ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2328 นางบ้าไปแล้ว
สิ่งนี่เป็นความลับที่สุดของตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นเรื่องสําคัญมากที่เสินสื่อลำดับที่หนึ่งสั่งให้พวกเขาปิดเป็นความลับ เดิมทีก็เป็นเรื่องปกติ
ทั้งสองรีบตอบรับในทันทีโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด
“ขอรับ!”
“หากเสินสื่อคนอื่นถาม พวกเจ้าก็บอกไปว่าไม่สามารถหาเนื้อเพลงฉินได้สำเร็จ และได้บังเอิญล่วงเกินท่านเทพจึงถูกลงโทษให้เข้าไปในทะเลมายาศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ”
จิ่วหลงชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาคาดเดาความหมายของเสินสื่อลำดับที่หนึ่งได้ลางๆ แต่ก็ไม่กล้ามั่นใจนัก
ขณะที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เอ่ยถามขึ้น
“เสินสื่อลำดับที่หนึ่ง เช่นนั้น…เรื่องที่ซั่งกวนเยว่เป็นคนของท่านเทพ…”
“ท่าทีของท่านเทพ พวกเจ้าไม่เข้าใจหรือ?”
เสินสื่อลำดับที่หนึ่งขัดจังหวะคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเมินเฉย
จิ่วหลงตกใจ รีบพูดขึ้น
“ขอรับ! จิ่วหลงทราบแล้ว!”
“สีเยี่ยนทราบแล้ว!”
แม่นางผู้นั้นมาที่พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลานานเช่นนี้ แต่ก็ไม่เคยเผยเบาะแสอันใดออกมาแม้แต่น้อย อีกทั้งความสนใจของท่านเทพก็ชัดเจนอย่างมาก
สิ่งเดียวที่ดูไม่ปกติ คงเป็นร้านเจินเป่าเก๋อให้ความสำคัญและดูแลนางเป็นพิเศษก่อนหน้านี้
แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้ทำให้ใครสงสัยมากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วฉู่หลิวเยว่ในฐานะปรมาจารย์นั้น มีพรสวรรค์และความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ถึงแม้นางจะไม่มีภูมิหลังใดๆ เลย แต่หากร้านเจินเป่าเก๋อยินดีให้การสนับสนุนนางก็เป็นเรื่องปกติ
ทั้งสองคนแอบโล่งใจอยู่เล็กน้อย ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับฉู่หลิวเยว่มากนัก นอกจากเรื่องที่ขัดแย้งกัน เพราะเนื้อเพลงฉินที่สุสานเทพสังหาร พวกเขาก็ไม่ได้ล่วงเกินนางมากไปกว่านั้น
ดูจากท่าทางของท่านเทพแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับนางอย่างมาก
หากไปล่วงเกินเข้า ย่อมไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน
“ออกไปเถอะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทั้งสองคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบถอยออกไป
หลังจากที่พวกเขาออกไปประตูใหญ่ตรงลานก็ปิดสนิทอีกครั้ง
…
ภายในลานบ้านเสี่ยวปากำลังนอนพักอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือยาอายุวัฒนะสีแดงอยู่เม็ดหนึ่ง
นางหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางยกเม็ดยาขึ้นส่องเพื่อพิจารณา
เจี่ยนเฟิงฉือที่นั่งอยู่ข้างๆ วางมือทั้งสองไว้บนเข่า ดวงตาอันงดงามดุจดอกท้อที่ดูเจ้าสำราญ บัดนี้กลับเผยความกังวลอยู่เล็กน้อย
“นี่คือสิ่งที่เจ้าหลอมเมื่อวานหรือ”
เสี่ยวปาเอ่ยถามขึ้น
เจี่ยนเฟิงฉือค่อยๆ พยักหน้ารับ
“ทั้งหมดมีแปดเม็ด ล้วนอยู่ในนี้ทั้งหมด”
ข้างๆ มือของเสี่ยวปามีขวดหยกวางอยู่ใบหนึ่ง
เม็ดยาที่อยู่ในมือนางเม็ดนี้เป็นเม็ดแรกที่นางเทออกมาจากขวดนั้น
เม็ดยานี้มีลวดลายชัดเจน กลิ่นหอมฟุ้ง เและเป็นยาอายุวัฒนะระดับมหาปรมาจารย์โอสถ
เสี่ยวปาจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นปลายนิ้วที่ทาเล็บด้วยความประณีตค่อยๆ บดขยี้ยาอายุวัฒนะนั้นจนกลายเป็นผงในชั่วพริบตา
“เสี่ยวปา!”
