ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 648 พายุตั้งเค้า
“ฮ่าฮ่า… ผู้อาวุโสฉี หลายปีแล้วที่เราเจอกันครั้งล่าสุด ข้าคิดถึง เจ้า” ในโถงยอดสวรรค์ ชายชราผมขาวและใบหน้าอ่อนเยาว์หัวเราะ เสียงดัง เขารีบเดินไปหาฉีฮวนและทักทายอีกฝ่าย
บุคคลนี้คือผู้นาของตระกูลหยู ตระกูลขนาดใหญ่ในสมัยโบราณ ในดินแดนเทพเจ้า เขาเป็ นยอดฝี มือขอบเขตปลิดเต๋า ความ แข็งแกร่งนั้นไม่อาจหยั่งรู ้ได้ เขามีชีวิตอยู่เป็ นล้านปีและฉลาดมาก ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้การนาของเขา ตระกูลหยูแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ตอนนี้ พวกเขากลายเป็ นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ไปแล้ว
ผู้น าของตระกูลหยู หยูฉางเซิง เป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงในหมู่ยอด ฝีมือรุ่นเก่า ในแง่ของสถานะ ฉีฮวนต้องเรียกอีกฝ่ ายว่าผู้อาวุโส จะ เห็นได้ว่าบุคคลนี้มีความสาคัญเพียงใด
ตามที่คาดไว้ เมื่อเขาได้ยินเสียงที่ไพเราะนี้ ฉีฮวนก็เงยหน้าขึ้น ทันทีและรีบขึ้นไปทักทายอีกฝ่ าย “ผู้อาวุโสหยู วันนี้ท่านมาทาอะไร ที่นี่รึ”
ฉีฮวนตกใจมากจริง ๆ เขาคิดว่าคนที่มาวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็ น ยอดฝีมือรุ่นเดียวกับเขา เขาไม่คิดว่าสัตว์ประหลาดโบราณคนนี้จะ มาด้วย ฉากนี้ค่อนข้างยากที่จะยับยั้ง
หยูฉางเซิงคือคนในยุคเดียวกับกู่ซานฉิว ฉีฮวนจะกล้าอวด ตรงหน้าอีกฝ่ายได้อย่างไร?
“ฮ่าฮ่า… ผู้อาวุโสฉี เจ้าต้องล้อเล่นแล้ว นอกเหนือจากการเยี่ยม เยียนผู้อาวุโสเมิ่งในวันนี้ ข้ายังต้องการดูว่ารุ่นเยาว์ในตระกูลของข้า บ่มเพาะบนภูเขาอย่างไรและพวกเขาจะหย่อนยานหรือไม่” หยูฉาง เซิงพูดไปตามเรื่อง แม้ว่าความคิดที่มีอยู่จะเต็มไปด้วยความเคารพ เมื่อเขากล่าวถึงเมิ่งเทียนเจิ้ง
ฉีฮวนเข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ ายหมายถึงอะไร จากนั้น เขาหันตัว กลับและพูดกับศิษย์ของโถงยอดสวรรค์ “เรียกรุ่นเยาว์ในตระกูลของ ผู้อาวุโสหยูทั้งหมดมา บอกพวกเขาว่าบรรพบุรุษของพวกเขาอยู่ที่นี่ เพื่อพบพวกเขาและบอกให้พวกเขาวางสิ่งที่พวกเขากาลังทาอยู่และ กลับมาทันที”
“ขอรับ” เมื่อศิษย์ได้ยินเช่นนี้ เขาจึงรีบล่าถอยและมุ่งหน้าไปยัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเรียกเหล่าศิษย์จากตระกูลหยู
มองไปที่การเตรียมการของฉีฮวน หยูฉางเซิงยิ้มและพยักหน้า อย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้มาคราวนี้เพียงเพื่อดูว่ารุ่นเยาว์กาลังทาอะไร บนภูเขา
เหตุผลหลักคือเขาต้องการเห็นเมิ่งเทียนเจิ้ง แต่สุดท้าย เมิ่งเทียน เจิ้งก็เป็ นภูเขาขนาดใหญ่กดทับพวกเขา มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู ้ ถึงความลึกซึ้งที่มีอยู่ในนั้น
หลังจากฉีฮวนจัดการเรียบร ้อยแล้ว หยูฉางเซิงยิ้มและถามว่า “ฮ่าฮ่า ผู้อาวุโสฉี ข้าสงสัย… ผู้อาวุโสเมิ่งเป็ นอย่างไรบ้าง?”
