ยอดหญิงแห่งวังหลัง - ตอนที่ 78.3
ตอนที่ 78-3 ใช่พิษล้างพิษ
ใบหน้าของหลี่หมินเพื่อเปลี่ยนเป็นซีดขาว ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่ง
“ไม่! ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่!”
น้ําเสียงของเขามุ่งมั่น สําหรับเขาสถานที่แห่งนี้เหมือนกับว่ามีการระบาดครั้งใหญ่ที่นี่
“ไม่! ท่านไปมิได้”
สายตาของชายในชุดเทากวาดไปทั่วหลี่เว่ยหยาง พลางกล่าวอย่างช้า ๆ โดยไม่มีร่องรอยของอารมณ์
“ก่อนที่เราจะมั่นใจในความปลอดภัยของเขา มิมีผู้ใดสามารถจากไปได้”
หลี่เว่ยหยางยิ้มเยาะและกล่าวช้า ๆ ว่า
“โอ้! ท่านจะกักขังข้าเอาไว้ที่นี่หรือ?”
ชายในชุดสีเทาไม่กล่าวอันใดอีก ซึ่งทําให้ภายในห้องมีแต่ความเงียบงัน
หลี่หมินเต๋อพยายามดิ้นรนะ
“ข้าต้องการไปกับนาง”
ชายในชุดสีเทาเปลี่ยนน้ําเสียงทันทีและมองไปที่หลี่เว่ยหยาง โดยพยายามอย่างหนักที่จะใช้น้ําเสียงที่มีการกลั่นกรอง
“เซียนจู ตอนนี้เขากําลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเราจึงไม่สามารถกระทําสิ่งใดที่ทุ่มบ่ามได้ข้าต้องการขอร้องท่าน… “
หลี่เว่ยหยางขมวดคิ้วเล็กน้อยและสายตาของนางจ้องมองไปยังแววตาของเด็กชายที่มีความหวาดกลัวว่า พี่สาวผู้นี้จะทอดทิ้งเขา หลี่เหว่ยหยางส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว
นางสัญญากับฮูหยินสามว่าไม่ว่าจะอย่างไรนางจะไม่ทอดทิ้งเขาเด็ดขาด แต่อะไรที่เขากําลังปิดบังนางอยู่?
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่ผู้คนเหล่านี้กําลังคุกคามเขา ไม่ไม่ใช่สิ! ชายในชุดสีเทานี้แสดงท่าที่เคารพราวกับว่า หมินเอ๋อเป็นเจ้านายของเขา
หลี่เว่ยหยางเริ่มสงสัยมากขึ้นในขณะที่ชายในชุดสีเทาเฝ้าดูนางด้วยความระมัดระวัง
ในท้ายที่สุดหลี่เว่ยหยางก็พยักหน้า
“เอาล่ะ! ข้าจะกลับออกไปเมื่อถึงเวลาเช้าแล้ว”
ตอนนี้นางไม่มีเวลาไตร่ตรองประเด็นอื่น ๆ เพราะสิ่งที่จําเป็นคือต้องรักษาสัญญาที่ทําไว้กับฮหยินสาม
หลี่หมินเตอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะมือที่เข่าของเขาค่อย ๆ แข็งขึ้นแล้วเขาก็ล้มลงทันที
ชายในชุดสีเทาใบหน้าเย็นชาเปิดออกขณะที่เขารีบบอกให้สาวใช้เอาน้ํามาให้
สาวใช้ถือถ้วยน้ําอุ่นอย่างกลัว ๆ แล้วส่งให้ จากนั้นเขารับมันด้วยมือทั้งสองข้างขณะที่เดินไป ที่เตียงและคุกเข่าลง
หลี่เว่ยหยางเฝ้ามองขณะที่นางจมอยู่ในห้วงของความคิด โดยนางไม่รู้ว่าคนเหล่านี้รู้จักกับหมินเอมาก่อนหรือไม่ ไม่แน่ว่าทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับตัวตนของหมิ่นเต่อก็เป็นได้
แต่เด็กชายเคยเล่าให้นางฟังว่า เขาเป็นทารกที่ถูกทอดทิ้งซึ่งไม่มีผู้ใดต้องการ
แล้วคนเหล่านี้มาจากไหน?
หลังจากดื่มน้ําแล้วหลี่หมินเต๋อก็หมดสติไป โดยท่านหมอที่อยู่ด้านข้างรีบเข้าไปจับชีพจรของเขา
ทันใดนั้นชายในชุดสีเทาก็หันมาทางหลี่เว่ยหยางและแสดงความขุ่นเคือง
ตั้งแต่มีปฏิสัมพันธ์กับนางครั้งหนึ่งเขาก็ไม่สามารถปฏิบัติกับนางเหมือนเด็กสาวทั่วไปโดยไม่ระวังตัวได้
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินทีละก้าวไปหานาง และดึงดาบออกมาชี้ไปที่ลําคอของหลี่เว่ยหยางทันที
โดยการแสดงออกของหลี่เว่ยหยางเปลี่ยนไป
เขากล่าวด้วยความเย้ยหยันว่า
“จริงหรือที่ท่านมิกลัวสิ่งใดเลย?! ข้าหมายถึง จะเป็นไปได้หรือที่บนโลกใบนี้มีผู้ที่มิเกรงกลัวความตาย!”
