ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 218 โต้กลับ!
ดัชนีที่ชี้ลงมาบนร่างของฉู่หลิวเยว่นั้นไม่ทำให้นางตายหรือได้รับบาดเจ็บ!
ฉู่หลิวเยว่จ้องไปที่ดัชนีสีฟ้านั้นที่กำลังเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ นางรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างทั้งสองคนนั้นมากเกินไป กลอุบายและกลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ในเวลานี้ เช่นนั้น นางก็ต้องพยายามทำเต็มที่! ถ้าหากต้องการที่จะชนะ ดังนั้น…นางพลิกข้อมือของตัวเองแล้วหยิบของสองชิ้นออกจากถุงเฉียนคุน วินาทีนั้นดัชนีจะมาถึงตัวนางแล้ว มันกําลังจะบดขยี้นางอย่างสมบูรณ์!
ด้านนอกของสนามช่างเงียบสงบ ทุกสายตาจับจ้องมาที่แห่งนี้!
ฉู่หนิงลุกขึ้นยืนอย่างกระวนกระวายใจ ถ้าซือถูจื่อเยว่กล้าที่จะฆ่าเยว่เอ๋อร์ ฉู่หนิงจะขึ้นไปหยุดเขา!
ซุนจ้งเหยียนก็ขมวดคิ้วอย่างกังวลเช่นกัน เขาต้องเตรียมการไว้ตลอดหากเกิดอะไรขึ้น ไม่สำคัญว่าฉู่หลิวเยว่จะแพ้การประลองนี้ แต่หากมีเหตุร้ายแรงตามมาก็ไม่คุ้มกับการสูญเสียนอกจากนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉู่หลิวเยว่ เขาจะอธิบายให้อาจารย์อาของเขาฟังได้อย่างไร?
โว้ว!
เปลวไฟที่ลุกโชนบนนิ้วขนาดใหญ่นั้นก็บินออกไปแล้วล้อมรอบตัวของฉู่หลิวเยว่อย่างสมบูรณ์ เสียงอุทานมาจากฝูงชน
‘จบเห่! ฉู่หลิวเยว่แพ้แน่!’
‘นั้นมันมากกว่าการเป็นผู้แพ้? ดัชนีเปลวเพลิงน้ำแข็งนั้นคือหนึ่งในไพ่เด็ดของซือถูจื่อเยว่ ซึ่งทรงพลังมาก ข้าได้ยินมาว่ามีคนเคยต้องการจะลอบสังหารเขา แต่สุดท้ายก็ถูกซือถูจื่อเยว่ฆ่าและไม่มีแม้แต่กระดูกเหลืออยู่ เปลวไฟนี้เกรงว่าฉู่หลิวเยว่ไม่สามารถทนมันไหว…’
‘ถ้านางยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้ บางทีนางอาจทรมานน้อยลง…ซือถูจื่อเยว่เขาจะทำอะไร?’
ในสนามการประลอง ซือถูจื่อเยว่กำลังใช้ดัชนีเปลวเพลิงน้ำแข็งอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง!
บู้ม…เสียงระเบิดดังขึ้น!
เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำก็ลุกโชนออกมาทันที!
ร่างของฉู่หลิวเยว่ก็หายไป! ภายใต้ดัชนีเปลวเพลิงน้ำแข็งนั้นมองเห็นได้ชัดเจนบนพื้นหยกขาว
และพื้นดินโดยรอบของเปลวเพลิงที่ล้อมรอบฉู่หลิวเยว่กลายเป็นสีดำไหม้เกรียม!
เขาจงใจที่จะให้ฉู่หลิวเยว่ตายจริงหรือ!
ซุนจ้งเหยียนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า
“ซือถูจื่อเยว่! เจ้าจะมาฆ่าคนในสนามแห่งนี้ไม่ได้!” ก่อนที่ซือถูจื่อเยว่จะพูดเฉิงหันก็รีบพูดออกมาอย่างไร้ความกังวล
“ท่านจะรีบไปไหน? ฉู่หลิวเยว่ยังถือป้ายไม้ของงานสมาคมเยาวชนอยู่ หากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ป้ายไม้จะแตกเพื่อแจ้งเตือนโดยทันที แต่ตอนนี้ก็ยังดีอยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านกังวลอะไรขนาดนั้น?”
สีหน้าของซุนจ้งเหยียนที่ซีดเซียวอย่างกังวล แน่นอนว่าเขารู้ว่าฉู่หลิวเยว่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ แต่ถ้าเขารอจนกว่าป้ายไม้จะแตกจริงๆ มันก็สายเกินไป!
หญิงสาวคนนั้นเป็นลูกศิษย์คนเดียวของท่านอาจารย์อามาหลายปีแล้ว นางยังเป็นอัจฉริยะที่มองโลกในแง่ดี ถ้าเกิดนางตายเขาจะไม่ยอมวางมือเรื่องนี้อย่างแน่นอน!
