ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 642 การแข่งขันที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว
“ฮ่าฮ่า นายน้อย เจ้ารู ้วิธีเล่นตลกจริง ๆ หากเป็ นเช่นนี้ ข้าจะ รบกวนเจ้าในอนาคต” ได้ยินคาพูดของเย่ชิว ฮุ่ยไฉ่อี้ก็รู ้สึกสบายใจ และมีความสุขมาก นางปิดหน้าและยิ้มหวาน นางแค่ต้องการดูว่าใคร ทาให้เกิดความโกลาหลที่น่าตกใจในวันนี้ นางไม่คิดว่าจะเจอคนที่ น่าสนใจขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้สังเกตว่าในระยะไกล ใบหน้าของเย่ฉิง ซวนนั้นซีดเซียวและน่าเกลียด ราวกับว่าเขากินขี้เข้าไป
“บัดซบ! เย่ชิว เจ้ามันสมควรตาย” เย่ฉิงซวนกัดฟัน ความโกรธ เขาถึงขีดสุดแล้ว
ไม่ไกลนัก เซียวโม่ ที่สังเกตทั้งหมดนี้อย่างเงียบ ๆ เผยรอยยิ้ม จาง ๆ
“น่าสนใจ ชายคนนี้พยายามจะยั่วยุกับเย่ฉิงซวนอย่างชัดเจน”
เซียวโม่เห็นผ่านความคิดของเย่ชิวและอดไม่ได้ที่จะยกย่องอีก ฝ่ ายในใจ คน ๆ นี้เจ้าเล่ห์มาก เขาเป็ นคนฉลาด เขาจะไม่เห็นว่าเย่ ชิวตั้งใจทาอย่างนั้นได้อย่างไร เมื่อเห็นว่าเย่ฉิงซวนโกรธมากจนแทบ จะคลุ้มคลั่ง เซียวโม่เข้าใจทันทีว่าเขาควรจากไป
มิฉะนั้น ไฟที่คาดไม่ถึงนี้คงจะลามมาที่พวกเขา หลังจากคิดอยู่ ครู่หนึ่ง เซียวโม่ก็หันตัวกลับและพูดกับพี่น้องหลู่ว่า “แม่นางหลู่ ถ้า ไม่มีอะไรแล้ว โปรดจากไป ข้าเองก็ควรกลับเหมือนกัน”
หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ พี่น้องตระกูลหลู่ได้ตระหนักอย่าง แท้จริงว่าเซียวโม่นั้นทรงพลังเพียงใด ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเขา เปลี่ยนไปอย่างมาก เดิมที พวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคาพูดเขา ตอนนี้ พวกเขาจะเชื่อฟังเขา
” ขอบคุณที่ช่วยข้าในวันนี้ ข้ารู ้สึกผิดและจะไปเยี่ยมเจ้าในอีก วันเพื่อขอบคุณอย่างแน่นอน” หลู่จือเห็นด้วยกับความจริงนี้โดย ปริยายและทัศนคติของนางที่มีต่อเซียวโม่ก็กลายเป็ นความเคารพ
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่มึนงงและหดหู่เล็กน้อยของนาง เซียวโม่ก็ ส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะจากไป เขาไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง เกี่ยวกับความขุ่นเคืองใจและข้อพิพาทใด ๆ เขาเพียงต้องการฝึกฝน อย่างเงียบ ๆ และเป็ นเซียนแบบสบาย ๆ อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัว ของพี่น้องตระกูลหลู่ทาให้เขาเข้าสู่ข้อพิพาทนี้อย่างเป็ นทางการ
การต่อสู้เพื่อตาแหน่งเทพธิดาถูกกาหนดให้เป็ นพายุนองเลือด ยังไม่มีใครกล้ารับประกันเรื่องนี้ มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลู่จือ ฮุ่ย ไฉ่อี้ หญิงลึกลับจากภูเขาวังจู และเหลียนเฟิ ง ซึ่งได้ปิดด่านตั้งแต่ นางขึ้นมา
