ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2313 ยุ่งยาก ....................

ตอนที่ 2313 ยุ่งยาก

………………..

ไม่พูดเรื่องนี้ก็ยังดี ยิ่งพูดถึงในใจหนานจิ่นซูก็ยิ่งโกรธแค้น

อันที่จริงนั่นเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ เท่านั้น แค่ถลอกเล็กน้อยและมีรอยเลือดไหลจางๆ พักฟื้นสักสองสามวันก็น่าจะหายดี

แต่มันกลับคอยตอกย้ำหนานจิ่นซูอยู่ตลอดเวลาถึงความอัปยศที่เคยได้รับทั้งหมดต่อหน้าฉู่หลิวเยว่!

เขายกมือขึ้นแตะที่คอ และแผดเสียงขึ้น

“ถ้าเจ้าไม่อยากเดือดร้อน ทางที่ดีที่สุดก็หลีกไปสะ! ไม่เช่นนั้น ข้าไม่อาจรับรองได้ว่าบนตัวเจ้าจะมีบาดแผลเพิ่มขึ้นหรือไม่!”

นี่คือการข่มขู่ที่โจ่งแจ้งที่สุด

เขาอาจจะสู้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ แต่การจัดการมู่หงอวี่ที่เป็นเพียงระดับเทพขั้นสูงก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

แต่มู่หงอวี่ไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นท่าทางโมโหด้วยความอับอายบนใบหน้าของชายที่อยู่ตรงหน้า มู่หงอวี่ส่งสายตาพลางพูดขึ้น

“ท่านประมุขหนานโมโหขนาดนี้เชียวรึ หรือว่า…บาดแผลนี้ของท่าน มาจากหลิวเยว่นายท่านของพวกเราหรอกหรือ?

“เจ้า!”

หนานจิ่นซูยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น จึงยกมือขึ้นและร่ายพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ออกมาแปรเปลี่ยนเป็นคมดาบพุ่งตรงไปทางมู่หงอวี่!

ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนใกล้กันอย่างมาก แค่ห่างออกไปเพียงก้าวเดียว เขาก็ลงมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ ต่อให้เป็นเทพขั้นสูง หรือเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันก็มิอาจหลบได้ทัน

ฟึบ!

คมดาบนั้นพุ่งทะลุผ่านหน้าอกของมู่หงอวี่ไปอย่างรวดเร็ว!

ผู้คนบริเวณรอบๆ ต่างพากันร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพียงชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็เห็นว่า “มู่หงอวี่” ผู้นั้นร่างได้สลายไปทันที!

…เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นเพียงเงาร่างของนางเท่านั้น!

หนานจิ่นซูเพิ่งรู้สึกสะใจขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นภาพนี้เข้าเขาก็ชะงักไปในทันที

หนานจิ่นซู จึงรีบหันกลับไปมอง

มู่หงอวี่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ด้านหลังเขา!

“เหตุใดเจ้า…”

เขายังไม่ทันได้เอ่ยถามอันใดออกมา มู่หงอวี่ก็ระเบิดหมัดหนึ่งออกไป! พุ่งตรงเข้าไปที่ใบหน้าของหนานจิ่นซู!

ผลัวะ!

เพียงได้ยินเสียงหมัดฟาดเข้ามา หนานจิ่นซูก็หน้ามืดตาลายในทันที จนถอยหลังไปหลายก้าวจนเกือบล้มลง

ขณะที่มู่หงอวี่ปล่อยหมัดออกไปนั้น จึงส่งผลกระทบต่อพลังบริเวณพื้นที่โดยรอบ ทําให้เกิดพลังกดดันอย่างรุนแรงต่อหนานจิ่นซู

ดังนั้นเขาถึงผ่อนคลายได้เช่นนี้ เพราะโจมตีหนานจิ่นซูได้อย่างไม่ทันตั้งตัว

หนานจิ่นซูรู้สึกเจ็บปวดทั้งศีรษะและใบหน้าอย่างมาก จากนั้นก็มีอันใดบางอย่างไหลออกมาจากจมูกและปากของเขา

เขาเช็ดเลือดออกและก้มลงมอง

เลือดสีแดงเข้มและเหนียวข้น

มือของเขาค่อยๆ สั่นขึ้น

ผู้คนที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ต่างมีสีหน้าประหลาดใจ

เกิดเรื่องอันใดขึ้น

มู่หงอวี่ไม่ใช่เทพขั้นสูงหรอกหรือ

หลังจากประมือกับหนานจิ่นซูหนึ่งกระบวนท่า ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังทำให้หนานจิ่นซูเจ็บหนักขนาดนี้อีกหรือ!

