ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 145 ไว้ชีวิต
หยดน้ำทะลุผ่านช่องท้องของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาอย่างรวดเร็ว!
ถึงแม้จะเป็นหยดเล็กๆ ทว่าพลังนั้นกลับรุนแรงนัก ซึ่งมันได้ทิ้งรูเลือดขนาดเท่ากำปั้นไว้บนร่างของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา!
เกล็ดแข็งแตกกระจาย เลือดเนื้อสาดกระเซ็น!
นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาไม่เคยเสียเปรียบเช่นนี้มาก่อน มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และยิ่งเกลียดแค้นฉู่หลิวเยว่มากขึ้น
สัตว์อสูรที่เฝ้าดูตรงตีนเขาต้องตื่นตระหนกเมื่อเห็นภาพนี้!
ในความคิดของพวกมัน นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด เป็นราชาที่พวกมันต้องยอมจำนน ทว่าในยามนี้ มันกลับบาดเจ็บเพราะเงื้อมมือมนุษย์!
เหล่าสัตว์อสูรต่างกระวนกระวาย
ในพื้นที่นอกสุด สัตว์อสูรเริ่มล่าถอยอย่างลังเล
พวกมันล้วนมีสติปัญญา เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกมันรู้ว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ง่ายที่จะลงมือ
เมื่อครุ่นคิดพิจารณาแล้ว อยู่ห่างๆ ชั่วครู่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า
และแน่นอนว่าสัตว์อสูรส่วนใหญ่ยังอยู่ปกป้องที่นี่ และเฝ้าดูนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาบนท้องฟ้าอย่างใกล้ชิด
เมื่อนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาเห็นภาพเหล่านั้น มันก็ยิ่งหงุดหงิด
มันเป็นผู้นำในบรรพตวั่นหลิงมาหลายปี ทว่าตอนนี้สถานะของมันกำลังพังทลายเพราะฉู่หลิวเยว่เพียงผู้เดียว!
หากวันนี้เขาแพ้ฉู่หลิวเยว่ในที่สาธารณะ มันจะไม่เหลือศักดิ์ศรีอีกต่อไป!
ครั้นเมื่อคิดเช่นนั้น ความบ้าคลั่งจึงปรากฏในแววตาของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา จากนั้นมันจึงพุ่งเข้าหาฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง!
ตู้ม!
มันสะบัดหาง ทว่าฉู่หลิวเยว่หลบได้อย่างหวุดหวิด แต่หินที่ด้านหลังนางกลับแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนกรวดกระจัดกระจาย!
แม้ว่านางจะรอดจากการโจมตี ทว่าบาดแผลที่อยู่บนร่างกายกลับเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ
ฉู่หลิวเย่ก้มลงมองไหล่ซ้ายของตนเอง
อาการบาดเจ็บอื่นๆ ไม่สำคัญ ที่เป็นปัญหาคือไหล่ของนางกระแทกเข้ากับหิน กระดูกไหล่หัก และเกรงว่าตอนนี้จะทนต่อไปได้อีกนาน
นางต้องหาทางหนีให้เร็วที่สุด!
ครั้นเมื่อคิดเช่นนั้น นางจึงหลบไปอีกด้านหนึ่ง
นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง
ทุกที่ที่ฉู่หลิวเยว่ผ่านไป มีความยุ่งเหยิงอยู่ด้านหลัง!
ปัง!
ทันใดนั้นเกิดเสียงดังสนั่น
สิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังนางหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง นางกลับเห็นบาดแผลที่ท้องของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่ามันถูกโจมตีอีกครั้ง ในตอนนี้มันขดตัวด้วยความเจ็บปวด
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
นี่…มันคือพลังของหยดน้ำ!
นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด พลังแห่งความโกลาหลบดขยี้ก้อนหินโดยรอบจนแหลกละเอียด!
ตอนนี้คือโอกาสหลบหนี!
ฉู่หลิงเยว่หันหลังกลับ และเดินออกไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นกลับรู้สึกว่ามีมือยื่นออกมาข้างๆ!
นางหันกลับไปในทันที
สายตาของนางแหลมคมราวกับกริช ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยุดการเคลื่อนไหวอย่างขี้ขลาด
ฉู่หลิวเยว่ได้เห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน
“กู้หมิงจู!”
ในขณะนี้ร่างกายของกู้หมิงจูเต็มไปด้วยคราบเลือดคราบสกปรก ใบหน้าเหมือนมีอะไรขีดข่วน ผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าตื่นตระหนก
นางจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ พลางพูดอย่างร้อนรน “ฉู่หลิวเยว่ ฉู่หลิวเยว่ช่วยข้าด้วย! เจ้าพาข้าไปด้วย!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่พูดอะไร เพียงแต่กวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า และเดาว่านางเจอสิ่งใดมา
นางหันหลังกลับ พร้อมทั้งเดินจากไปอย่างไร้ความรู้สึก
กู้หมิงจูตื่นตระหนก นางไม่คิดว่าฉู่หลิวเยว่จะใจร้ายถึงเพียงนี้
“ฉู่หลิวเยว่! เจ้าอย่าทิ้งข้าอย่างใจดำเช่นนี้! ข้ากับเจ้าคือสหายที่มีอาจารย์เดียวกัน หากเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ในภายภาคหน้า…”
ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นหูทวนลมและเดินต่อไปไม่หยุด
ในตอนนี้แค่นางรักษาชีวิตตัวเองยังเป็นเรื่องยาก หากนางพากู้หมิงจูไปด้วย นางต้องตายเป็นแน่!
