ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 166 ผ่าน
เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์สีดำและใบขู่ซิ่งมีความทนทานต่อกัน หลังจากเช็ดด้วยใบขู่ซิ่งแล้วจะเคลือบสารทิ้งไว้เป็นชั้นบางๆ
และถึงแม้ว่าพู่กันจะไม่มีน้ำหมึก แต่มันก็ทำมาจากขนหมาป่าหิมะซึ่งสามารถทิ้งรอยไว้ได้อย่างง่ายดาย
วิธีการนี้ช่างง่ายดายยิ่งนัก แต่สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ จากเรื่องง่ายก็กลายเป็นเรื่องยากได้
พวกของชุยเหยาก็แค่อยากจะทำให้ฉู่หลิวเยว่ลำบากและอับอายสักครั้งเท่านั้น
ฉู่หลิวเยว่บอกว่าของพังแล้ว ตอนที่นางขออันใหม่ พวกเขาสองคนยังแอบหัวเราะสะใจคิดว่าแกล้งนางได้สำเร็จอยู่เลย
ทว่าเวลานี้กลับเห็นตัวอักษรปรากฏขึ้นบนแผ่นไม้สีดำ ทั้งสองจึงหัวเราะไม่ออกอีก
รอยยิ้มบนใบหน้าของชุยเหยาไม่ได้จางหายไป แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ ซึ่งทำให้เขาดูแข็งทื่อและประหลาดพิกล
ในขณะที่ม่อเหลียงก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้สักเท่าไหร่
ดูเหมือนว่าเขาจะได้สติกลับมาแล้ว ฉู่หลิงเยว่จงใจชัด!
นางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้มาโดยตลอด!
พวกเขาสองคนคิดว่าได้แกล้งนางแล้ว ความเป็นจริงกลับกลายเป็นพวกเขาที่โดนนางตลบหลังต่างหาก!
เกรงว่าเมื่อครู่นี้ตอนที่พวกเขากำลังหัวเราะนาง นางต้องกำลังสาแก่ใจอยู่แน่ๆ!
ฉู่หลิวเยว่เขียนไปได้หนึ่งบรรทัดก็เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้เสียหายนี่นา พวกเจ้าดูสิ เขียนได้ลื่นไหลมากเลย”
ชุยเหยามีใบหน้าเหยเก ราวกับว่าเขาได้กลืนแมลงวันลงคอไป!
ม่อเหลียงชี้ฉู่หลิวเยว่และพยายามระงับโทสะ
“เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขียนมันอย่างไร แต่เจ้ากลับแกล้งพวกข้าอย่างนั้นหรือ!”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“ก็ใช่น่ะสิ”
นางพูดด้วยท่าทางสบายๆ แล้วเขียนต่อไป ส่วนพวกเขาสองคนก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไปทันที
ฉะ…ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ ช่างจองหองเกินไปแล้ว!
“เจ้า! เจ้าบังอาจนัก! ฉู่หลิวเยว่ เจ้าควรจะรู้ว่าที่นี่คือที่ใด ถึงได้กล้าหลอกลวงอย่างเปิดเผยเช่นนี้!” ม่อเหลียงดุด่าด้วยความโกรธเกรี้ยว
ฉู่หลิวเยว่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“ไม่ใช่เพราะว่าเมื่อครู่นี้ศิษย์พี่ทั้งสองไม่ยอมให้ข้าผ่านเข้าไปก่อนหรือ ข้าก็แค่มาเอายาเท่านั้น พวกเจ้าก็มาขัดขวาง ข้าก็แค่อยากเอายาไปรักษาผู้อื่นเท่านั้น มันเกินกว่าเหตุอย่างนั้นหรือ”
คำพูดเพียงแค่ประโยคเดียวของฉู่หลิวเยว่ทำให้สองคนนั้นถึงกับจุกที่ลำคอ
ใช่!
มันเป็นความจริงที่พวกเขาเป็นฝ่ายที่ทำให้นางลำบากก่อน แต่นี่เป็นไปตามธรรมเนียม!