“ในฐานะศิษย์น้อง ข้ากังวลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้อาวุโสเมิ่งมา โดยตลอด กินไม่ได้นอนไม่หลับ ข้ายังใช ้โอกาสจากการประลอง ยุทธเยียวยาสวรรค์นี้เพื่อขึ้นสู่ภูเขา ข้าต้องการไปเยี่ยมผู้อาวุโสเมิ่ง ด้วยตนเอง ข้าสงสัยว่า… “
ความหมายเบื้องหลังคาพูดของอีกฝ่ ายนั้นชัดเจน ฉีฮวน สามารถบอกได้ เขาเพียงยิ้มจาง ๆ และพูดว่า “ขอบคุณส าหรับความ ห่วงใยของท่าน ผู้อาวุโส ผู้อาวุโสใหญ่สบายดีมาก เขาได้ผ่านภัย พิบัติแห่งความตายมาแล้ว ทุกอย่างเป็ นไปอย่างราบรื่น”
“อะไรกัน!” ทันทีที่ฉีฮวนพูดเช่นนี้ใบหน้าของ หยูฉางเซิงก็มืดลง ทันทีด้วยความเหลือเชื่อ
เมิ่งเทียนเจิ้งรอดชีวิตจากภัยพิบัติแห่งความตาย? เป็ นไปได้ อย่างไร? นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาได้ทะลวงพันธนาการของ ขอบเขตปลิดเต๋า และก้าวไปสู่ขอบเขตราชันเซียนแล้วรึ? มิฉะนั้น เขาจะรอดชีวิตจากภัยพิบัติแห่งความตายได้อย่างไร?
หยูฉางเซิงไม่เชื่อเท่าใดนัก เขามองไปที่ฉีฮวน ต้องการเห็นอะไร บางอย่างในสายตาของอีกฝ่ าย แต่ทว่า ฉีฮวนซ่อนมันไว้เป็ นอย่างดี ท่าทางที่สงบทาให้หยูฉางเซิงยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเมิ่งเทียนเจิ้งอาจ
ผ่านภัยพิบัติแห่งความตายได้จริง ๆ ดูเหมือนว่าแผนจะถูกยกเลิกอีก แล้ว!
ตราบใดที่เมิ่งเทียนเจิ้งยังมีชีวิตอยู่ เขาจะเป็ นภูเขาลูกใหญ่ที่กด ทับพวกเขาเสมอ
“ฮ่าฮ่า… ยินดีด้วย ข้าไม่ได้คิดว่าผู้อาวุโสเมิ่งจะฝ่ าภัยพิบัติแห่ง ความตายไปได้จริง ๆ ด้วยวิธีนี้ เก้าสวรรค์สิบแผ่นดินของเราจะ ปลอดภัยเป็ นเวลาหมื่นปี ” หยูฉางเซิงดูเหมือนว่าเขากาลังแสดง ความยินดีกับอีกฝ่ ายอย่างจริงใจ ฉีฮวนไม่สามารถบอกได้ว่าเขา ก าลังแสดงความยินดีกับอีกฝ่ ายจากก้นบึ้งของหัวใจหรือว่าเขาไม่ พอใจ
แน่นอนว่าไม่สาคัญ สิ่งที่สาคัญที่สุดในตอนนี้คือวิธีส่งคนเหล่านี้ ออกไป เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉีฮวนก็ปวดหัว หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูด ทันทีว่า “ผู้อาวุโส เชิญนั่งลงก่อน ข้าได้ขอให้ลูกศิษย์ของข้าเชิญรุ่น เยาว์ของตระกูลของท่านแล้ว ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะมาถึงในไม่ช ้า”
“เอาล่ะ ข้าจะรอดู ข้าต้องการสามารถเห็นสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู ้ ในสานักของผู้อาวุโสเมิ่ง” หยูฉางเซิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
สุดยอดเคล็ดวิชาตลอดชีวิตของเมิ่งเทียนเจิ้งล้วนอยู่ในศาลา ลิขิตดารา เขาไม่รู ้ว่าลูกหลานเรียนรู ้มามากเพียงใด ดังนั้นเขาจึงตั้ง หน้าตั้งตารอไม่มากก็น้อย
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่หยูฉางเซิงนั่งลง คนอีกกลุ่มหนึ่งก็เดิน เข้ามาด้วยก้าวที่กดดันอย่างหาที่เปรียบมิได้ สีหน้าของทุกคนใน ปัจจุบันเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นคนที่เป็ นผู้นา
