ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 627 กระแสเชี่ยวกราก
ดูจากลักษณะ มีศัตรูมากกว่าหนึ่งคนที่ให้ความสนใจกับเขา
เย่ชิวก็ตกตะลึงขณะที่จ้องมองไปสารวจภูเขาอย่างดุร ้าย เขาไม่ คาดคิดว่าจะยั่วยุผู้คนมากมายขนาดนี้ ดูจากลักษณะแล้ว พวกเขาดู เหมือนจะมีภูมิหลังที่ทรงพลัง
“น่าสนใจ!” เย่ชิวรู ้สึกขบขัน เขาไม่สนใจและกลับไปที่โถงฝึก เมฆาม่วง ทาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากไปอย่างเงียบ ๆ
“ฟู่ ว ” เบื้องหลังเย่ชิว ในมุมมืด ชายชราในชุดดาถอนหายใจ ยาวด้วยความโล่งอก ในขณะนั้น เขากลัวแทบตาย
เขาคิดว่าเย่ชิวค้นพบเขาแล้วและก าลังเตรียมจะปิดปากอีกฝ่ าย “เด็กคนนี้ระแวดระวังจริง ๆ ดูเหมือนเขาไม่ใช่คนดี ข้าเกรงว่านาย น้อยจะพบกับคู่แข่งขันในครั้งนี้”
ชายชราหายใจเข้าลึก ๆ และส่ายหัว จากการกระท าของเย่ชิ วก่อนหน้านี้ เขารู ้สึกหายใจไม่ออกอย่างหาที่เปรียบมิได้ ความ ระมัดระวังสูงเกินไป อาจกล่าวได้ว่าน่ากลัวด้วยซ้า แม้ว่าเขาจะใช ้ เคล็ดวิชาสมบัติปกปิดด้วยกาลังทั้งหมด เย่ชิวก็ยังสังเกตเห็นเขา เขา ไม่เคยเจอศัตรูเช่นนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“ไม่ได้การ ข้าต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้กับผู้นา หากเราปล่อย ให้คนที่น่ากลัวเช่นนี้เติบโต เขาจะกลายเป็ นปัญหาใหญ่ในอนาคต อย่างแน่นอน” ชายชราในชุดด ายืนยันความคิดและหายไปอย่างเงียบ ๆ ในความมืดทันที หายไปจากภูเขา
ในขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งของภูเขา ชายชราในชุดดาก็เหงื่อ ออกมากเช่นกัน ในขณะนั้น เขารู ้สึกเหมือนกับชายชราคนก่อน การจ้องมองจากเย่ชิวนั้นเหมือนกับการจ้องมองของยมราชก็ว่าได้ ในขณะนั้น เขาเหมือนเห็นความตายของตนเอง
“ฟู่ ว” หลังหอบอย่างหนัก ชายชราในชุดด าดูเหมือนจะหมดแรง หลังจากที่ร่างของเย่ชิวหายไปอย่างสมบูรณ์ เขานั่งลงบนพื้นทันที
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทาได้ เด็กคนนี้น่ากลัวเกินไป ข้าซ่อน ตัวอย่างดี แต่เขาก็ยังสังเกตเห็นข้า หากยังเป็ นเช่นนี้ต่อไป เขาจะ ค้นพบข้าไม่เร็วก็ช ้า ดูเหมือนว่าข้าจะตรวจตราเช่นนี้ไม่ได้แล้ว ข้า ควรรีบกลับไปรายงานนายน้อย”
ขณะที่ความคิดโลดแล่น ชายชราในชุดด าก็หายไปทันที ในลม หายใจต่อมา เขาก็ได้มาถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์และเคาะประตูถ้าพานัก หลังจากนั้นไม่นาน ชายชุดดาแดงก็เดินออกมา
“ลุงซู่ เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าข้าขอให้ท่านตรวจสอบเย่ ชิวหรือ ท่านถูกค้นพบหรือ” ซู่เฟิงถามด้วยความสับสนเมื่อเห็นซู่อวี่ เหงื่อออกมาก
