ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 672 เขาทนได้อย่างไร
“เฮ้อ… เจ้าไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้” ณ จุดนี้ เมิ่งเทียนเจิ้งก็ พลันวางถ้วยชาในมือแล้วพูดต่อ “แม้ว่าข้าจะไม่ได้ออกจากภูเขามา หลายร ้อยปีแล้ว แต่ข้าก็ยังได้ยินมาว่าภูเขาปราชญ์สวรรค์ได้สร ้าง อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้สองสามคน เรียกได้ว่ารุ่งโรจน์และโด่งดัง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เมิ่งเทียนเจิ้งชาเลืองมองหมิงเยว่แล้วพูดว่า “แม้ว่า ข้าจะเลิกสนใจโลกไปนานแล้ว แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นใน โลกนี้ไม่สามารถซ่อนจากสายตาของข้าได้ ข้าได้ยินมาว่ามีกายา จักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่ปรากฏในภูเขาปราชญ์สวรรค์ จริงหรือ”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา สีหน้าของนักพรตเทียน หยวนเปลี่ยนไปทันทีและแข็งทื่อเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าเมิ่ง เทียนเจิ้งจะค้นพบเขาแม้ว่าเขาจะซ่อนเรื่องนี้ไว้ลึกมากก็ตาม จะเห็น ได้ว่าดวงตาดุร ้ายของเมิ่งเทียนเจิ้งนั้นร ้ายกาจเพียงใด ราวกับว่าไม่มี อะไรในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดินทั้งหมดที่อีกฝ่ายจะไม่รู ้
เขามีความกังวลในหัวใจมากมาย หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นักพรตเทียนหยวนก็ยอมรับตามตรงว่าดูเหมือนจะไม่มีอะไรต้อง ปิดบังจากเมิ่งเทียนเจิ้ง “ฮ่าฮ่า นั่นก็จริง”
เมื่อพูดถึงศิษย์คนนี้ นักพรตเทียนหยวนก็มีสีหน้าที่ภูมิใจ เขามี ลูกศิษย์เช่นนี้จริง ๆ ซึ่งเป็ นผู้สืบทอดของกายาจักรพรรดิความ เชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่ด้วยรูปลักษณ์ของเซียนในยุคเซียนโบราณ พรสวรรค์น่าทึ่งมาก ทันทีที่เขาเปิดตัว เขาทาลายสถิติในตานานนับ ไม่ถ้วนและผ่านการทดสอบพื้นที่ต้องห้ามมากมาย อาจกล่าวได้ว่า รุ่งโรจน์เป็ นอย่างมาก
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ หมิงเยว่และเย่ชิวก็เริ่มสนใจ “กายา จักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่”
ไม่ใช่ว่าเย่ชิวไม่เคยเห็นร่างกายในตานานนี้มาก่อน แต่ผู้สืบ ทอดของกายาจักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่ที่เขาเคยเห็น ส่วนใหญ่เป็ นคนที่มีกายาไม่สมบูรณ์ แม้ว่าพวกเขาจะมี ความสามารถ แต่พวกเขาก็ไม่ถึงจุดที่เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวถึงพวกเขา เป็ นพิเศษ
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสใหญ่ให้ความสาคัญกับอีกฝ่ ายมาก คน ๆ นี้ ต้องมีบางอย่าง หมิงเยว่หันไปมองเย่ชิวเงียบ ๆ โดยไม่รู ้ว่านางก าลัง คิดอะไรอยู่
หลังจากได้ยินนักพรตเทียนหยวนยอมรับ เมิ่งเทียนเจิ้งก็ยิ้ม
เขาพูดต่อ “เด็กดี เจ้าซ่อนมันไว้ดีแล้ว!”
