ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 524 เอาของข้าไปแล้ว ก็คิดจะจากไปเช่นนี้หรือ
ตอนที่ 524 เอาของข้าไปแล้ว ก็คิดจะจากไปเช่นนี้หรือ [รีไรท์]
อาณาจักรเทพเทียนลิ่ง
ด้านในท้องพระโรงที่มีแสงสีทองเปล่งประกาย ฉู่หลิวเยว่นั่งขัดสมาธิอยู่ ดวงตายังคงจดจ้องอยู่ที่ค่ายกลขนาดใหญ่ไม่ห่าง
นางเมินเฉยต่อสิ่งรอบข้างอย่างสมบูรณ์แบบ ในสายตาและสมองของนางในตอนนี้ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น…นั่นคือการทะลวงค่ายกลนี้!
ในสมองของนางมีโครงสร้างคร่าวๆ วาดเอาไว้แล้ว
เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป มันก็เริ่มชัดเจนขึ้นมา
ฉู่หลิวเยว่ได้จำลองค่ายกลนี้เอาไว้ในสมองแล้ว
และแน่นอนว่า เมื่อนำมาเทียบกับของจริง กลุ่มก้อนเล็กๆ นี้ไม่นับว่าเป็นอันใด
แต่สำหรับนางแล้ว นางต้องการโครงสร้างที่สมบูรณ์
สำหรับความสามารถของนางในตอนนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้
ดังนั้นนางจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะบรรยายถึงการโคจรของพลังแห่งสวรรค์อีกทั้งยังพยายามค้นหารูปแบบของมันอีกด้วย
ในตอนนั้นเอง นางก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา! แววตาของนางเปล่งประกายขึ้น
ทางนั่นแหละ!
“ไป!”
พลังแห่งสวรรค์สายหนึ่งที่หลบซ่อนอยู่ในไข่มุกธารา ก็พุ่งไปยังจุดหนึ่งเหนือค่ายกล!
ตู้ม!
พลังสองสายกดข่มกันอีกครั้ง ตอนที่มันปะทะกันอยู่นั้น! ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น!
โดนแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกดีใจอย่างมาก!
วินาทีถัดมา พลังของนางก็โจมตีเข้าที่จุดกึ่งกลาง ระลอกคลื่นที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก็พัดกระจายออกมาทั่วทุกสารทิศ!
ลูกไฟที่อยู่โดยรอบๆ ก็ถูกบดขยี้ทันที!
รอบข้างถูกทำลาย!
ค่ายกลขนาดใหญ่ ถูกทะลวงอย่างเป็นทางการแล้ว!
…
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง มีหลายคนที่ยังรออยู่ด้านนอกของหลุมยุบ
ที่นี่เหลือเพียงสี่คนเท่านั้น
เชียงหว่านโจว หนิงเจียวเจียว หยางเซิ่นเอ๋อร์ และชายรูปร่างกำยำคนนั้นที่มีชื่อว่า โฉวติ่ง
เปรี้ยง!
สายฟ้าอีกหนึ่งสายผ่าลงมาแล้ว!
พวกเขาจ้องไปที่กระบี่หลงหยวนตาเขม็ง ใบหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
เพราะว่า…นี่เป็นสายที่แปดสิบแล้ว!
กระบี่หลงหยวนก็ยังไม่ได้เลือกเจ้านายเช่นเดิม!
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเหลือเพียงโอกาสสุดท้ายเท่านั้น!
หนิงเจียวเจียวหันไปมองเชียงหว่านโจวที่ยืนอยู่ไกลๆ อย่างอดไม่ได้
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เด็กผมทองคนนั้นเลื่อนขั้นเป็นนักรบระดับหกที่นี่!
นางจึงรู้สึกอิจฉาและขุ่นเคืองอย่างมาก นางคิดไม่ออกว่าในช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเช่นนี้ เหตุใดเชียงหว่านโจวถึงได้เลื่อนขั้นได้อย่างราบรื่นขนาดนั้น!