หลี่เว่ยหยางหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
“ในโลกนี้มิมีผู้ใดที่มิกลัวความตาย แต่ท่านต้องทบทวนดูว่ามันคุ้มหรือไม่! หากข้าตายเขาจะคงต้องเสียใจจนตายเช่นเดียวกัน”
นางกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า
“เช่นนั้น แม้ว่าท่านจะใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อช่วยชีวิตเขาก็ไร้ความหมาย”
ชายในชุดสีเทาใบหน้าแข็งที่อทันที เขารู้สึกขัดใจและพ่นคํากล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า
“ท่านกล้ามาก!”
ทั้งสามคําหลุดออกมาจากปากของเขา
หลี่เว่ยหยางยิ้มและกล่าวว่า
“ท่านแค่ต้องการให้ข้าเก็บความลับของท่าน แต่ความลับนี้คืออะไรข้าก็ยังมิทราบด้วยซ้ําแล้วข้าจะกล่าวมันได้อย่างไร?”
ชายในชุดสีเทาจ้องมองมาที่นางและค่อย ๆ วางดาบลง
ที่เขาทําเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามจากความไม่รู้ของหลี่เว่ยหยาง ตรงกันข้ามเขาคิดว่าสาวน้อยที่ฉลาดผู้นี้สามารถคาดเดาอะไรบางอย่างได้
แต่นางกล่าวได้ถูกต้อง หากเขาฆ่าหลี่เว่ยหยาง เจ้านายของเขาคงจะไม่ไว้ชีวิตเขาแน่นอน
ใบหน้าของท่านหมอเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น ขณะที่หันหน้าไปอย่างเคร่งขรึมและกล่าวว่า
“ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตรายมากกว่าในตอนแรกมาก”
หลี่เว่ยหยางตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป
“เป็นไปมิได้ เมื่อคืนนี้เขายังพูดอยู่เลย”
“ตอนนี้เขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก จึงทําให้เลือดไหลเร็ว”
ท่านหมอกล่าวช้า ๆ ว่า
“พิษเช่นนี้ข้ามิมีทางรักษาได้และข้ามเคยเห็นมาก่อน…”
หัวใจของหลี่เว่ยหยางค่อย ๆจมดิ่งลงด้วยความเสียใจ..
ชายชุดเทาพูดช้า ๆ ว่า
“ยาพิษนี้เรียกว่าจู่หง…”
เขามองไปที่หลี่หมินเอและแสดงความรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยในการแสดง ออกะ
“มันไร้สีและไร้กลิ่น ดังนั้นจึงมิสามารถค้นพบได้ง่าย ๆ แม้ว่าจะได้รับเพียงเล็กน้อยมันก็จะลุกลามเข้าไปในอวัยวะภายในทําให้เนื้อเหยื่อเสียหาย และจะหายใจไม่ออกจนเสียชีวิตในที่สุด”
หากหลี่เว่ยหยางไม่ช่วยหลี่หมินเต่อกําจัดสารพิษส่วนใหญ่ตอนนี้เขาคงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
หลี่เว่ยหยางจ้องมองเขาพร้อมกับกล่าวว่า
” ท่านทราบได้อย่างไร?”
ชายในชุดสีเทาแสดงท่าที่รังเกียจและไม่ตอบ
เหงื่อไหลออกมาจากฝ่ามือด้านในของท่านหมอพร้อมกับกล่าวว่า
“หากตอนนี้มิมีอันใดที่เราสามารถทําได้ เราก็คงทําได้แค่เพียงใช้พิษโจมตีพิษเท่านั้น”
โจมตีพิษด้วยยาพิษหรือ?
การแสดงออกของหลี่เว่ยหยางโปงบอกว่ารู้สึกตกใจมากขณะที่รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจและอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า
“ท่านต้องการใช้ยาชนิดใด?”
ท่านหมอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และค่อย ๆ ตอบว่า
“สารหนู หินสีขาว แมงปองและพิษงู”
หลี่เว่ยหยางและชายในชุดสีเทามองหน้ากันและสีหน้าของพวกเขาก็ซีดลง เพราะทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีพิษร้ายแรงมาก
ตอนนี้ทั้งห้องมีบรรยากาศที่สงบเงียบมากด้วยอารมณ์ที่หลากหลายของผู้คน ทําให้ดูเหมือนว่าสามารถได้ยินเสียงของลมหายใจของทุกคนได้อย่างชัดเจน