ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 667 เข้าสู่ศาลาลิขิตดาราอีกครั้ง
น่าเสียดาย เย่ชิวมาถึงศาลาลิขิตดาราแล้ว
เย่ชิวไม่รีบร ้อนที่จะเข้าไป เขาได้แต่ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งและ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดทันใดนั้นผู้อาวุโสใหญ่ จึงเชิญเขามา หลังจากคิดอย่างจริงจัง เย่ชิวก็ดูเหมือนจะเข้าใจ มัน อาจจะเป็ นการปูทางให้กับเขา
ถ้าเย่ชิวจ าไม่ผิด เจียงหลิงเอ๋อเคยพูดว่าก่อนหน้านี้ว่า อาจารย์ ของนาง ผู้อาวุโสใหญ่ของภูเขานักปราชญ์อยู่ในศาลาลิขิตดารา ใน เวลานี้ เมิ่งเทียนเจิ้งอาจเชิญเขามาด้วยจุดประสงค์เดียว ซึ่งก็คือการ แนะนาเขาให้รู ้จักกับตัวตนที่ไม่ธรรมดาของเก้าสวรรค์สิบแผ่นดิน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ชิวก็หายใจเข้าลึก ๆ และรอยยิ้มปรากฏขึ้นบน ใบหน้า ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถง เขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“โอ้ นี่ไม่ใช่ท่านเทพหรือ ช่างเป็ นคนที่ยุ่งจริง ๆ ในที่สุดข้าก็เชิญ มาได้” ทันทีที่เย่ชิวเข้าไปในห้องโถง ผู้อาวุโสในศาลาลิขิตดาราก็ หยอกเย้าเขาทันที
“ฮ่าฮ่า ผู้อาวุโส อย่าเยินยอข้า ข้ามีสิทธิ์อะไรได้รับคาเยินยา” เย่ ชิวได้ยินการหยอกเย้าของพวกเขาและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร ้ายแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ผู้อาวุโส เหล่านี้เป็ นมิตรกับเย่ชิวมาก พวกเขารู ้สึกขอบคุณและซาบซึ้งอย่าง มาก เป็ นเพราะในตอนนั้น ของเหลวแห่งชีวิตของเย่ชิวได้ช่วยให้เมิ่ง เทียนเจิ้งก้าวข้ามความทุกข์ยากแห่งความตาย เป็ นเหมือนผู้มี พระคุณของพวกเขา พวกเขารับประกันอย่างอื่นไม่ได้ แต่หากเย่ชิวมี คาขอและต้องการให้พวกเขาโจมตี พวกเขาจะไม่ลังเลที่จะโจมตี อย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่า! เจ้าเด็กสารเลว เหตุใดเจ้าไม่มาเจอพวกเราสหายเก่า ครั้งสุดท้าย เมื่อผู้อาวุโสกู่ลงไป ข้าก็อยากจะลงไปเล่นด้วย แต่ผู้ อาวุโสใหญ่ไม่อนุญาต” ชายชราผู้ดูเหมือนปราชญ์หัวเราะอย่าง เต็มที่ น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ออกจากศาลาลิขิตดารามาหลายปี แล้ว
เดิมที พวกเขาต้องการลงไปที่ดินแดนเบื้องล่างด้วยกันเพื่อ ช่วยเย่ชิว อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ไม่สามารถท าตนเองขายหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสใหญ่ไม่อนุญาต เขาบอกว่ายังไม่ใช่เวลาและ พวกเขาไม่สามารถออกมาจากการปิดด่านได้
เมื่อได้ยินชายชราหยอกล้อ เย่ชิวรีบโค้งคานับและตอบว่า “ผู้ อาวุโสหลี่ช่างมีน้าใจยิ่งนัก ครั้งหน้า ข้าจะเชิญท่านออกจากภูเขา เพื่อช่วยเหลือข้าอย่างแน่นอน เป็ นโอกาสที่ดีที่จะบอกให้โลกรู ้ว่าผู้ อาวุโสหลี่ของเรายังหนุ่มแน่นและกล้าหาญ”
เมื่อผู้อาวุโสหลี่ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข “ฮ่าฮ่า ข้า ชอบที่จะได้ยินสิ่งนี้ ข้า หลี่ เป็ นคนที่ขี้สงสัย กลับไปตอนนั้น… ”