นอกจากหมอเทวดาแล้ว คนอื่นๆ ที่มาที่นี่พวกเขาถือตามธรรมเนียมมาตลอด และฉู่หลิวเยว่ก็ไม่มีข้อยกเว้น!
ก็แค่…ก็แค่คิดไม่ถึงว่าจะเตะโดนเหล็กเข้า ไม่เพียงแต่แกล้งฉู่หลิวเยว่ไม่สำเร็จ แต่พวกเขากลับกลายเป็นตัวตลกเองอีกด้วย
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงและเขียนรายการยาต่อไป
“ศิษย์พี่ทั้งสองโปรดรอก่อน ข้ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเขียนลงไปล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นพวกชุยเหยาก็หันไปมองทันที แล้วก็เห็นว่าฉู่หลิวเยว่ตวัดปลายพู่กันเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นราวกับว่านางไม่จำเป็นต้องคิดก่อนเขียนเลย
ในช่วงเวลาอันสั้น แผ่นไม้สีดำก็เต็มไปด้วยตัวอักษรครึ่งหนึ่งแล้ว!
แล้วฉู่หลิวเยว่ก็ไม่มีท่าทีจะหยุดเขียนเลยสักนิด!
ตอนนั้นเองที่ทั้งสองตระหนักได้ว่า ดูเหมือนเรื่องราวจะเหนือการควบคุมไปแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่ได้เตรียมการมาอย่างดี!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ นางมีกระดานไม้สีดำถึงสามแผ่นอยู่ในมือ!
ม่อเหลียงลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“ฉู่หลิวเยว่ นักเรียนแต่ละคนสามารถกรอกรายละเอียดได้ครั้งละหนึ่งแผ่นเท่านั้น เจ้ารีบคืนไม้เถาวัลย์สีดำอีกสองแผ่นที่เหลือมาให้ข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่แม้แต่กระทั่งเงยหน้าขึ้นมา
“ศิษย์พี่เป็นคนให้มันกับข้าเอง คงไม่มีเหตุผลที่เขียนลงไปไม่ได้หรอกกระมัง”
บัดนี้มีเหงื่อเย็นไหลออกจากหน้าผากของม่อเหลียง
“ข้าไม่ให้เจ้าเขียนแล้ว!”
ถ้าหากว่าอาจารย์รู้เข้าว่าเข้าให้เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์สีดำกับฉู่หลิวเยว่ถึงสามแผ่น เขาต้องโดนทำโทษแน่ๆ!
ขณะนี้ฉู่หลิวเยว่ได้เขียนเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์สีดำแผ่นแรกเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนางหยิบอีกสองอันที่เหลือชี้ไปทางสองคนนั้นพร้อมกับมอบรอยยิ้มอันแสนสดใส
“ศิษย์พี่ช่างมีน้ำใจ ข้าไม่กล้าปฏิเสธจริงๆ”
หลังจากพูดเสร็จแล้ว นางจึงเขียนอักษรลงบนเถาวัลย์สีดำที่ว่างเปล่าอีกสองอัน!
ล้อเล่น!
เพื่อต้องการช่วยเลี่ยวจงซูชะงักการลุกลามของพิษ จำเป็นต้องใช้ตัวยาจำนวนมากอยู่แล้ว ประกอบกับที่สองคนนั้นจงใจแกล้งนาง ถ้าหากนางไม่ตอบแทนตามธรรมเนียมให้สาสม คงไม่เหมาะสมหรอกกระมัง
เมื่อเห็นการกระทำของฉู่หลิวเยว่ หัวใจของม่อเหลียงก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็เขียนเต็มกระดานไม้สีดำทั้งสามแผ่น จากนั้นนางก็ยื่นไปให้พวกเขา
“ศิษย์พี่ นี่คือยาที่ข้าต้องการในครั้งนี้ รบกวนท่านส่งไปให้อาจารย์พิจารณาด้วย”
ม่อเหลียงนิ่งค้างไปทั้งร่าง
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ ชุยเหยาก็หงุดหงิดและคว้าสิ่งนั้นออกไป
“ละโมบโลภมาก! ข้าจะดูสิว่าอาจารย์จะอนุมัติให้เจ้าหรือไม่!”
