ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 221 ดอกหลิงเซียวที่ร่วงโรย
พลังสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากร่างของฉู่หลิวเยว่ ราวกับเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงอยู่ล้อมรอบตัวนาง!
ลมปราณในร่างกายของนางก็ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในเวลานี้เช่นกัน!
ฉู่หลิวเยว่เห็นว่าเหนือหยดน้ำดูเหมือนว่ามีมือที่มองไม่เห็นที่วาดเส้นที่สองบนนั้นอย่างต่อเนื่อง
ปัง!
ทันใดนั้นก็มีเสียงเล็กๆ ที่คมชัดดังขึ้นภายในจิตใจของนาง
บาดแผลที่เกิดขึ้นทั้งภายใน และภายนอกร่างกายของนางหายอย่างรวดเร็ว พลังดั้งเดิมในตันเถียนของนางมีมากกว่าเมื่อก่อน!
ช่วงเวลาเพียงครู่เดียว นางก็ลืมตาขึ้นทันที!
แสงสีแดงจางๆ ส่องผ่านดวงตาที่คมชัดของนาง
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับสอง!
นางมองที่ฝ่ามือของตนเอง รู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของนาง นางอดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากขึ้น ในที่สุดก็ก้าวข้าม หลังจากการรอคอยที่ยาวนาน ความพยายามก่อนหน้านี้ ก็ไม่สูญเปล่า!
ถึงแม้ว่า นางจะไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ วันนี้ถึงได้ก้าวข้ามผ่านได้แต่ ณ เวลานี้มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนางจริงๆ
เมื่อเห็นการก้าวข้ามของฉู่หลิวเยว่ ภายในและภายนอกสนามการประลองที่เงียบสงบแต่เดิม มีความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่ตวัดมือขึ้นเพื่อขจัดพรมแดนไวฑูรยะ นางเลิกคิ้วขึ้นมองไปที่ซือถูจื่อเยว่ซึ่งยืนอยู่ตรงข้าม แล้วยิ้มออกมา
“ขอโทษที่ให้รอนาน”
ซือถูจื่อเยว่มองไปที่ฉู่หลิวเยว่อย่างเงียบๆ ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว การก้าวข้ามของฉู่หลิวเยว่นี้ไม่ได้ใช้เวลามากนัก เพียงแค่เวลาหนึ่งเค่อเท่านั้นอย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางก้าวข้ามได้ นางก็แตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือลมปราณในร่างกายของนางนั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก นอกจากนี้อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่บนร่างกายของนางดูเหมือนจะได้รับการรักษาแล้วเนื่องจากการก้าวข้ามเมื่อครู่นี้
มันเป็นเพียงความก้าวข้ามจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งไปเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสอง เหตุใดฉู่หลิวเยว่ถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้…ซือถูจื่อเยว่ยกดาบหลิงเซียวขึ้นในมือ พลังน้ำแข็งสีฟ้าห่อหุ้มมันอย่างรวดเร็ว!
ลวดลายแปลกๆ ด้านบนกำลังปรากฏขึ้น “คราวนี้ เจ้าก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะชะลอการประลองนี้ใช่หรือไม่ ถึงเวลาจบสิ้นเสียที”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “บังเอิญข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”
ด้วยเหตุนี้นางจึงหยิบผลึกดำขึ้นมาอีกครั้ง!
การกระทำฉู่หลิวเยว่ไวเท่าความคิดพลังของนางก็กำลังหลั่งไหลออกมาเช่นกัน
หึ่งๆ!
เหนือค่ายกลของผลึกดำ เกิดแสงสว่างส่องประกายเจิดจ้า ทันใดนั้นลำแสงก็พุ่งออกมาอีกครั้ง ค่ายกลขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้เท้าของฉู่หลิวเยว่ ดอกบัวที่หรี่แสงแต่เดิมก็ค่อยๆ ผลิบานอีกครั้ง!
