ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 661 สงสัย
พูดตามตรง เย่ชิวปล่อยวางชีวิตครึ่งแรกไปนานแล้ว
เหตุผลนั้นง่ายมาก ตลอดทางของการเติบโตของเขา ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับภูมิหลัง ในเมื่อมันไม่มีอะไรบนเส้นทางการเติบโต เหตุ ใดต้องค้นหามันหลังจากที่เขามีชื่อเสียง
ดังนั้น เย่ชิวจึงไม่เคยกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้
เห็นเย่อู๋เหินถามเช่นนี้ เย่ชิวก็เงียบไปครู่หนึ่ง เขายิ้มและพูดว่า “ผู้น าเย่ ข้าเกรงว่าท่านจะผิดหวัง ข้าไม่มีพ่อแม่และมีอาจารย์เพียง คนเดียว ข้าพึ่งพาอาจารย์ของข้าตั้งแต่ยังเด็ก”
“น่าเสียดาย สวรรค์ไม่เข้าข้างข้า อาจารย์ของข้าเสียชีวิตไป นานแล้ว ตอนนี้ข้าไม่มีญาติ หากจะถามข้าว่ามาจากไหน ข้าพูดได้ ค าเดียว ข้ามาจากภูมิหลังที่ต่าต้อยและเติบโตมาท่ามกลางภัยพิบัติ ในโลกมหารกร ้าง”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา เย่อู๋เหินก็ตกใจยิ่งกว่า เขา ชอบค าพูดของเย่ชิว
“เป็ นไปได้หรือไม่ที่โลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้จริง ๆ” หัวใจของ เย่อู๋เหินสั่นสะท้านมากยิ่งขึ้นในขณะที่เขายังคงดื่มด่ากับชื่อนี้ใน หัวใจ
จริง ๆ แล้วเหตุผลหลักที่เขาถามคือชื่อของเย่ชิว เช่นเดียวกับ ตราประทับของราชันยุทธบนหน้าผากและรูปร่างหน้าตา เป็ นการ ยากที่จะไม่สงสัยในเรื่องนี้
“ใช่ คล้ายกันเกินไป… ” เย่อู๋เหินพึมพา ลูกชายคนโตซึ่ง เสียชีวิตในทะเลเพลิงในตอนนั้นมีอีกชื่อหนึ่งว่าเย่ชิว เขาอายุ เท่ากับเย่ชิว
เมื่อรวมกับความคล้ายคลึงกันเหล่านี้ เย่อู๋เหินมีความคิดที่กล้า หาญ เป็ นไปได้หรือไม่ว่าลูกชายคนโตยังไม่ตาย
ในทางกลับกัน อีกฝ่ายถูกส่งไปดินแดนเบื้องล่างอย่างลับ ๆ
นั่นไม่น่าเป็ นไปได้ ในตอนนั้น เขาได้เห็นอย่างชัดเจนเป็ นการ ส่วนตัวว่าลูกชายคนโตเสียชีวิตในทะเลเพลิงและถูกแทงหัวใจด้วย กระบี่ เขาเห็นมันกับตาของตนเอง ดังนั้นมันจึงเป็ นไปไม่ได้ที่ลูกชาย คนโตจะรอดชีวิต
ดังนั้น ความเป็ นไปได้นี้แทบจะหมดไป นี่เป็ นเพราะมีไม่กี่คนใน โลกนี้ที่สามารถซ่อนตัวจากเขา เฉพาะบุคคลจากศาลาลิขิตดารา เท่านั้นที่สามารถทาได้ แต่ไม่จาเป็ นที่อีกฝ่ายจะทาเช่นนั้น
ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ หัวใจของเย่อู๋เหินก็ปวดร ้าว แม้ว่าเขาจะไม่ เต็มใจอย่างยิ่งที่จะยอมรับมัน เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับ ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วจริง ๆ ปัจจุบันเย่ชิวเป็ นเพียงบุคคลที่บังเอิญ คล้ายกับลูกชายในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้