“เย่อู๋เหิน!” หยูฉางเซิงยืนขึ้นจากที่นั่งด้วยความตกใจ เขาไม่คิด ว่าเย่อู๋เหินจะมาร่วมงานในวันนี้ด้วยตนเอง เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับคน ที่โหดเหี้ยมคนนี้ ท้ายที่สุด อีกฝ่ ายยังอยู่เบื้องหลังความระส่าระสาย ของตระกูลเย่ในตอนนั้นด้วย เขาเคยเห็นวิธีการที่โหดเหี้ยมของเย่อู๋ เหินและรู ้ดีว่าบุคคลนี้น่ากลัวเพียงใด
การปรากฏตัวเทียบเท่ากับระเบิด ฉากเริ่มตึงเครียดขึ้นทันที
ด้านหลังเย่อู๋เหินมีผู้อาวุโสสองสามคนจากตระกูลเย่ ทุกคนมีคิ้ว ที่เฉียบคมและดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาวขณะที่พวกเขาเฝ้ าดูทุก การเคลื่อนไหวในห้องโถงอย่างเย็นชา ราวกับเทพสังหาร คนเหล่านี้ ต่อสู้เพื่อหาทางออกจากความโกลาหลกับเย่อู๋เหินและเต็มไปด้วย เจตนาสังหาร
“ผู้นาเย่ เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่รึ!” ฉีฮวนยืนขึ้นด้วยความกลัว ขณะที่เขามองไปที่ชายผู้เย็นชาและโหดเหี้ยมที่มีผมยาวสีขาวราว หิมะ
“เหตุใด? ไม่ต้อนรับข้ารึ?” เย่อู๋เหินมองไปที่ฉีฮวนแล้วพูดด้วย รอยยิ้มจาง ๆ
สิ่งนี้ทาให้ฉีฮวนตกใจอย่างมาก เขารีบพูดว่า “ฮ่าฮ่า ท่านก าลัง พูดอะไร? ท่านให้เกียรติศาลาเยียวยาสวรรค์ของข้าด้วยการมาที่นี่ ข้าจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าข้าไม่ต้อนรับท่าน?”
ฉีฮวนถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น เขาไม่ได้คิดว่าเย่อู๋เหินเทพ สังหารที่เย็นชาคนนี้จะเข้าร่วมสนุกในครั้งนี้ พอมาคิดดูดี ๆ ก็คิดถูก ลูกชายแท้ ๆ เย่ฉิงซวน ก าลังบ่มเพาะบนภูเขา บางทีเขาอาจไม่ได้ เจอลูกชายเป็ นเวลานานและขึ้นมาบนภูเขาเพื่อมาพบอีกฝ่ ายเป็ น พิเศษ
เย่อู๋เหินยิ้มจาง ๆ ในขณะที่เขากาลังจะนั่งลง เขาเหลือบไปเห็นห ยูฉางเซิงนั่งอยู่ข้างบน เขาขมวดคิ้วทันที “หืม? นี่ไม่ใช่ผู้อาวุโสหยู หรือกรึ? หลายปีแล้วที่เราได้พบกันครั้งล่าสุด เหตุใดท่านไม่ทักทาย ข้า? เป็ นไปได้หรือไม่ว่า… ท่านท าอะไรผิดและละอายใจเกินกว่าจะสู้ หน้าใคร?”
เย่อู๋เหินมองไปที่หยูฉางเซิงอย่างเย็นชา
เมื่อเห็นฉากนี้ ฉีฮวนเหงื่อแตกพลั่ก แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะ เกิดอะไรขึ้น หยูฉางเซิงยังคงเป็ นยอดฝีมือผู้ชานาญที่มีประสบการณ์ เขายังสามารถยับยั้งฉากดังกล่าวได้
“ฮ่าฮ่า… หลานชาย ข้าเป็ นคนตรงตรงไปตรงมาเสมอ ข้าท า อะไรผิดไปตอนไหนกัน? หลานชาย เจ้าคิดมากไปแล้ว”
หยูฉางเซิงกลัวเย่อู๋เหินไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ความ แข็งแกร่งของเด็กคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเย่ นั้นใหญ่มาก ภายใต้การนาของเย่อู๋เหิน พวกเขาค่อย ๆ ฟื้นความ แข็งแกร่งในอดีต หรือแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย มันค่อนข้างเสียเปรียบ สาหรับเขาที่จะชาระแค้นเก่ากับอีกฝ่ายในตอนนี้
เมื่อมองดูสถานการณ์ในเวที ฉีฮวนค่อย ๆ รู ้สึกว่ามีบางอย่าง ผิดปกติ ฉากนี้คงจะถูกยับยั้งโดยกู่ซานฉิวเท่านั้น