แต่นางไม่รู้เลยว่า เพราะความจริงแล้วเชียงหว่านโจวไม่ได้สนใจกระบี่หลงหยวนนั่นเลยแม้แต่น้อย
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็คิดอยู่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น…นั่นคือเรื่องของฉู่หลิวเยว่
เขาสามารถสัมผัสได้ว่า ฉู่หลิวเยว่อยู่ในกองเพลิงสีทองนั่น ดังนั้นจึงได้แต่รออย่างใจเย็น
เพราะว่าฤทธิ์ของโอสถเม็ดที่สาม ทำให้ความเย็นในกายของเขาหายไปไม่น้อย จึงมีโอกาสที่จะเลื่อนขั้นระดับหกในตอนนั้นเอง!
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นเองในหลุมยุบก็มีระลอกคลื่นพวยพุ่งออกมาอย่างแรง!
การเคลื่อนไหวนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
โฉวติ่งก็ลอยตัวขึ้นบนท้องฟ้าอย่างไม่ลังเล แล้วมองไปยังหลุมยุบ!
อย่างใดก็ตามสิ่งที่เขามองเห็นก็ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก
“ปะ..เป็นไปได้อย่างใด?”
เปลวเพลิงสีทองที่ลุกท่วมอยู่ในหลุมยุบนั้น คาดไม่ถึงว่ามันจะดูดกลับขึ้นเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
เหมือนกับว่ามีอันใดบางอย่างกำลังกลืนกินเพลิงพวกนั้นลงไป!
แต่ตอนนั้นสายฟ้าสายสุดท้ายก็ยังไม่ผ่าลงมาเสียที
…
ท้องพระโรงเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา
ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามสมบัติก็เริ่มฟุ้งกระจาย ไข่มุกก็กลิ้งออกไปจนทั่ว ภูเขาหยกก็สั่นไหวอย่างรุนแรง!
ไข่มุกธาราแตกกระจายอย่างไร้เสียง ตอนนั้นเองลำแสงนับพันสายก็กระจายออกมา ลำแสงระยิบระยับสว่างแสบตามาก จนฉู่หลิวเยว่เกือบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว
มันเกือบจะสามารถบดขยี้แรงกดดันได้แล้ว!
อินทรีสามตามองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ
คาดไม่ถึงว่าพลังแห่งสวรรค์ที่อยู่ในร่างกายของฉู่หลิวเยว่นั้นจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!?
แม้ว่ามันจะเป็นฝ่ายแนะนำให้ฉู่หลิวเยว่ใช้พลังแห่งสวรรค์จัดการ แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้เสียเท่าไร
จะพูดไปแล้ว ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงนักรบที่ยังไม่ขึ้นระดับสี่ด้วยซ้ำ แม้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนางจะเทียบเท่าระดับห้าแล้วก็ตาม แต่จะใช้ทะลวงค่ายกลระดับเก้านั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
แต่ว่าพลังแห่งสวรรค์ของนางในตอนนี้ กลับอยู่เหนือชั้นกว่าค่ายกลนี้!
เพียงแค่พลังแห่งสวรรค์ในร่างกายของนางอย่างเดียว น่าจะไม่มีทางทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้แน่นอน…
เป็นเพราะไข่มุกธารา!
ภายในไข่มุกธารานั่น ซ่อนพลังและสมดุลของพลังแห่งสวรรค์เอาไว้
ตอนนั้นเองอินทรีสามตาก็รู้สึกตกใจกับความคิดนี้อย่างมาก!
มันเงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้ง แต่เห็นเพียงไข่มุกธาราเม็ดนั้น กำลังกระจายตัวเองหยดน้ำมากมายนับไม่ถ้วน และตกไปบนทุกส่วนของค่ายกลแห่งนั้น!
ค่ายกลนั้นสลายจนไม่สามารถย้อนกลับเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว! มันได้กลายเป็นดวงดาวแล้วกระจายตัวออกไปจนทั่วพื้นที่แห่งนี้!
หลังจากที่ลำแสงนั้นถูกทำลายไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็รีบร่ายคาถาออกมา!
เพลิงแห่งกรรมสีโปร่งแสงสายหนึ่ง ก็ลอยออกมาจากหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็พุ่งตรงไปหาโครงกระดูกครึ่งร่างนั้นทันที!