“เฉิงหัน! เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้าก็คงไม่สามารถเอาอะไรมาแลกนางได้”
เฉิงหันไม่คิดเช่นนั้น แต่เขากลับหัวเราะแทนแล้วพูดว่า
“เมื่อวานนี้ท่านกล่าวว่าเด็กๆ นั้นมีจิตสำนึกที่ดีอย่างนั้นไม่ใช่หรือ ตั้งแต่ข้าเฝ้าดูซือถูจื่อเยว่โตขึ้น เขาสุขุมมาตลอดและจะไม่ทำอะไรเกินเลย”
ซุนจ้งเหยียนรู้ดีว่าสิ่งที่เฉิงหันเอ่ยออกมามันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องไร้สาระ ซุนจ้งเหยียนจะไม่สนใจเขาอีกและรีบหาทางที่จะเข้าไปทำอะไรสักอย่าง
เฉิงหันก็ลุกขึ้น สีหน้าของเขาเย็นชาเล็กน้อย
“ท่านพี่ ท่านจะฝ่าฝืนกฎก่อนงั้นหรือ?”
ซุนจ้งเหยียนไม่ได้ตอบกลับแม้แต่คำเดียวแต่เขากำลังจะลงมือทำแทน!
ฉู่หลิวเยว่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย เกรงว่านั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี!
ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่หนิงกระโดดมาจากจุดของผู้ชม เพื่อมุ่งหน้าไปที่สนาม อย่างไรก็ตามในขณะนี้สถานการณ์ในสนามได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน!
ด้วยตำแหน่งของฉู่หลิวเยว่ที่เป็นศูนย์กลาง ลำแสงสีเงินหลายอันก็ปรากฏขึ้น
หึ่ง!
มีเสียงหึ่งแปลกๆ ดังขึ้น!
ทันใดนั้นก็แผ่กระจายไปทั่วสนามจยาหนาน!
ซุนจ้งเหยียนเงยหน้าขึ้นมองทันที ส่วนฉู่หนิงก็หยุดทันที!
ลำแสงสีเงินนั้นยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมันกำลังเกี่ยวพันกัน
คิ้วของซือถูจื่อเยว่ค่อยๆ ขมวดขึ้น พร้อมกับความกระวนกระวายภายในใจเล็กน้อย ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าเขาจะรับรู้ได้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น…
หึ่ง!
เสียงหึ่งๆ ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ!
และลำแสงที่พันกันนั้นก็กลายเป็นรูปร่างในที่สุด!
ฝูอวิ๋นซานลุกยืนขึ้นด้วยความตกใจ
“ค่ายกลระดับสี่!”
การบีบบังคับเช่นนั้น ลมหายใจเช่นนั้นและลวดลายที่สลับซับซ้อนนั้น…ในฐานะปรมาจารย์ผู้ลึกลับ ซุนจ้งเหยียนได้ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างในขณะที่ลำแสงเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้น
ในขณะนี้ เมื่อเห็นค่ายกลขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนเวทีประลอง หัวใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ นั่นคือค่ายกลระดับสี่อย่างแท้จริง!
จู่ๆ ก็มีเสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน!
‘ค่ายกลพุทธสัตตบุษย์!’
ด้านบนค่ายกลนั้น ลำแสงเหล่านี้พันกันราวกับดอกบัวบานอย่างสวยงาม!
บู้ม บู้ม บู้ม!
ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวกระจายออกมาจากด้านบนค่ายกล! ในขณะเดียวกัน ดัชนีเปลวเพลิงน้ำแข็งที่เข้าใกล้ฉู่หลิวเยว่ก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง!
เปลวเพลิงที่ห่อหุ้มนางไว้ ราวกับประกายไฟนั้นตกลงมา กระจัดกระจายเต็มไปหมด รูปร่างผอมเพรียวนั้นได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาของทุกคน!
เสียงการหายใจของฝูงชนดังอย่างชัดเจน ฉู่หลิวเยว่นางยังไม่ตาย แม้แต่ร่างกายของนางก็ยังไม่มีการเสียหายแม้แต่น้อย ในมือของนางถือผนึกสีดำขนาดเท่าฝ่ามือ ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมาจากผนึกนั้น!
‘มันคือค่ายกลของผลึกดำ!’
ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนอุทานขึ้น หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ของความตะลึง เกือบทุกคนมีสีหน้าที่ถูกปกคลุมด้วยความตกใจ!
เป็นเรื่องปกติที่ปรมาจารย์ลึกลับจะเปิดใช้ค่ายกลของผลึกดำที่มหัศจรรย์นั้นได้ แต่…ฉู่หลิวเยว่เป็นแค่ค่ายกลระดับหนึ่ง นางเปิดใช้ค่ายกลของผลึกดำระดับสี่ได้อย่างไร? ซือถูซิงเฉินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ แล้วมองไปยังมืออีกข้างของฉู่หลิวเยว่ เป็นลูกแก้วอัญมณีกลมที่ถูกแกะสลักขนาดเล็ก!
นั้นคือ…พรมแดนไวฑูรยะ!