หลังจากพูดจบเขาก็เปิดประตูและเดินเข้าไปข้างใน
ปัง!
ประตูถูกปิดอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่ก้าวถอยหลังและรอคอยอย่างอดทน
ม่อเหลียงสะดุ้งเพราะเสียงปิดประตู ดังนั้นจึงทำให้เขาได้สติกลับมาทันที
ใช่! ชุยเหยาพูดถูก ฉู่หลิวเยว่จะเขียนรายการมากมายเพียงใดไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ตราบใดที่อาจารย์ไม่เห็นด้วย นางก็จะเสียเวลาเขียนโดยเปล่าประโยชน์!
นางไม่ใช่คนของฝ่ายหมอเทวดา ทั้งยังเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ถ้าหากว่ามาขอแค่ยาธรรมดาทั่วไปเพียงหนึ่งถึงสองชนิด บางทีอาจารย์อาจจะให้นางไปก็ได้
แต่นางเพิ่งจะมาครั้งแรกก็โลภมากอ้าปากกว้างเป็นสิงโตเสียแล้ว รายการยานั่นต้องไม่ผ่านการอนุญาตแน่นอน!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
…
เวลาที่รอคอยนั้นมักจะยาวนานเสมอ
ม่อเหลียงมองไปที่ประตูอยู่หลายครั้ง แต่ชุยเหยาก็ไม่ออกมาสักที
ในใจของเขาจึงยิ่งเกิดความรู้สึกกระสับกระส่าย
ไม่ถูกต้อง…ถ้าหากอาจารย์ได้เห็นรายการยานั้นล่ะก็ จะต้องรีบปฏิเสธทันทีแน่นอน จะว่าไปชุยเหยาก็เข้าไปนานเพียงนี้ ก็น่าจะออกมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกต้อง แต่เหตุใดตอนนี้ถึงยังเงียบกริบ
เขาหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ แต่เห็นว่านางกำลังยืนเอามือไพล่หลังด้วยท่าทางดูสบายๆ ราวกับไม่กังวลเลยว่ารายการที่เขียนไปนั้นจะไม่ผ่าน
สิ่งนี้ทำให้เขารำคาญมากยิ่งขึ้นและขมวดคิ้วเป็นปม
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง จากนั้นชุยเหยาก็เดินออกมาสักที!
อีกทั้งในมือของเขา นอกจากจะมีเถาวัลย์สีดำที่ลบรอยตัวอักษรออกไปแล้ว เขาก็ไม่ได้หยิบยาอะไรออกมาทั้งสิ้น!
นี่หมายความว่าไม่ผ่าน!
ม่อเหลียงกระหยิ่มยิ้ม แล้วรีบเดินขึ้นไปข้างหน้า
“ทำไมถึงได้นานนักเล่า อาจารย์ยุ่งอยู่ใช่หรือไม่ ก็เลยปฏิเสธช้าไป”
ท่าทางของชุยเหยาดูแปลกๆ เขาส่งเถาวัลย์สีดำคืนให้ม่อเหลียงและเดินไปที่อีกด้านหนึ่งในตำแหน่งของตน แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
ม่อเหลียงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “เกิดอะไรขึ้น”
ชุยเหยามองไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาที่ซับซ้อนและพยายามเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“รายการยาของนาง ผ่านแล้ว”
“เป็นไปได้อย่างไร!”
ม่อเหลียงกระโดดขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ชุยเหยานวดคลึงขมับของตนเอง
“อาจารย์จั่วหรงบอกว่าของเยอะเกินไป บางอย่างก็เก็บเอาไว้ที่ไกลๆ ต้องใช้เวลานานโขกว่าจะเตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพ แล้วให้พวกเรารอก่อน ประเดี๋ยวเขาจะเอาของออกมาด้วยตนเองอีกที”