ดั่งคากล่าวที่ว่า โลกนี้ช่างกว้างใหญ่และมีสิ่งแปลกประหลาดเต็ม ไปหมด เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เฮ้อ… ” ส่ายหัวแล้ว เย่อู๋เหินก็ยิ้มอย่างขมขื่น เย่ฉิงซวนดู เหมือนจะเห็นพ่อกังวลและอดไม่ได้ที่จะกังวล “ท่านพ่อ เป็ นอะไรไป คิดถึงพี่ใหญ่อีกแล้วหรือ”
วันนี้เท่านั้นที่เย่ฉิงซวนตระหนักว่าครั้งหนึ่งเขาเคยมีพี่ใหญ่และ ในที่สุดก็รู ้ความลับของการจลาจลของตระกูลเย่ในตอนนั้น
เมื่อเย่อู๋เหินบอกเรื่องนี้กับเขา หัวใจของเขาก็เจ็บปวด อาจกล่าว ได้ว่าชีวิตเขามีได้เพราะพี่ชาย พี่ชายเป็ นตกเป็ นหมายแทนเขา ในขณะที่เขาซึ่งยังอยู่ในผ้าห่อ
เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะนั้น คนเหล่านั้นเพียงต้องการตัดสายเลือด ของเย่อู๋เหิน และไม่รู ้ด้วยซ้าว่ามีเย่ฉิงซวนอยู่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโชคดี พอที่จะหลีกเลี่ยงหายนะนั้นได้ อย่างไรก็ตาม พี่ชายสกัดกั้นภัยพิบัติ นี้เพื่อเขา
เย่ฉิงซวนรู ้สึกผิด อย่างไรก็ตาม พี่ชายเสียชีวิตแล้ว เขาคงไม่ สามารถตอบแทนอีกฝ่ายได้ในชีวิตนี้
เย่ชิวตะลึงเมื่อเห็นพ่อลูกโศกเศร ้า
เหตุใดเขาถึงนึกถึงสิ่งที่น่าเศร ้าในขณะที่เขาพูด สิ่งนี้ทาให้เย่ ชิวตกตะลึง ลืมไปเถอะ เขาไม่ยุ่งกับปัญหาของคนอื่น ดังนั้น เขาจึง กุมมือแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสหากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอลา”
พูดจบ เย่ชิวก็หันตัวกลับและจากไป
“ท่านอาจารย์!” ทันทีที่เขากลับมาที่ฝั่งของลูกศิษย์ หยาหยาก็ ร ้องเรียกด้วยความรัก
เย่ชิวพยักหน้า จากนั้น เขาก็มองไปที่เจียงหลิงเอ๋อและยิ้ม “นี่คือ ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของภูเขานักปราชญ์น้าของหยาหยา เทพธิดาเจียงใช่ หรือไม่ ยินดีที่ได้รู ้จัก”
นี่เป็ นครั้งแรกที่เย่ชิวทักทายเจียงหลิงเอ๋ออย่างเป็ นทางการ ใน ฐานะอาจารย์ของหยาหยา เขาต้องสุภาพเมื่อพบกับผู้อาวุโสของอีก ฝ่ าย อีกฝ่ ายก็ไม่หยาบคายเช่นกัน เจียงหลิงเอ๋อยิ้มอย่างอ่อนโยน และพูดว่า “ท่าทางของนายน้อยเย่ก่อนหน้านี้นั้นไม่มีใครเทียบได้จริง ๆ ข้าขอชื่นชมเจ้า”
“ข้าได้ยินมาว่าในบรรดาผู้ที่โดดเด่นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เยียวยาสวรรค์ มีเพียงหมิงเยว่เท่านั้นที่โดดเด่นที่สุด ตอนแรกข้าคิด เช่นนั้น”
“ไม่นึกว่าหลังจากการเดินทางในวันนี้ ข้าถึงเข้าใจว่าดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์นี้เต็มไปด้วยพยัคฆ์หมอบและมังกรซ่อน นอกจากเทพธิดาหมิงเยว่แล้ว จริงแล้วยังมีคนอย่างเช่นนายน้อยเย่ อีกด้วย”