ซู่อวี่ตอบอย่างหมดหนทางเมื่อเขาได้ยินคาถามนายน้อย จากนั้น เขาอธิบายว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นกับเขา
เมื่อซู่เฟิ งรู ้ว่าซู่อวี่ถูกค้นพบโดยเย่ชิว เขาก็ขมวดคิ้ว เขารู ้ ความสามารถที่ซ่อนอยู่ของซู่อวี่เป็ นอย่างดี ถ้าเขาซ่อนตัวจริง ๆ แม้แต่ซู่เฟิงเองก็อาจหาอีกฝ่ ายไม่ได้ ก่อนหน้านี้ เย่ชิวถึงกับสามารถ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของซู่อวี่จากภูเขาที่อยู่ห่างออกไป จะเห็นได้ว่า ความสามารถในการสังเกตของเย่ชิวนั้นเฉียบคมน่าเกรงขาม เพียงใด การค้นพบในวันนี้ทาให้อีกฝ่ายระแวดระวัง
“ไม่แปลกใจที่เด็กคนนี้จะมีความส าคัญต่อผู้อาวุโสใหญ่ เขามี พละกาลังจริง ๆ” หัวใจของซู่เฟิงสั่นไหวในขณะที่เขาพึมพาอย่างเย็น ชา
เช่นเดียวกับเย่ฉิงซวน ในฐานะผู้เข้าแข่งขันรุ่นเดียวกัน เขาไม่ เต็มใจที่จะลดตนเองให้ต่าลงกว่าคนอื่นและต้องการต่อสู้เพื่อตาแหน่ง เทพ นั่นคือเหตุผลที่เขาขอให้ซู่อวี่ตรวจสอบเย่ชิว
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซู่เฟิงก็พูดว่า “เอาล่ะ ในเมื่อท่านถูก ค้นพบ ไม่ต้องเฝ้ าติดตามเขาอีกต่อไป กลับไปก่อน ท่านไม่ จาเป็ นต้องเข้าไปยุ่งกับส่วนที่เหลือ”
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซู่เฟิ งก็ขอให้ซู่อวี่กลับไปก่อน เขาจะ สังเกตส่วนที่เหลือ นี่เป็ นเพราะเขาได้เรียนรู ้ความลับจากซู่อวี่
นอกจากตระกูลซูแล้ว ตระกูลอื่น ๆ ก็เฝ้ าติดตามเย่ชิวเช่นกัน อีกนัย หนึ่ง เย่ชิวมีคู่ต่อสู้มากมาย ไม่ใช่เขาคนเดียว
ในบรรดาพวกเขา ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเย่ฉิงซวนของ ตระกูลเย่ บุคคลนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเย่ชิวในแง่ของความแข็งแกร่งและ ศักยภาพ บางทีเขาอาจจะนั่งดูพยัคฆ์ต่อสู้กันก็ได้ เขาสามารถสังเกต และตัดสินใจว่าเขาควรเคลื่อนไหวหรือไม่
เขายังคิดว่าการประลองเยียวยาสวรรค์อันยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นในอีก สามปี หากเขาทะลวงวิหารสวรรค์สิบแห่งในสามปีนี้ เขาอาจมีโอกาส ที่จะต่อสู้เพื่อมัน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซู่เฟิ งเผยรอยยิ้มที่มองไม่เห็นทันที เมื่อไม่กี่วัน ก่อน พ่อเขาส่งคนมามอบสมบัติทางบางอย่างแล้ว ด้วยสมบัติเหล่านี้ เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถเข้าทะลวงวิหารสวรรค์สิบแห่งได้
ขณะนี้ อีกด้านหนึ่งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ในถ้าฉิงซวนตอนดึก มี แสงสลัว ๆ ที่หน้าโต๊ะหิน มีชายรูปงามที่มีกลิ่นอายเซียนนั่งอยู่ที่นั่น ข้าง ๆ เขามีชายชราชุดดายืนอยู่ อีกฝ่ ายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและ หอบหายใจ