“เอาล่ะ หยุดอวดตนเองได้แล้ว เราได้ยินเกี่ยวกับการกระทาของ เจ้ามาหลายร ้อยปีแล้ว เหตุใดเจ้ายังพูดไม่จบ” เมื่อเห็นว่าเขากาลังจะ เริ่มโอ้อวดเกี่ยวกับการกระทาอันยิ่งใหญ่ในตอนนั้น ผู้อาวุโสที่อยู่ ข้าง ๆ ก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ทันที
พวกเขาฟังมาหลายร ้อยปีแล้วและหูของพวกเขาก็ด้านเพราะ เรื่องนี้ พวกเขาจะมีเวลาฟังอีกฝ่ายโม้อีกต่อไปได้อย่างไร
เมื่อหลี่อู๋อวี่ได้ยินสิ่งนี้ เขาลูบจมูกอย่างเชื่องช ้าและหัวเราะเบา ๆ เขาไม่คิดว่าเขาทาเกินไป อันที่จริง ผู้อาวุโสของศาลาลิขิตดาราล้วน เป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงในตอนที่พวกเขายังเด็ก พวกเขาปกป้ องศาลา ลิขิตดาราด้วยกันมาหลายปีและรู ้จักกันดี
อย่างไรก็ตาม การโอ้อวดหน้ารุ่นเยาว์ยังคงไม่เป็ นไร
เมื่อเห็นฉากนี้ เย่ชิวก็ยิ้มในใจ แต่เขาก็ยังอดกลั้นไว้ ผู้อาวุโสใน ศาลาลิขิตดาราน่าสนใจทีเดียว การได้อยู่ร่วมกับพวกเขาจะเป็ น ประโยชน์อย่างมากต่ออนาคตของเย่ชิว ดังนั้น เย่ชิวไม่เคยท าตัว เหนือกว่าที่นี่ เขาให้ความเคารพพวกเขามาก และบรรยากาศระหว่าง พวกเขาก็ดี
สถานการณ์เช่นนี้! เย่ชิวรู ้ว่าเมื่อใดควรโอ้อวดและเมื่อใดควร อ่อนน้อมถ่อมตน
“เอาล่ะ เด็กน้อย ขึ้นไป ผู้อาวุโสใหญ่ยังรอเจ้าอยู่” ไม่รู ้ว่าเวลา ผ่านไปนานเท่าใด ชายชราผู้หนึ่งที่นั่งขัดสมาธิบนแท่นดอกบัวใน ส่วนลึกของห้องโถงกล่าวอย่างกรุณา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ชิวก็โค้งคานับด้วยความเคารพและเดินไปที่ ชั้นบนสุดของศาลาลิขิตดาราอย่างเงียบ ๆ
ผู้อาวุโสถอนหายใจด้วยอารมณ์ขณะที่พวกเขามองดูเขาจากไป
“เฮ้อ ดีที่เป็ นผู้เยาว์!”
“เด็กคนนี้ไม่เย่อหยิ่งไม่วู่วาม เขาถ่อมตัวและสุภาพ เคารพ อาจารย์ บางทีตัวเลือกของผู้อาวุโสใหญ่นั้นถูกต้องมาก เขาสามารถ แบกรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ของข้าได้จริง ๆ”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา เขาก็ได้รับการยอมรับจากผู้ อาวุโสอีกคนทันที
“ใช่ เด็กคนนี้มีความทะเยอทะยานและมีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์ หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นในช่วงนี้ เขาจะกลายเป็ นบุคคลพิเศษ ในอนาคตอย่างแน่นอน”
ณ จุดนี้ ผู้อาวุโสต่างรู ้สึกปลื้มปิติ พวกเขาปกป้ องศาลาลิขิต ดารามาหลายปีแล้ว ไม่ใช่ความปรารถนาสูงสุดของพวกเขาที่จะให้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์สร ้างเซียนที่แท้จริงหรือ
ศาลาลิขิตดาราคือโชคชะตาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยา สวรรค์ พวกเขาปกป้ องโชคชะตานี้และให้โอกาสกับคนหนุ่มสาว เหล่านี้ด้วยความเป็ นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ความหมายนั้นกว้างไกล น้อยคนนักที่จะเข้าใจการทางานหนัก ของพวกเขาอย่างแท้จริง
เสียงชายชราดังมาจากห้องโถงที่เงียบมานาน
“ทุกคน เป็ นเวลาหลายล้านปีแล้วที่เราออกมาปกป้ อง ข้าเชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์จะสามารถทาลาย ข้อห้ามที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อย่างแน่นอนและเพลิดเพลินไปกับรัศมี แห่งนิรันดร ์ทุกคน… โปรดตั้งตารอไปกับข้า” หลังจากพูดจบ ชาย ชราก็หลับตาลงอีกครั้งและหลับต่อไป