โครงกระดูกขนาดใหญ่ก็ถูกห่อหุ้มเอาไว้!
ตอนนั้นเองเพลิงแห่งกรรมสีโปร่งแสงก็ยกโครงกระดูกครึ่งท่อนขึ้นมาอย่างช้าๆ!
ทันใดนั้นเองที่รอบข้างก็มีเพลิงสีทองพวยพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน และพุ่งไปอย่างโครงกระดูกนั้นอย่างบ้าคลั่ง!
ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกตกใจอย่างมาก
อินทรีสามตาก็รีบพูดขึ้นมาเสียงเรียบว่า
“นั่นคือพลังของไท่ซวีเฟิ่งหลง ก่อนหน้านี้มันสัมผัสได้ว่ากระบี่หลงหยวนกำลังจะตื่นขึ้นมา ดังนั้นพลังเหล่านี้จึงแผ่กระจายออกไปโดยรอบ เพราะอยากหลุดพ้นจากพันธนาการนั้น แต่ตอนนี้เจ้ากำลังจะเอาร่างของมันไป พลังทั้งหมดนั้นจึงไหลกลับมา”
“นี่เป็นเพียงโครงกระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลง หรือว่ายังมีจิตวิญญาณของเขาอยู่?” ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นอย่างสงสัย
“ไม่ใช่หรอก นี่เป็นเพียงจิตสุดท้ายของไท่ซวีเฟิ่งหลงเท่านั้น”
หากปกติแล้วถ้ามีจิตวิญญาณของไท่ซวีเฟิ่งหลงอยู่จริงๆ จะไม่มีทางเป็นแบบนี้หรอก
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าใจอยู่เล็กน้อย
อสูรศักดิ์สิทธิ์ในบรรพกาลนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ตายไปตั้งนานแล้ว เหลือไว้เพียงกระดูก แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีความคิดที่แข็งแกร่งเช่นนี้
ไม่รู้ว่าหากไท่ซวีเฟิ่งหลงยังมีชีวิตอยู่ เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน…
เมื่อเปลวเพลิงสีทองเหล่านั้นพวยพุ่งออกมา โครงกระดูกเหล่านั้นก็ดูเปล่งประกายแวววาวอย่างมาก
หลังจากเปลวเพลิงสีทองหายไปจากโครงกระดูก ในที่สุดหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถกลืนมันลงไปได้แล้ว
หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เป็นแก้วโปร่งใส สามารถเห็นโครงกระดูกที่หล่นไปอยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน!
ในขณะเดียวกันค่ายกลก็ค่อยๆ จางหายไป หยดน้ำเล็กๆ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็ได้รวมตัวเป็นไข่มุกธารา มันส่องสว่างเปล่งประกายเล็กน้อย จากนั้นก็กลับเข้าไปในร่างกายของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ลุกขึ้นยืน โบกมือเบาๆ แล้วเรียกหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ให้กลับไป
แต่ทว่าหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์กลับอยู่นิ่งอยู่กลางอากาศ ไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วลองอีกครั้ง
หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ขยับเช่นเดิม
ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาก
ในตอนนั้นเอง จุดกึ่งกลางของท้องพระโรง ก็มีภาพมายาของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา
“เอาของของข้าไป แล้วจะจากไปง่ายๆ เช่นนั้นหรือ?”
น้ำเสียงของชายคนนั้นแหบพร่าอย่างมาก!
คำพูดแต่ละคำของเขาเหมือนกับสายฟ้าที่ร้องก้องขึ้นในหู! ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวขึ้น!
อวัยวะภายในของฉู่หลิวเยว่โดนบีบรัดจากพลังที่มองไม่เห็นเหล่านี้! มันเจ็บจนพูดไม่ออกเลย!
นางได้กลิ่นคาวเลือดหนักมาก ทันใดนั้นก็พุ่งมาที่ลำคอของนาง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการนั้น คือชีวิตของนาง!
คนผู้นี้…คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่นางเคยเจอ
ผู้ชายคนนั้นแบมือขึ้น หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว แล้วตกลงที่กลางฝ่ามือของเขา!