มู่หงอวี่ “`จุ๊ๆ” ขึ้นเสียงหนึ่งพลางส่ายหัวและพูดขึ้นอย่างทอดถอนใจว่า

“ท่านประมุขหนาน สภาพของท่านดูไม่ค่อยดีนัก เหตุใดต้องฝืนด้วยเล่า ข้าก็แค่ถามคำถามนี้กับท่าน เพียงท่านตอบมาตรงๆ ก็คงไม่มีปัญหาอันใด ตอนนี้ทั้งแผลเก่าแผลใหม่…ดูสิ ท่านคิดจะทำอันใดกันแน่”

หนานจิ่นซูโกรธจนอกแทบระเบิด!

“มู่หงอวี่!”

“เจ้า…”

ในขณะนั้น ก็มีอีกร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากทะเลมายาศักดิ์สิทธิ์

“ซั่งกวนเยว่ออกมาแล้ว!”

ท่ามกลางกลุ่มคนมีเสียงอุทานดังขึ้น

มู่หงอวี่จึงรีบหันกลับไปมองทันที เมื่อเห็นว่าเป็นฉู่หลิวเยว่ ทันใดนั้นในใจก็พลันโล่งอก นางรีบโบกมือทันทีด้วยความดีใจ

“หลิวเยว่!”

ฉู่หลิวเยว่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วยิ่งนัก ในชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงบนสะพานเงิน

มู่หงอวี่รีบก้าวไปข้างหน้า พลางดึงฉู่หลิวเยว่เข้ามาและมองสำรวจนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

“หลิวเยว่ เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่”

เมื่อครู่พลังอันลึกลับและทรงพลังปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันจนสกัดกั้นการรับรู้ของนาง ทำให้นางกังวลใจไม่น้อย

แต่เห็นหนานจิ่นซูกลับมาก่อน และยังได้รับบาดเจ็บ ก็ยิ่งทำให้นางกังวลว่าข้างล่างอาจเกิดเรื่องอันใดขึ้น

ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ข้าไม่เป็นอันใด”

เมื่อมู่หงอวี่แน่ใจว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ นางจึงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดีแล้ว”

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็เห็นหนานจิ่นซูกำลังป้องจมูกของตนเองอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเลือดแล้ว นางเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจในทันที

“ท่านประมุขหนานเป็นอันใดไปหรือ”

ไม่ใช่ว่าขึ้นมาก่อนนางได้ไม่นาน ก็ได้รับบาดเจ็บอีกแล้วหรือ

มู่หงอวี่กระแอมไอขึ้น

“เมื่อครู่ข้าถามเขาเกี่ยวกับเรื่องของเจ้า ไม่เพียงแต่เขาไม่บอก แต่ยังคิดจะทำร้ายข้าอีกด้วย เพราะข้าถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือก เลยต้องตอบโต้กลับไปเล็กน้อย”

ทุกคน “…”

หน้าผากของหนานจิ่นซูกระตุกอย่างแรง

มู่หงอวี่ผู้นี้ พูดกลับดำให้เป็นขาวได้ดีเสียจริง!

เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินเข้า สีหน้าก็เย็นชาลงสามส่วนทันที

“หนานจิ่นซู เมื่อครู่ท่านลงมือกับมู่หงอวี่รึ”

หนานจิ่นซูไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงกัดฟันพูดว่า “’แล้วจะเหตุใด! แต่นางก็ไม่ได้…”

สองคำว่า “บาดเจ็บ” ยังไม่ทันเอ่ยออกจากปาก ฉู่หลิวเยว่ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเตะเข้าไปที่หน้าอกของหนานจิ่นซูอย่างแรง!