“นายน้อย ข้าพูดทุกอย่างที่จาเป็ นต้องพูดแล้ว สรุปสั้น ๆ เย่ชิวนี้ ไม่ง่ายอย่างที่เราคิดแน่นอน ท่านควรระวัง ด้วยประสบการณ์หลายปี ในการตัดสินผู้คน เด็กคนนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็ นมังกรในหมู่มนุษย์ เขาอันตรายมาก”
เย่ฉิงซวนเข้าใจคาเตือนดี เขามองไปที่แสงสลัว ๆ แล้วจมดิ่งลง ไปในห้วงความคิด แน่นอน เขารู ้ว่าเย่ชิวไม่ใช่คนธรรมดาเพราะเขา ได้เห็นมันแล้ว
จิตวิญญาณการแข่งขันของเย่ฉิงซวน ซึ่งสงบนิ่งมาหลายปี ดู เหมือนจะถูกกระตุ้นอีกครั้ง
“เย่ชิว! เจ้าไม่ควรมาจากมรดกสุสานกระบี่ มิฉะนั้น อย่าหาว่าข้า หยาบคาย” ขณะที่เขาพึมพาเงียบ ๆ เจตนาสังหารอันหนาวเหน็บก็ กระจายไปทั่วถ้าพานักทั้งหมดในทันที
ชายชราชุดดาข้าง ๆ เขาก็ตกใจกับกลิ่นอายนี้เช่นกัน เขาไม่ คาดคิดว่าความแข็งแกร่งของของนายน้อยจะถึงระดับที่น่ากลัวขนาด นี้หลังจากไม่ได้เจออีกฝ่ายมาหลายปี
ในช่วงเวลานี้ พวกเขาแอบติดตามเย่ชิวและสืบสวนเบื้องหลัง ใน หมู่พวกเขา สิ่งที่สาคัญที่สุดคือการยืนยันว่าเย่ชิวเป็ นศิษย์สายตรง ของสุสานกระบี่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาประหลาดใจที่พบว่า เบื้องหลังของเย่ชิวนั้นแปลกเกินไป ดูเหมือนเขาจะโผล่ออกมาจาก อากาศ
แทบจะไม่พบสถิติใดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ อีกนัย หนึ่ง การบ่มเพาะสาหรับครึ่งแรกของชีวิตนั้นว่างเปล่าในดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ การแทรกซึมของตระกูลเย่อาจกล่าวได้ว่า
น่ากลัวอย่างยิ่ง พวกเขาตรวจสอบสถิติต่าง ๆ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เยียวยาสวรรค์แต่ไม่พบชื่อเย่ชิว
ดังนั้น ในช่วงเวลานั้น พวกเขาก็เริ่มตื่นตระหนก มันอันตราย เกินไปที่จะปล่อยให้ปัจจัยที่ไม่เสถียรเช่นนี้ด าเนินต่อไป
บางทีอาจเป็ นเพราะความคิดอุปาทานของพวกเขาที่พวกเขาได้ ตรวจสอบผิดตั้งแต่ต้น จากจุดเริ่มต้น พวกเขาตัดสินว่าเย่ชิวคือเย่ เฟิงแห่งสุสานกระบี่ดังนั้นพวกเขาจึง สืบสวนไปในทิศทางนี้
พวกเขาไม่คาดคิดว่าเย่ชิวคือเย่ชิว ไม่ใช่เย่เฟิง เขาไม่ได้เกิด และเติบโตในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ แต่ขึ้นมาจากดินแดน เบื้องล่าง แน่นอน เป็ นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่พบเบาะแสใด ๆ หาก พวกเขาสืบสวนอย่างจริงจัง
เหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถหาพบได้อาจเป็ นเพราะมีมือที่มอง ไม่เห็นผลักพวกเขาจากด้านหลังอย่างเงียบ ๆ
เห็นได้ชัดว่า มือขนาดใหญ่นี้คือเมิ่งเทียนเจิ้ง