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ นางดูลึกลับยิ่งกว่าใคร จนถึงตอนนี้ ยังไม่ มีใครรู ้ว่านางหน้าตาเป็ นอย่างไร ตั้งแต่แรก นางไม่เคยปรากฏตัว เซียวโม่บังเอิญรู ้ถึงการมีอยู่ของเหลียนเฟิงจากเซียวเหยียน
เนื่องจากเซียวเหยียนเคยไปที่ดินแดนเบื้องล่าง เขาจึงรู ้ว่ามี เหลียนเฟิง เซียวโม่รับรู ้การมีอยู่ของเหลียนเฟิงจากเซียวเหยียนและรู ้ ดีว่านางและเย่ชิวเป็ นคู่บ่มเพาะเต๋ากัน นี่เป็ นเหตุผลว่าเหตุใดเขาถึง แนะนาพี่น้องหลู่ว่าอย่ามาที่โถงฝึกเมฆาม่วง
ในที่สุด ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกปฏิเสธ คงมีเย่ชิวเท่านั้นที่ อารมณ์ดี หากเป็ นคนอื่น อีกฝ่ ายคงทาเรื่องให้ยุ่งยากสาหรับพวก เขาเป็ นแน่ ในตอนนั้น แม้ชื่อเสียงของเซียวโม่ที่อ่อนแอก็คงไม่ สามารถหยุดอีกฝ่ายได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เซียวโม่ก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น จริง ๆ แล้ว การแข่งขันที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่หลายคนไม่รู ้
เซียวโม่จากไป เขามาและจากไปอย่างเงียบ ๆ ดั่งลมกระโชก เขาพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรถูกทิ้ง ไม่มีอะไรถูกพรากไป
หลู่จือรู ้สึกซับซ ้อนมากเมื่อนางเฝ้ าดูเซียวโม่จากไป หลังจากนั้น ไม่นาน นางก็หันตัวกลับมองน้องชายของนางแล้วพูดว่า “เฉาเฟิ ง เจ้าเป็ นไรหรือไม่”
“พี่สาว ข้าสบายดี ข้าแค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มันไม่ใช่ปัญหา ใหญ่ ข้าจะกลับไปพักฟื้นสักพัก”
หลู่เฉาเฟิงหอบหายใตจอย่างหนักและสัมผัสหน้าอกด้วยมือข้าง หนึ่งขณะที่เขาตอบกลับด้วยความยากลาบาก
หลู่จือถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นางมองเย่ชิว ด้วยความไม่พอใจ นางมองไปที่เย่ฉิงซวนด้วยสายตาล้อเลียน
นางอาฆาตแค้นมากและวันนี้นางต้องทนรับความอัปยศอดสูทุก รูปแบบ หากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของนาง นางอยากจะสอน บทเรียนให้กับสองคนนี้จริง ๆ อย่างไรก็ตาม นางถูกกาหนดให้กัดฟัน กลืนความอัปยศอดสูของวันนี้
“ฮึ่ม พวกเจ้ารอก่อนเถอะ เมื่อข้ารับตาแหน่ง ข้าจะทาให้พวกเจ้า ชดใช ้เป็ นร ้อยเท่าอย่างแน่นอน” หลู่จือตะโกนในใจและมองไปที่เย่ฉิง ซวน นางรู ้สึกภูมิใจเมื่อเห็นสีหน้าโกรธ
ในที่สุด คนชั่วย่อมถูกคนชั่วทรมาน เย่ฉิงซวนเย่อหยิ่งและทาให้ พวกเขาลาบาก ถึงเวลาที่เขาจะได้ลิ้มลองรสชาตินี้แล้ว ต้องบอกว่า การกระท าของเย่ชิวท าให้นางมีความสุขจริง ๆ อย่างน้อยนางก็ไม่เจอ ปัญหาเพราะเย่ชิว แต่นางรู ้สึกสบายใจมากเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียว ของเย่ฉิงซวน