หนานจิ่นซูรู้สึกท่าไม่ดี จึงรีบยกมือขึ้นป้องกันตัว

ทว่าเขาจะว่องไวไปกว่าฉู่หลิวเยว่ได้อย่างใด

แสงวาบผ่านอันงดงาม ฉู่หลิวเยว่เตะหนานจิ่นซูด้วยขาเรียวยาวอย่างแม่นยำ!

ผลัวะ!

หนานจิ่นซูไม่ทันได้วางค่ายกล ร่างของเขาก็กระเด็นออกไปเสียแล้ว!

ทุกคนรีบแยกตัวออกเป็นสองฝั่งอย่างรวดเร็ว

หนานจิ่นซูตกลงบนสะพานเงินอย่างแรง

พรวด!

เขากระอักเลือดออกมาในทันที ใบหน้าขาวซีด

ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ลงมือ นางเรียกพลังจากร่างศักดิ์สิทธิ์มาใช้โดยเฉพาะ ทำให้การโจมตีครั้งนี้แทบจะพรากชีวิตครึ่งหนึ่งของหนานจิ่นซูไป

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น ก็ถอยหลังออกไปอีก

ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ออมมือเลย หากสู้กันต่อไปจนเลือดกระเด็นมาถูกตัวคงไม่ดีเป็นแน่

ทว่าไม่มีใครเป็นกังวลถึงอาการของหนานจิ่นซูว่าเป็นเช่นไร

ในด้านหนึ่ง ผู้ฝึกตนมากมายในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ต่างมุ่งมั่นอยู่กับการฝึกฝน ความสัมพันธ์ระหว่างกันจึงค่อนข้างห่างเหิน

“เมื่อครู่ เห็นแก่หน้าเสินสื่อสำดับที่หนึ่ง ข้าจึงไม่แตะต้องเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอย่างข้าจะรังแกกันได้ง่ายๆ”

ฉู่หลิวเยว่ปัดเสื้อผ้าไปมาและพูดด้วยเสียงเรียบเย็น

ขณะที่เอ่ยคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง

เสินสื่อสำดับที่หนึ่ง!?

ข้างล่างนั้นเกิดอันใดขึ้นกันแน่ คาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับเสินสื่อสำดับที่หนึ่ง!?

ครั้งต่อไปก่อนจะลงมือ ท่านประมุขหนานโปรดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนว่าตนเองมีความสามารถพอหรือไม่ มิเช่นนั้น หากสู้คนอื่นไม่ได้และโดนจัดการเสียเอง จนทุกคนมาเห็นเข้า ต่อไปท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

หนานจิ่นซูโกรธจัดจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงกระอักเลือดออกมาอีกสองสามครั้ง

ความแข็งแกร่งของเขาด้อยกว่าฉู่หลิวเยว่แต่แรกแล้ว ตอนนี้ยิ่งถูกฉู่หลิวเยว่และมู่หงอวี่จัดการอย่างต่อเนื่อง สภาพของเขาก็ยิ่งน่าเวทนาขึ้นไปอีก

ผู้คนมากมายต่างมองหน้าและแอบส่งสายตาให้กัน

คำพูดเช่นนี้ของฉู่หลิวเยว่ช่างน่าสนใจจริงๆ…

เหตุเพราะเมื่อหนานจิ่นซูมาถึงก็ตรงเข้าไปในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ยังได้พบกับสินสื่อสำดับที่หนึ่ง และได้รับอนุญาตให้เข้าฝึกฝนในทะเลมายาศักดิ์สิทธิ์ได้ ทุกคนจึงคิดว่าเสินสื่อสำดับที่หนึ่ง คงให้ความสำคัญและดูแลเขาเป็นอย่างดี

แต่การที่ฉู่หลิวเยว่ทำเช่นนี้ เหตุใดถึงดูเหมือนไม่กังวลเลยว่าหลังจากนี้จะเกิดปัญหายุ่งยากอันใดขึ้นกับตัวเองจากการที่ลงมือกับหนานจิ่นซู