ซือถูจื่อเยว่แสดงท่าทีเยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าจะสามารถชนะข้าโดยใช้กระบวนท่าเดียวกันถึงสองครั้งงั้นหรือ”
ดาบหลิงเซียวในมือของเขาก็แยกออกทันที! “ดอกหลิงเซียวร่วงโรย!”
ด้วยเสียงที่คมชัดนี้ ลวดลายบนใบดาบก็ขยับ ทันใดนั้น ดอกหลิงเซียวขนาดเล็กก็บานสะพรั่งดอกหลิงเซียวค่อยๆ เคลื่อนไปตามร่องบนใบดาบ ทุกการเคลื่อนไหว ดอกหลิงเซียวจะเติบโตใหญ่ขึ้นทีละน้อย เมื่อมันเลื่อนไปที่ปลายดาบ ดอกหลิงเซียวเกือบจะมีขนาดเท่ากับโคมไฟ!
“ไป!”
ซือถูจื่อเยว่ส่งเสียงออกไปเบาๆ ดอกหลิงเซียวโบยบินอย่างแผ่วเบา ร่วงโรยไปทางฉู่หลิวเยว่เมื่อเทียบกับดอกบัวที่บานสะพรั่งที่เท้าของฉู่หลิวเยว่ ดอกหลิงเซียวนี้มีขนาดเล็กกว่ามากอย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดกล้าประมาทดอกหลิงเซียวนี้!
ดอกหลิงเซียวบินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และพื้นดินที่ดอกนั้นผ่านไปก็ค่อยๆ เกิดรอยร้าว!สามารถเห็นได้ชัดว่าพลังของมันแข็งแกร่งแค่ไหน!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง!
แม้ว่ามันจะยังอยู่ห่างออกไป แต่นางก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่มีอยู่ในนั้นอย่างชัดเจนแล้ว!
ความกดดันที่อธิบายไม่ได้นั้นเกือบทำให้นางตึงเครียด และหายใจลําบาก!
…
“ดอกหลิงเซียวร่วงโรยนั่นเป็นหนึ่งในสามทักษะที่ยอดเยี่ยมของดาบหลิงเซียวใช่หรือไม่ ซือถูจื่อเยว่แสดงจริงได้แล้ว”
“ดูเหมือนว่าเขากำลังจะก้าวข้ามเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับห้า และพลังดั้งเดิมในร่างกายของเขา นั้นมีเยอะมาก…”
“เขาที่เพิ่งจะอายุเพียงยี่สิบเอ็ดในปีนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ชั้นเรียนของเขายังอายุน้อยกว่าขององค์รัชทายาทด้วยซ้ำ แต่เขาอยู่ห่างจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับห้าเพียงหนึ่งก้าว ถ้าเขาก้าวข้ามไปได้ ข้าเกรงว่าเขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์สูงสุดระดับห้าที่อายุน้อยที่สุด!”
เมื่อเห็นดอกหลิงเซียวบนท้องฟ้า ทุกคนไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจได้ ต่างมีการแสดงความคิดเห็นกันมากมาย
องค์รัชทายาทผู้ซึ่งดูการประลองนี้อยู่เมื่อได้เห็นสิ่งนี้ สีหน้าของเขาดูเย็นชาขึ้นเล็กน้อย เขาเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นเย่าเฉิน แต่เมื่อเทียบกับซือถูจื่อเยว่ เขามักจะแย่กว่าเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองได้ประลองฝีมือกันหลายครั้ง แต่กลับเป็นเขาที่แพ้มากขึ้นและชนะน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานสมาคมเยาวชนปีที่แล้ว เขาเป็นผู้แพ้โดยสมบูรณ์
เขาคิดว่าหลังจากหนึ่งปีของการฝึกฝนนี้เขาจะสามารถไล่ตามซือถูจื่อเยว่ หรือแม้กระทั่งแซงหน้าซือถูจื่อเยว่ได้ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ช่องว่างระหว่างคนทั้งสองยิ่งกว้างขึ้นอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เช่นเดียวกับค่ายกลพุทธสัตตบุษย์ของฉู่หลิวเยว่ที่เพิ่งปลดปล่อย เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการมัน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เขายิ่งรู้สึกหดหู่ใจเขากัดกรามแน่น และปล่อยลมหายใจที่เย็นยะเยือก
…
ดาบหลิงเซียวกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากคนที่อยู่รอบข้างสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าไม่มีความตื่นตระหนกในสายตาของฉู่หลิวเยว่ นางละสายตาออกมามองไปยังผลึกดำในมืออย่างเงียบๆ
“จะชนะหรือแพ้ อยู่ที่มันนี่แหละ…” นางพึมพำเบาๆ จากนั้นนางก็เทพลังลงไปอย่างไม่ลังเล!