หากต้องทำให้นางเดือดร้อน เหตุใดนางจะต้องพาไปด้วย!
กู้หมิงจูหันกลับไปมองนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาที่ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด พลางกัดริมฝีปาก
แม้ว่านางจะไม่ยอมรับ แต่ก็รู้ดีว่าในยามนี้นางต้องตามฉู่หลิวเย่เท่านั้นจึงจะมีโอกาสรอด
นางค้นหามาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่พบผลึกแก้วใสสีดำลึกลับที่เป็นไม้ตายของนาง จึงจำต้องลงจากเขา โดยที่นางคิดว่าตนอาจจะโชคดีที่สามารถหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรเหล่านั้นและออกมาอย่างปลอดภัย
แต่คิดไม่ถึงว่านางจะเดินมาได้เพียงไม่นาน กลับถูกพวกมันค้นพบและเกือบตายในเงื้อมมือของพวกมัน!
ด้วยความสิ้นหวัง นางจึงเลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง และนางก็ไม่พบสัตว์อสูรอีกเลย
น่าจะเป็นผลจากการควบคุมของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา
ถึงแม้พวกมันจะไม่ขึ้นมา แต่ก็ไม่จากไปไหน และขวางทางลงเขาเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าฉู่หลิวเยว่ทำอย่างไร จึงสามารถหยุดยั้งการโจมตีของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาได้ นางจำเป็นต้องหนีไปกับฉู่หลิวเยว่!
เมื่อคิดเช่นนั้น นางจึงรีบเดินตามไป ทันใดนั้นฉู่หลิวเย่กลับหันกลับมาพลางมองนางอย่างเย็นชา
“แม้ว่าตอนนี้ข้าจะบาดเจ็บ แต่หากต้องการจะฆ่าเจ้า ข้าก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หากเจ้ายังอยากมีชีวิตที่ยืนยาว ดีที่สุดคืออย่ายั่วโมโหข้า”
กู้หมิงจูตกใจกับน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่เปิดเผยของนาง
นางใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนอง ฉู่หลิวเยว่กำลังข่มขู่นาง!
ในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจความรู้สึกของสหายที่มีอาจารย์คนเดียวกันเท่าไหร่นัก นางจึงพูดออกมาเช่นนั้น!
“ฉู่หลิวเยว่! เจ้ากำลังบังคับให้ข้าไปตายใช่หรือไม่!?” กู้หมิงจูตะโกนออกมาอย่างเหลือเชื่อ
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ยามที่เจ้านำหมีแผงคอทองคำมา เจ้าควรคิดถึงวันนี้”
เมื่อนางพูดจบ นางก็เดินจากไปอย่างไม่รีรอ
ความโกรธและความแค้นของกู้หมิงจูที่มีฉู่หลิวเยว่เพิ่มทวีคูณขึ้นในตอนนี้
ดีมากฉู่หลิวเย่!
เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่มีหนทางช่วยเหลือ ทว่ากลับยังใจดำ และยังต้องการจะฆ่านาง!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าโทษนางที่ผิดศีลธรรม
ฉู่หลิวเยว่เพิ่งเดินไปเพียงไม่นาน ทันใดนั้นกลับรู้สึกถึงลมเย็นที่อยู่ด้านหลังนาง!
นางหลบอย่างรวดเร็ว และก้อนหินหนึ่งก้อนก็ลอยผ่านหูนางไป!
ก้อนหินนั่นคือหินที่แตกเมื่อสักครู่นี้ ขอบและมุมนั้นแหลมคม สิ่งที่สำคัญก็คือหินนั้นพุ่งตรงไปยังแผลที่หลังของนาง!
หากนางหลบไม่ทัน หินนั้นอาจจะกระทบกับกระดูกไหล่ที่แตกของนาง!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วพลางหันกลับมา “กู้หมิงจู เจ้า…”
ในขณะที่นางยังไม่ทันพูดจบ ฉับพลันกู้หมิงจูก็กระโจนเข้ามาหานางทันที!
ฉู่หลิวเยว่ยกขาขึ้น พร้อมทั้งเตะหน้าอกของนางอย่างดุเดือด!
กู้หมิงจูกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง และกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ทว่านางกลับกัดฟันและคลานเข้าไปกอดขาฉู่หลิวเยว่ไว้แน่น แล้วหันกลับมากรีดร้องใส่นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาที่อยู่ด้านหลัง “ข้า ข้าช่วยเจ้าขัดขวางนาง! ได้โปรดจงไว้ชีวิตข้าได้หรือไม่!? เจ้าต้องการเพียงแค่ชีวิตนางใช่หรือไม่? เจ้าอย่าฆ่าข้าได้หรือไม่?”
ในตอนนี้แสงเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในแววตาของฉู่หลิวเยว่!