ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 640 เบื้องหลังของเย่ชิว
“คนนี้น่าสนใจทีเดียว เขาเข้าได้ไม่ยากเย็นอย่างที่ข่าวลือว่าไว้” นางประเมินในใจ ในตอนแรก เมื่อฮุ่ยไฉ่อี้ได้ยินเย่ฉิงซวนแนะนาเย่ ชิว อีกฝ่ ายได้พูดถึงสิ่งไม่ดีทุกประเภท เขามีอารมณ์ร ้าย หยิ่งยโส ดู ถูกทุกคน และเป็ นนักเลงหัวไม้
ดังนั้น นางจึงรู ้สึกขยะแขยงเล็กน้อย แต่ตอนนี้นางเห็นเขา นาง ไม่คิดว่าเย่ชิวตรงกับที่เย่ฉิงซวนพูด
ไม่เพียงแต่เขาไม่หยิ่ง แต่เขายังเข้าถึงง่าย อ่อนโยน และสง่างาม นางไม่รู ้ว่าเย่ฉิงซวนแค้นใจอะไรกับเย่ชิว เหตุใดอีกฝ่ ายถึงดูแคลน เขา
“เทพธิดา เชิญ” เย่ชิวไม่รู ้ว่าฮุ่ยไฉ่อี้กาลังคิดอะไรอยู่ เขารินชา และยิ้ม
“ขอบคุณนายน้อย” ฮุ่ยไฉ่อี้พยักหน้าและยกถ้วยชาขึ้นเล็กน้อย นางจิบและตกใจในทันใด นางตกใจมากที่เย่ชิวหยิบชาเซียนออกมา เพื่อเลี้ยงนาง นี่เป็ นความเคารพอย่างสูงต่อนาง นางรู ้สึกขอบคุณ อย่างช่วยไม่ได้
หลังจากที่นางดื่มชาหมดแก้ว เย่ชิวก็รินชาต่ออย่างสุภาพ จากนั้น เขาก็พูดช ้า ๆ “ข้าสงสัยว่าเทพธิดามีข้อสงสัยอะไรหรือไม่ สามารถถามได้ ข้ารู ้สึกเป็ นเกียรติที่สามารถตอบคาถามของเจ้าได้”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ฮุ่ยไฉ่อี้ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้า ขึ้นมองเย่ชิว ใจนางสั่นแอบดีใจ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้หยิ่งยโสอย่างที่ เย่ฉิงซวนพูดไว้จริง ๆ กลับกัน เขาเป็ นคนสุภาพมาก สบาย ๆ และไร ้ กังวล
“ฮ่าฮ่า นายน้อยล้อข้าเล่นแล้ว ข้าหยาบคายเล็กน้อย ข้าหวังว่า นายน้อยจะไม่ตาหนิข้าหากข้าทาให้เจ้าขุ่นเคือง” ฮุ่ยไฉ่อี้ชะลอตัวลง นางมองไปที่เย่ฉิงซวนที่กาลังกัดฟันด้วยความโกรธอยู่ไม่ไกล และ ลังเล
“ข้าสงสัยว่านายน้อยมาจากใด เจ้ามาจากตระกูลใหญ่ในเก้า สวรรค์สิบแผ่นดินหรือไม่”
นี่เป็ นคาถามแรกของฮุ่ยไฉ่อี้ นางต้องการยืนยันตัวตนของเย่ชิว ท้ายที่สุดแล้ว ตราประทับของราชันยุทธบนหน้าผากของนั้นคล้าย กับของเย่ฉิงซวนมากเกินไป
นางรู ้ด้วยว่าคาถามนี้เป็ นการล่วงเกิน แต่เพื่อไขปริศนาในใจ ของนาง นางกัดฟันแล้วถาม
นี่เป็ นครั้งแรกที่เย่ชิวได้ยินคาถามนี้ เขามองไปที่ฮุ่ยไฉ่อี้ด้วย ความสับสน ไม่สามารถเข้าใจความคิดของหญิงสาวคนนี้ได้ เหตุใด นางถึงถามเกี่ยวกับภูมิหลังของเขา ตรวจสอบทะเบียนบ้านของเขา หรือ
เย่ชิวไม่มีอะไรจะซ่อนเกี่ยวกับพื้นหลัง ท้ายที่สุด ศัตรูหลายคนรู ้ เบื้องหลังเขาแล้ว