เย่ชิวไม่รู ้ว่าเขาได้มาถึงชั้นบนสุดของศาลาลิขิตดาราแล้ว ภายใต้ท้องฟ้ าอันลึกล้านั้นเหมือนได้แหวกว่ายอยู่ในทะเลดาว เย่ชิว มองลงไปและรู ้สึกเหมือนตนเองก าลังมองลงไปยังโลก
เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมหัวใจ “ดูเหมือนว่าการบ่มเพาะของผู้ อาวุโสใหญ่จะพัฒนาขึ้นเล็กน้อย พลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง และเดินทางไปทั่วโลกช่างน่าตกใจจริง ๆ”
ชั้นบนสุดของศาลาลิขิตดาราเหมือนโลกใบเล็ก มันเพิ่มจานวน และเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดภายใต้วิวัฒนาการของเคล็ดวิชาของผู้
อาวุโสใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นมองประตูที่ปิดสนิท กู่ซานฉิวยืนอยู่นอก ประตู คอยปกป้ องอยู่อย่างเงียบ ๆ
“ศิษย์พี่กู่!” เย่ชิวเรียกออกมาเบา ๆ กู่ซานฉิวลืมตาช ้า ๆ เขา ไม่ มีสีหน้าบนใบหน้า เมื่อเขาเห็นเย่ชิว เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ฮ่าฮ่า ในที่สุดเจ้าก็มาถึง เข้าไปเถอะ หมิงเยว่มาถึงก่อนเจ้าแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่ก าลังรอเจ้าอยู่ข้างใน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ชิวก็ตกตะลึง “ศิษย์พี่หญิงก็มาที่นี่เช่นกัน หรือ” เขาแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อคิดอีกครั้ง ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ผิดปกติ
ท้ายที่สุดแล้ว หมิงเยว่คือคนที่สมควรได้รับลาดับหนึ่งในดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ นักบุญหญิงเยียวยาสวรรค์ โชคดีที่นางไม่ ชอบออกหน้าและยุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่เช่นนั้น ใครบ้างในดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ทั้งหมดจะไม่เกรงกลัวนาง
มีหลายคนท้าทายเย่ชิว แต่เคยเห็นใครกล้าท้าทายหมิงเยว่หรือ นั่นเทียบเท่ากับหาที่ตาย
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มุมปากของเย่ชิวก็กระตุกและเขาก็รู ้สึกอึดอัด เล็กน้อย
เหตุใดข้าถึงรู ้สึกว่าตนเองยังอ่อนแอ มิเช่นนั้น เหตุใดคน มากมายถึงชอบหาเรื่องกับข้า
หลังส่ายหัวแล้ว เย่ชิวก็ยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้น เขาก็ผลักประตู และเดินเข้าไปในห้องโถงฝึกของผู้อาวุโสใหญ่
เย่ชิวก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าและแหวกว่ายในทะเลแห่งดวงดาว ดูเหมือนเขาจะถูกพัดเข้าสู่ความปั่นป่ วนอันว่างเปล่า เขาอดไม่ได้ที่ จะตกใจและเหงื่อออกเย็นเยียบ เย่ชิวระดมปราณโลหิตทั้งหมดใน ร่างกายทันทีเพื่อต้านกระแสพลัง
ทันใดนั้น มือขาวไร ้ที่ติคู่หนึ่งก็ดึงเขาออกจากความว่างเปล่า
เย่ชิวเงยหน้าขึ้นมอง ในขณะนี้ เขามาถึงเมฆแล้วและ นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นเมฆ ชายชราผู้เหมือนปราชญ์สองคนกาลัง เล่นหมากรุก มือขาวไร ้ที่ติคู่ที่เพิ่งดึงเขากลับมาคือหมิงเยว่
หมิงเยว่ไม่แสดงอารมณ์มากนักเมื่อเห็นเขามาถึง นางปล่อยมือ จากเขาแล้วพูดว่า “นั่นคือกระแสวังวนกฏเกณฑ์ของผู้อาวุโสใหญ่ ผู้ ที่เข้ามาครั้งแรกจะหลงทาง ข้าก็เหมือนกันก่อนหน้านี้”
นางกลัวว่าเย่ชิวจะคิดมาก นางจึงอธิบาย