เจียงหลิงเอ๋อชื่นชมจากใจจริงไม่มีความเย่อหยิ่งใด นางได้เห็น ท่าทางของเย่ชิวตลอดเวลา นางสรุปได้เพียงประโยคเดียว นางตกใจ มาก
ไม่มีข่าวลือเกี่ยวกับบุคคลเช่นนี้ในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดิน อาจ กล่าวได้เพียงว่าเย่ชิวเก็บตัวต่าเกินไป หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เขา ถือว่ามีชื่อเสียง
“ฮ่าฮ่า!” ได้ยินเจียงหลิงเอ๋อยกย่องเขาเช่นนี้ เย่ชิวรู ้สึกอาย เล็กน้อย
ข้าจะรับได้อย่างไร ถึงข้าจะโดดเด่นมากก็จริง เจ้าไม่สามารถพูด อย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ได้ มันน่าอาย … ฮิฮิ
เย่ชิวรู ้สึกสบายใจ แต่ภายนอกเขาค่อนข้างสงบ เขาจะเย่อหยิ่ง กับคาชมเพียงเล็กน้อยได้อย่างไร เขาจะโอ้อวดมากกว่านี้ได้อย่างไร ในอนาคต
“เทพธิดา ท่านยกยอข้ามากเกินไป! ข้าเป็ นเพียงคนธรรมดาที่ ไม่ได้สลักสาคัญ ท่านไม่ควรชมข้าเช่นนี้” เย่ชิวกล่าวอย่างนอบน้อม
ได้ยินเช่นนี้ เจียงหลิงเอ๋อยิ่งตกใจ นางไม่คิดว่าเย่ชิวจะสงบได้ ขนาดนี้ หากคนธรรมดาได้ยินคาชมเช่นนี้ พวกเขาคงจะหยิ่งผยอง เป็ นแน่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะสบายดี เขาอ่อนน้อมถ่อมตน เสมอ สุภาพ และไม่มีความเย่อหยิ่ง
ท่าทางที่โดดเด่นนี้ทาให้เจียงหลิงเอ๋อคาดหวังกับเขาไว้สูง
“เอาล่ะ! เราค่อยคุยกันหลังจากที่เรากลับไปที่ห้องฝึ ก นี่ไม่ใช่ สถานที่สาหรับพูดคุย” หลังจากนั้นไม่นาน เย่ชิวก็เลิกโม้เรื่องนี้และ มองไปที่ห้องโถง
ในขณะนี้ ฉีฮวนที่หายไปนานในที่สุดก็เดินออกมา เย่ชิวโกรธ ทันทีเมื่อเห็นสหายเก่าคนนี้ อีกฝ่ ายไม่ได้อยู่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุก่อน หน้านี้ พอหมดเรื่องก็กลับมา
“ฮิฮิ… ” ราวกับสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากการจ้องมอง ของเย่ชิว ฉีฮวนหัวเราะเบา ๆ อย่างไร ้ความปรานีและไม่พูดอะไร เขา ดูการแสดงตลอดเวลาก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดอีกฝ่าย
เย่ชิวโกรธจนหัวเราะ “ช่างโหดเหี้ยม”
เฉพาะตอนที่ฉีฮวนเริ่มออกมากดดัน เหตุการณ์นั้นจึงกลับคืนสู่ ความสงบตามปกติ ทุกคนคุยกันและเริ่มการสนทนาเต๋า ทุกคนพูด ถึงเรื่องของตนเองและมีชีวิตชีวามาก
แต่เดิม วันนี้เป็ นเพียงการที่ตระกูลใหญ่ต่างมาเยี่ยมรุ่นเยาว์ของ พวกเขาเพื่อดูว่าการบ่มเพาะของพวกเขาเป็ นอย่างไรก่อนการ ประลองเยียวยาสวรรค์อันยิ่งใหญ่
นั่นคือทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
หลังจากเรื่องนี้จบลง เย่ชิวมองไปที่ตระกูลกู้จากเมืองเทียนหลง และคู่มู่ไห่ หากยวี่ฉางเซิงไม่รบกวนก่อนหน้านี้กะทันหัน เย่ชิวคง สังหารพวกเขาไปแล้ว ตอนนี้เขาสงบลงแล้ว เขาไม่มีอารมณ์อยู่ที่นี่ อีกต่อไป
“ไปกันเถอะ!”