นี่ไม่ใช่ความลับ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เย่ชิวยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “ฮ่าฮ่า ข้า มาจากพื้นเพปุถุชน มาจากโลกมหารกร ้าง ข้าโชคดีพอที่จะขึ้นมา และได้เข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์นี้ ข้าไม่ได้มาจากตระกูล ใหญ่”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ดวงตาของฮุ่ยไฉ่อี้ขยับ เล็กน้อย ราวกับว่านางประหลาดใจมาก “มหารกร ้าง”
ร่องรอยของความตกใจฉายผ่านดวงตาของนาง หลังจากคิด ทบทวนค าพูดของเย่ชิวอย่างรอบคอบ นางก็เข้าใจภูมิหลังของเย่ชิว เขามาจากโลกใบเล็กที่เรียกว่าโลกมหารกร ้างและเป็ นผู้ขึ้นมาจาก เบื้องล่าง
นางเข้าใจเรื่องผู้สืบเชื้อสาย โดยปกติแล้ว ตัวตนดังกล่าวจะพบ ภัยพิบัติสวรรค์ต่าง ๆ และได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์ก่อนที่พวก เขาจะขึ้นมาเป็ นเซียน
ราคาของการเป็ นเซียนนั้นยากกว่าอัจฉริยะใด ๆ ในเก้าสวรรค์ สิบแผ่นดิน นี่เป็ นเพราะเดิมทีโลกใบเล็กนั้นแห้งแล้งและกฎไม่ สมบูรณ์ มันยากมากที่จะฝึกฝน
เย่ชิวต้องผ่านการต่อสู้และความยากลาบากมาหลายร ้อยครั้ง กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฮุ่ยไฉ่อี้ก็รู ้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และ ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความชื่นชม เมื่อเปรียบเทียบคนอื่น เส้นทางการบ่มเพาะของพวกเขาราบรื่นเกินไป พวกเขาไม่สามารถ สัมผัสความเจ็บปวดของผู้คนนับล้านที่ต่อสู้เพื่อโอกาสเอาชีวิตรอด ได้
แต่มาคิดอีกที เนื่องจากเย่ชิวเป็ นผู้ขึ้นมา เหตุใดตราประทับของ ราชันยุทธบนหน้าผากถึงคล้ายกับเย่ฉิงซวน
หลังจากนั้นไม่นาน ฮุ่ยไฉ่อี้ก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่านายน้อยจะเป็ นผู้ขึ้นมาในตานาน ข้าขอ โทษ ข้ายังคงมีค าถามในใจ ข้าสงสัยว่านายน้อยจะตอบได้หรือไม่”
เย่ชิวยิ้มและไม่พูดอะไร เขาเดาข้อสงสัยของฮุ่ยไฉ่อี้ได้อย่าง คร่าว ๆ นับตั้งแต่ที่นางถามเกี่ยวกับภูมิหลัง เย่ชิวก็เดาได้อย่าง คลุมเครือ
หลังจากนั้นไม่นาน เย่ชิวพูดอย่างเฉยเมย “ฮ่าฮ่า เทพธิดา เจ้า อยากจะถามว่าเหตุใดตราประทับของราชันยุทธระหว่างคิ้วของข้าถึง คล้ายกับนายน้อยเย่งั้นรึ”
คาพูดของเย่ชิวเปิดเผยความลึกลับ เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮุ่ยไฉ่อี้ก็ ตกใจเช่นกัน นางรู ้ว่าเย่ชิวเดาความคิดของนางได้แล้ว นางอดชื่น
ชมคนนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็ นสภาพจิตใจหรือความเฉลียวฉลาด เขาล้า ลึกมาก
ฮุ่ยไฉ่อี้พยักหน้าและไม่พูดต่อเพราะนางรู ้ว่าคาถามนี้ค่อนข้างจะ หยาบคายเล็กน้อย ดังนั้น ถ้าเย่ชิวต้องการตอบ เขาก็ตอบ ถ้าเขาไม่ นางก็ถามต่อไม่ได้
เมื่อเห็นว่านางอยากรู ้อยากเห็นมาก เย่ชิวก็กลอกตาและชาเลือง ไปที่เย่ฉิงซวนซึ่งอยู่ไม่ไกล เขาเผยรอยยิ้มมีเลศนัย