เรื่องเช่นนี้ไม่มีใครยอมรับได้ ไม่มีใครทนได้เมื่อผู้ฟหญิงของ พวกเขากาลังสนทนาอย่างมีความสุขกับชายอื่น ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ หยิ่งยโสและภาคภูมิใจในตนเองเหมือนเย่ฉิงซวน เขายิ่งรับไม่ได้
หลู่จือเตรียมตัวดูการแสดงดี ๆ แต่เย่ฉิงซวนนั้นอดทนเกินไป เขาไม่ใช่คนเลือดร ้อน ความเฉลียวฉลาดและความอดกลั้นเขาช่าง น่าเกรงขามยิ่งนัก
เมื่อเห็นว่าไม่มีการแสดงให้ดูอีกแล้ว หลู่จือก็หันตัวกลับเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ” ขณะที่พูด ทั้งสองก็จากไปอย่างรวดเร็ว
นางเตรียมพร ้อมสาหรับการแก้แค้นแล้ว วันนี้ สองคนนี้ปฏิเสธ นาง ในอนาคต พวกเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
หลังจากที่ทั้งสองจากไป โถงฝึกเมฆาม่วงก็กลับคืนสู่ความสงบ เย่ฉิงซวนหันตัวกลับมองท้องฟ้ าที่ว่างเปล่าด้านหลังเขา แล้วมองไปที่ คนสองคนที่คุยกันอย่างมีความสุขด้านล่าง
“บัดซบ!” เย่ฉิงซวนกาหมัดแน่น นี่เป็ นครั้งที่สองที่เขารู ้สึกพ่าย แพ้ อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวทั้งสองครั้งมาจากชายคนเดียวกัน เย่ชิว
เย่ฉิงซวนไม่รู ้ว่าเด็กคนนี้มีเวทมนต์อะไร เขาคิดว่าตนเองไม่ได้ เลวร ้ายไปกว่าเย่ชิวมากนัก และยังดีกว่าอีกฝ่ายเสียด้วยซ้า อย่างไรก็ ตาม ผู้หญิงเหล่านี้เหมือนกับกินยาพิษและชอบที่จะอยู่กับเย่ชิว
ทั้งหมิงเยว่และฮุ่ยไฉ่อี้ สิ่งนี้ทาให้เขาโกรธมาก และความเกลียด ชังในใจที่มีต่อเย่ชิวก็เพิ่มมากขึ้น
“เย่ชิว รอก่อนเถอะ อีกสามปีหลังจากนี้ ข้าจะไล่เจ้าออกจาก แท่นบูชาอย่างแน่นอน”
เมื่อนึกถึงคาสั่งของบิดา เย่ฉิงซวนก็ได้แต่อดทน เขามองไปที่ฮุ่ย ไฉ่อี้ที่ยังคุยกับเย่ชิว เสียงของนางเจือเสียงหัวเราะทุกรูปแบบ
เขารู ้สึกได้ว่าตอนที่นางอยู่กับเย่ชิว ฮุ่ยไฉ่อี้ดูเหมือนจะเปิ ดใจ และมีชีวิตชีวา
เขาอิจฉาและไม่พอใจอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นาน เย่ฉิงซวนก็ หายใจเข้าลึก ๆ และละวางความลุ่มหลงในใจ เขาต้องพิสูจน์อะไร บางอย่าง ไม่ว่าอย่างไร เขาจะแพ้เย่ชิวไม่ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ฉิงซวนก็กัดฟัน เขาทุ่มเทออกไปหมดแล้ว อย่างมากที่สุด เขาก็จะต้องสูญเสียศักดิ์ศรี เหตุใดต้องท าตัว เหนือกว่าในเวลาเช่นนี้ หากยังทาตัวเหนือกว่าเช่นนี้ต่อไป เทพธิดา คงหนีไปกับคนอื่น
ดังนั้น เขาจึงค่อย ๆ ร่อนลงมาข้าง ๆ ทั้งสอง “ฮ่าฮ่า สองคนนี้คุย อะไรกันรึ พวกเจ้าดูมีความสุขมากเหตุใดเจ้าไม่บอกข้าบ้างเพื่อที่ข้า จะได้มีความสุขด้วย”
ทั้งสอง ซึ่งเดิมก าลังคุยกันอย่างมีความสุข ถูกขัดจังหวะด้วย เสียงที่กะทันหันนี้ บรรยากาศถูกแช่แข็ง