เจี่ยนเฟิงฉือเบิกตากว้างทันที
เสี่ยวปาหรี่ตาลง
“เจ้าให้ข้าช่วยดูยาอายุวัฒนะที่เจ้าหลอมออกมาเป็นอย่างไรไม่ใช่หรือ นี่แหละคือคำตอบของข้า…ยานี้ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บไว้ เจ้ากลับไปฝึกฝนต่อเถอะ
หางตาของเจี่ยนเฟิงฉือกระตุกขึ้นอย่างแรง
“นี่ข้าต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ เลยนะ…”
“เจ้าใช้เวลาหนึ่งวันหลอมยาอายุวัฒนะออกมาได้แค่ระดับนี้เองหรือ มหาปรมาจารย์โอสถเช่นเจ้านี้ช่างไร้มาตรฐานจริงๆ”
คำพูดของเสี่ยวปาคำเดียวทำให้เจี่ยนเฟิงฉือพูดอันใดไม่ออกทันที
จากนั้นเสี่ยวปาก็หยิบขวดหยกที่วางอยู่ข้างมือขึ้นมา ด้วยแรงบีบในฝ่ามือขวดหยกที่มียาอายุวัฒนะอยู่ในนั้น ก็พลันสลายกลายเป็นผุยผงในทันที
เจียนเฟิงฉือลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่งดงามของเขาบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ
“เจ้า”
“ถ้าอาศัยเพียงสิ่งนี้อย่างเดียว ตลอดชีวิตนี้ของเจ้าจะไม่มีวันทะลวงขั้นไปถึงระดับปรมาจารย์เซียนหมอได้เลย”
เสี่ยวปาปัดมือไปมา และหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวดุจหิมะออกมาค่อยๆ เช็ดมือของตนให้สะอาด
เจี่ยนเฟิงฉือกุมหน้าอกและถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มือข้างหนึ่งชี้ไปที่เสี่ยวปาอย่างสั่นเทา แต่กลับไม่พูดอันใดออกมา
ถูกยั่วจนโมโห
เดิมที่เขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาตนเองถูกกลั่นแกล้งมามากพอแล้ว แต่เขากลับประเมินพลังในการต่อสู้ของเสี่ยวปาต่ำเกินไป
ครั้งก่อนที่เขาเอาตำราแพทย์เล่มหนึ่งจากเสี่ยวปาไป แม้เขาจะไม่พูดออกมา แต่ในใจกลับรู้สึกขอบคุณเสี่ยวปาอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นหลังจากหลอมยาครั้งนี้เสร็จแล้ว เขาจึงตั้งใจมาหาเสี่ยวปาเป็นพิเศษเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ
แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับเป็นการกลั่นแกล้งอย่างไร้ความปรานีจากทุกทาง
เจี่ยนเฟิงฉือรู้สึกเสียใจชั่วขณะหนึ่ง
ตอนที่เขาได้ตำราแพทย์มา เหตุใดเขาถึงคิดว่าเสี่ยวปาเป็นคนดีไปได้นะ
ช่างโง่เขลาเสียจริง โง่เขลาเสียจริง!
อันที่จริงนางไม่ได้เป็นคนปากร้ายเช่นนี้แต่แรก และไม่ได้ตั้งใจจะเล่นงานเจี่ยนเฟิงฉือ เพียงแต่ช่วงก่อนหน้านี้ถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้งมากเกินไป จึงต้องหาคนระบายเสียหน่อย
เมื่อเห็นเจี่ยนเฟิงฉือพ่ายแพ้จนหมดท่า เสี่ยวปาก็รู้สึกอารมณ์เป็นปกติขึ้นมากในทันที
จริงหรือไม่!
นางก็ยังโดดเด่นอย่างมาก!