เย่ชิวค่อนข้างสับสนเกี่ยวกับตราประทับของราชันยุทธในตอน แรก หลังจากนั้น ในความทรงจา เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า ตระกูลยุคเซียนโบราณ ดังนั้น จึงไม่น่าเป็ นไปได้ที่เขาจะเป็ น ลูกหลานของตระกูลเย่
ในความทรงจ าของเขา จากการพเนจรในโลกมหารกร ้างไป จนถึงการถูกพามาที่ขุนเขาเมฆาม่วงโดยนักพรตซวนเทียน ความ ทรงจาในอดีตของทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลขนาดใหญ่นี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เย่ชิวไม่สามารถยืนยันได้ก็คือก่อนที่นักพรตซวน เทียนจะพบเขา
เขาพเนจรมาเป็ นเวลานาน เขาไม่ได้เก็บความทรงจ าใด ๆ ในช่วงเวลานี้
อาจเป็ นเพราะตอนนั้นเขายังเด็กเกินไปและจามันไม่ได้ ในความ ทรงจ าอันพร่ามัว มีเพียงไฟดวงเดียวเท่านั้น ไฟนั้นมักปรากฏใน ความฝัน อย่างไรก็ตาม เย่ชิวจาไม่ได้ว่าไฟนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
เขารู ้แค่ตอนที่นักพรตซวนเทียนค้นพบเขา อีกฝ่ ายบอกเขาว่ามี การจลาจลของสัตว์อสูรที่ดุร ้ายที่เชิงเขา หมู่บ้านใกล้เคียงทั้งหมดถูก สัตว์อสูรที่ดุร ้ายพังราบเรียบ เปลวเพลิงจากภูเขาปกคลุมพื้นที่รกร ้าง ทั้งหมดและเผาไหม้นานกว่าหนึ่งเดือน
ดังนั้น ไฟในความทรงจาของเย่ชิวควรเป็ นไฟภูเขาที่เกิดจาก การจลาจลของสัตว์อสูร
เย่ชิวนึกในใจเขาตอบด้วยรอยยิ้ม “เทพธิดา เจ้าคิดมากไปเอง ข้าเป็ นคนธรรมดาที่มีพื้นเพต่าต้อย ข้าไม่สามารถมาจากตระกูล สูงสุดนั้นได้
“สาหรับตราประทับของราชันยุทธนี้ มันอาจจะเป็ นเรื่องบังเอิญ ในโลกนี้มีสิ่งแปลกประหลาดมากมาย มันถูกกาหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ เรื่องดีที่จะสนใจแต่อดีต”
“เส้นทางสู่ความเป็ นเซียนนั้นยาวไกล เทพธิดา หากเจ้าต้องการ ถามเกี่ยวกับอนาคตและเส้นทางสู่ความเป็ นเซียน ข้าอาจจะตอบข้อ สงสัยของเจ้าได้ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่สามารถตอบคาถามนี้ได้” เย่ชิว พูดอย่างมั่นใจและเป็ นอิสระ
ฮุ่ยไฉ่อี้พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขา ไม่ได้ติดต่อกันจริง ๆ ความหวังอันน้อยนิดในหัวใจของนางก็ได้แตก สลาย
เหตุใดนางถึงถามเย่ชิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นางได้ยินว่าเย่ชิวมาจากโลกมหารกร ้างในดินแดนเบื้องล่าง จริงแล้ว ง่ายมาก
นางยังคงมีจินตนาการอยู่ในใจและไม่เต็มใจที่จะยอมรับความ จริงที่ว่าคู่หมั้นของนางซึ่งนางยังไม่ได้พบหน้าได้ตายไปแล้วในเปลว เพลิง
นางยังคงหวังว่าในช่วงเวลาพิเศษ เขาจะกลับมาอีก แม้ว่าเขาจะ ไม่สามารถเทียบกับนางได้ อีกฝ่ ายก็ควรจะยกเลิกข้อตกลงการ แต่งงานกับนาง และปลดพันธนาการสุดท้ายในใจของนางออก