลวเพลิงหลอมละลาย สว่างเป็นประกายเจิดจ้าจนมิอาจต้านทานได้!
เกลียวคลื่นทัณฑ์สวรรค์ขนาดใหญ่ถูกปกคลุมด้วยประกายแสงจากเปลวเพลิงสีทองอร่ามที่แผ่ขยาย!
ครั้นดูการต่อสู้นั้นแล้ว ดูเหมือนว่าทัณฑ์สวรรค์จะเป็นฝ่ายถูกโค่น!
ทุกคนล้วนตื่นตกใจกับภาพฉากนี้จนหยุดนิ่งอยู่กับที่ ในใจพลันสั่นสะท้าน ต่างตกอยู่ในความเงียบสงัดโดยพร้อมเพรียงกัน
คลื่นความร้อนสาดซัดเข้ามา กระทั่งอากาศยังร้อนระอุตามไปด้วย!
ซ่งชิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าได้สติกลับมาในที่สุด เขาค่อยๆ เดินถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความตกตะลึงสุดขีด
“นี่มัน… ลมปราณของหงส์ทองคำ!?”
ไม่ต้องสงสัยเลย สีทองอร่ามสูงศักดิ์มิอาจเทียบเทียมได้เช่นนี้ พลังแผดเผาที่แข็งแกร่งและน่าหวั่นเกรงเช่นนี้ นอกจากหงส์ทองคำแล้วจะมีผู้ใดได้อีก!?
สุรเสียงนี้ปลุกบรรดาฝูงชนที่อยู่โดยรอบให้ได้สติขึ้นมาโดยพลันเช่นกัน
“หงส์ทองคำ? นั่นมิใช่เผ่าคนบาปของพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ เหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้”
ตั้งแต่หลายหมื่นปีก่อนที่บรรพบุรุษเผ่าหงส์ทองคำทรยศหลบหนีไปจากตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ก็ไม่มีหงส์ทองคำปรากฏตัวขึ้นมาอีก!
ใครจะไปรู้ได้ว่าจู่ๆ ใต้ก้นบึ้งของสระอัสนีบาตจะมีลมปราณอันน่าหวาดผวาเช่นนี้พวยพุ่งออกมา!
หรือว่าด้านล่างนี้…
กี๊!
ในตอนที่ทุกคนกำลังจิตใจกระวนกระวาย สับสนวุ่นวายอยู่นั่นเอง เสียงกู่ร้องของหงส์พลังดังก้อง แผ่ขยายกังวานไปทั่วผืนฟ้าในใต้หล้า!
…
สุรเสียงกู่ร้องของหงส์นี้ยังแหวกสายลมดังมาถึงตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์และเขาเฟิ่งหมิงด้วย!
ตอนนี้ลวดลายเส้นที่เจ็ดกลางหว่างคิ้วของถวนจื่อจวนจะสลักเสร็จสิ้นแล้ว
ครั้นได้ยินสุ้มเสียงที่คุ้นเคย จิตใจของนางพลันตึงเครียดขึ้นมา!
ขนนกทองคำบรรพบุรุษเกิดการสั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรง!
ใจของฉู่หลิวเยว่ดิ่งวูบ นางหันมองไปตามต้นเสียงทันที
เสียงนี้ดังมาจากสระอัสนีบาตร… นี่อี้เจาคิดจะทำอันใดกัน!?
ยังไม่ทันจะได้ขบคิดให้ถี่ถ้วน เสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดพลันดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่หันศีรษะกลับไป พบว่าอี้กงที่อยู่ไกลออกไปเหมือนถูกพันธนาการด้วยเชือกที่มองไม่เห็นเส้นหนึ่ง ก่อนที่ร่างของนางจะพุ่งไปทางสระอัสนีบาตอย่างควบคุมไม่ได้!
………………..