จริงๆ แล้วคนที่ประหลาดก็คือพี่ใหญ่
ใช่ ก็เป็นเช่นนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เสี่ยวปาหรี่ตาคู่งามลงพลางยิ้มและพูดขึ้นว่า
“เห็นว่าเจ้าหลอมยาอายุวัฒนะเหล่านี้อย่างยากลำบาก ข้าจะบอกอันใดเจ้าสักหน่อย สมุนไพรสองชนิดที่อยู่ในนี้…เจ้าใส่ผิดแล้ว”
“แน่นอนว่าข้ารู้ว่ายาอายุวัฒนะนี้มีปัญหาตรงไหน”
เจี่ยนเฟิงฉือพ่นลมหายใจออกมา
เสี่ยวปาชะงักไปครู่หนึ่งพลางนั่งลง
“จริงหรือ”
เจี่ยนเฟิงฉือยิ้มมุมปากเล็กน้อยและพูดขึ้น
“ไม่ใช่หลิงเฉ่ากับชวนมู่ เดิมที่น่าจะใช้เมล็ดวายุพันสายกับรากมันดาราแทน”
เสี่ยวปาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และกวาดตามองเขาอยู่ครู่หนึ่ง
“โอ้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะรู้จริงๆ”
เจี่ยนเฟิงฉือไม่พูดอันใด
เขายังรู้สึกเสียดายยาอายุวัฒนะที่เสี่ยวปาบดทิ้งไปเมื่อครู่
แต่เสี่ยวปาไม่ได้ใส่ใจและเอ่ยถามอีกว่า
“ในเมื่อเจ้ารู้ดีอยู่แล้ว เหตุใดถึงไม่เปลี่ยนล่ะ ถ้าใช้สมุนไพรสองชนิดนี้ได้ถูกต้อง ระดับของยาอายุวัฒนะนี้ก็จะสามารถยกระดับจากปรมาจารย์เซียนหมอขึ้นเป็นหาปรมาจารย์โอสถเชียวนะ”
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
หลายครั้งที่มีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง มักจะช่วยกระตุ้นศักยภาพของคนๆ หนึ่งออกมาได้อย่างเต็มที่
เจี่ยนเฟิงฉือก็เป็นเช่นนี้
แม้จะพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับก็ทำให้เขาทิ้งผู้คนนับไม่ถ้วนไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
ได้ยินเสี่ยวปาถามเช่นนี้ เจี่ยนเฟิงฉือจึงถอนหายใจและพูดขึ้น
“เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากทำหรือ แต่สมุนไพรสองชนิดนั้นที่ยอดเขาโอสถไม่มีนะสิ”
“เป็นไปไม่ได้อย่างใด!”
เสี่ยวปาทำหน้าประหลาดใจ
แม้ว่าสมุนไพรสองชนิดนี้จะมีค่ามาก แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นของหายากระดับสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นบนยอดเขาโอสถ มีอันใดที่ไม่มีบ้าง?
“ข้าเคยถามแล้ว เมื่อก่อนมี แต่ชิดสุดท้ายถูกเก็บเกี่ยวไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แม้ว่าจะมีชนิดใหม่ขึ้นมา แต่ก็อายุกลับไม่เพียงพอ”
สมุนไพรทั้งสองชนิดนี้อย่างน้อยก็ต้องมีอายุถึงร้อยปี
เมื่อไม่มีทางเลือกเขาจึงทำได้เพียงละทิ้งความคิดนั้นไป
เสี่ยวปาหรี่สายตาลง อย่างน้อยก็ต้องมีอายุถึงร้อยปี
“เป็นไปไม่ได้ ยอดเขาโอสถอยู่ภายใต้การดูแลของเสินสื่อลำดับที่แปดมาโดยตลอด นางจะทำเรื่องผิดพลาดง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างใด!”
วัตถุดิบวิเศษชนิดใดก็ตาม เมื่อต้องเก็บ จะต้องไม่เก็บจนหมด แต่ต้องเหลือรากเอาไว้ด้วย
ในใจของเสี่ยวปาเกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาในทันทีพลางพูดขึ้น
“นางบ้าไปแล้ว!”