บูม!
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาเหนือค่ายกลของผลึกดำ
ซือถูจื่อเยว่เยาะเย้ยยิ่งกว่าเดิม
“ความตายอยู่ใกล้เจ้าแล้ว…” ทันใดนั้น รอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเขาก็หุบลงในทันใด แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ซือถูจื่อเยว่เห็นตรงเท้าของฉู่หลิวเยว่นั้นมีดอกบัวที่ค่อยๆ ผลิบาน มีลำธารนับไม่ถ้วนมารวมกัน แต่ในทันใดมันก็รวมตัวกันกลายเป็นกลีบดอกมากขึ้น ฉู่หลิวเยว่…นางเปิดใช้งานขั้นที่สองของดอกบัวบนค่ายกลของผลึกดำนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ด้วยพลังของนางเอง นางได้ปลดปล่อยพลังเต็มเปี่ยมของค่ายกลระดับสี่นี้
เมื่อมองดูดอกบัวที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งแรงกล้า ด้วยกลีบดอกก็ซ้อนทับกัน ภายในใจของซือถูจื่อเยว่รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันใด พลังของค่ายกลระดับสี่นี้ มิใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ขณะเดียวกันดอกหลิงเซียวได้โบยบินไปอยู่ต่อหน้าฉู่หลิวเยว่แล้ว มือของฉู่หลิวเยว่ก็ตวัดไปข้างหน้า
ทันใดนั้นดอกบัวก็เคลื่อนไปข้างหน้าตามความคิดของนาง มันเคลื่อนที่ไม่ได้เร็วนัก แต่ระยะห่างระหว่างดอกหลิงเซียวและฉู่หลิวเยว่นั้นอยู่ไม่ไกล ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานนักที่ดอกบัวนั้นได้เผชิญหน้ากับดอกหลิงเซียว
หึ่ง!
กลีบดอกบัวแกว่งไปแกว่งมาเบาๆ
ความเร็วในการบินของดอกหลิงเซียว ลดลงอย่างมากในทันใด!
หึ่ง!
กลีบดอกปลิวไสวในสายลม ดอกหลิงเซียวนั้นหยุดชะงักมันห้อยอยู่เหนือดอกบัวนั้น!
เสียงที่คมชัดของฉู่หลิวเยว่ ดังแพร่กระจายในทันที
“บรรจบ!” เมื่อสิ้นเสียงของนาง กลีบดอกบัวก็เริ่มค่อยๆ บรรจบกัน
ดอกหลิงเซียวนั้นร่วงลงราวกับว่ามันควบคุมไม่ได้ กลีบดอกที่เรียงซ้อนปิดปกคลุมอย่างสมบูรณ์ในทันที
สีหน้าของซือถูจื่อเยว่ เปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันใดไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร ดอกบัวนั้นก็เบ่งบานออกมาอีกครั้ง กลีบดอกของมันได้รับความเสียหายอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าสูญเสียไปมากจากการต่อสู้เมื่อครู่ อย่างไรก็ตาม ดอกหลิงเซียวที่แข็งแกร่ง แต่ในตอนนี้ราวกับว่ามันพ่ายแพ้ ร่วงหล่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้นอย่างไร้ชีวิตชีวา
ซือถูจื่อเยว่กระอักเลือดออกมา คุกเข่าลงไปกับพื้น