หลังจากพูดอย่างมีเลศนัย เมิ่งเทียนเจิ้งพูดทันทีว่า “กายา จักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่นี้เป็ นตัวตนดั้งเดิมของเต๋า
สวรรค์ ได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์และใกล้ชิดกับเต๋าสวรรค์ มากกว่าคนทั่วไป ครั้งหนึ่งข้าเคยอนุมานอดีตและอนาคตเพื่อค้นหา ร่องรอยของและค้นพบบางสิ่ง”
ณ จุดนี้ รูม่านตาของเย่ชิวและหมิงเยว่หดตัวและสีหน้าของพวก เขาก็เริ่มจริงจัง เดิมทีพวกเขาคิดว่าผู้สืบทอดของกายาจักรพรรดิ ความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่เป็ นเพียงอัจฉริยะที่ผ่านไปได้เล็กน้อย โดยไม่คาดคิด เขาสามารถดึงดูดความสนใจของเมิ่งเทียนเจิ้งได้ เห็นได้ว่าความน่าเกรงขามของอีกฝ่ายคงไม่ด้อยไปกว่าพวกเขา
นักพรตเทียนหยวนตกใจยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ได้คาดหวังว่าความ แข็งแกร่งของเมิ่งเทียนเจิ้งจะพลังขนาดนี้ จากนั้น เขาพูดว่า “ขอบคุณส าหรับปัญหา”
ในขณะที่เขากาลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมิ่งเทียนเจิ้งโบกมือและ พูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งหนึ่งข้าอนุมานได้และพบร่องรอยสามชั่วอายุ คน”
“บุคคลนี้เคยปรากฏตัวในตอนท้ายของยุคเซียนโบราณ ในชีวิต แรก เขาปะทุขึ้นด้วยความสามารถที่น่าอัศจรรย์และกลายเป็ นบุคคล ที่เก่งกาจที่สุดในยุคเซียนโบราณ”
“ในชีวิตที่สอง เขาปรากฏตัวในช่วงเวลาที่วุ่นวายของยุคความ โกลาหลบรรพกาล นอกจากนี้เขายังพลิกกระแสและบุกเข้าไปใน ดินแดนโบราณอันมืดมิดเพียงล าพัง ปกครองโลก”
“ในชีวิตที่สาม เขาปรากฏตัวขึ้นในช่วงความวุ่นวายของสมัย โบราณและยังมีการฝี มือน่าตกใจอีกด้วย อาจกล่าวได้ว่าไม่มีใคร เทียบได้”
เมื่อมาถึงจุดนี้ สีหน้าของนักพรตเทียนหยวนดูน่ าเกลียด เล็กน้อย ไม่ใช่ว่าคาพูดของเมิ่งเทียนเจิ้งได้สัมผัสกับความลับ แต่เขา ไม่คาดคิดว่าลูกศิษย์จะปกปิดความลับอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ไว้แม้แต่เขา เองก็ไม่รู ้
สาหรับเมิ่งเทียนเจิ้ง เขาอนุมานได้ด้วยมือเดียวจากระยะทางที่ ห่างออกไปหนึ่งล้านลี้ เมิ่งเทียนเจิ้งใช ้เพียงประโยคเดียวเพื่อสรุปการ ประเมินสามช่วงอายุ
สามชั่วอายุสูงสุด!
เย่ชิวและหมิงเยว่รู ้ความหมายของคาเหล่านี้เป็ นอย่างดี พวกเขา อดไม่ได้ที่จะรู ้สึกกดดัน
“แม่เจ้า มีพยัคฆ์หมอบและมังกรซ่อนอยู่ในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดิน มากมาย”
เย่ชิวถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ เทียบกับคนพวกนี้ เขามี ชีวิตเพียงเท่านี้ มันดูขาดไปนิดหน่อย
ไม่ว่าจะเป็ นคน ๆ นี้หรือหมิงเยว่ ทั้งคู่มีรากฐานของตนเองและมี ชีวิตก่อนหน้าที่พลัง ในการเปรียบเทียบ ตอนนี้เย่ชิวเข้าใจแล้วว่า รากฐานอันไร ้ที่สิ้นสุดที่รอการปลดปล่อยนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
เขาใช ้พลังของสามช่วงชีวิตเพื่อปลดปล่อยออกมาในช่วงชีวิตนี้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ของการมีอายุที่ยืนยาว
เมื่อเห็นว่าทุกคนหวาดกลัว เมิ่งเทียนเจิ้งมองที่เย่ชิวอย่างครุ่นคิด และไม่พูดอะไร จากนั้น เขามองไปที่หมิงเยว่และยิ้มจาง ๆ เขาพูดต่อ “เด็กคนนี้กาลังรอที่จะปลดปล่อยความแข็งแกร่ง เขาจะใช ้พลังของ สามช่วงชีวิตและรอให้ยุคทองลงมา นั่นคือเวลาที่เขาออกแรง ข้า มองเห็นแค่ยอดภูเขาน้าแข็งแห่งอนาคตอย่างราง ๆ เท่านั้น”
ณ จุดนี้ เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้ทาอะไรต่อ แต่เหตุใดนักพรตเทียน หยวน ที่เคยได้ยินความลับที่น่าตกใจ จะปล่อยมันไปได้อย่างไร นี่คือ อนาคตของศิษย์อันสมบัติ เขาอยากรู ้ว่าลูกศิษย์จะประสบ ความส าเร็จอะไรในอนาคต “สหายเต๋า ว่าต่อ เจ้าเห็นอะไร ข้ากังวล มาก”
ยิ่งอีกฝ่ ายกระวนกระวายมากเท่าใด เมิ่งเทียนเจิ้งก็ยิ่งวิตกกังวล น้อยลงเท่านั้น เขายังคงดื่มชาอย่างมีระเบียบ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยิน อะไร
“ฮ่าฮ่า” หมิงเยว่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นฉากนี้ นาง ที่ปกติ จะไม่ค่อยยิ้ม วันนี้ผู้อาวุโสใหญ่ดูน่าขบขัน นางไม่คาดคิดมาก่อนว่า ผู้อาวุโสใหญ่ที่น่านับถือและเข้าถึงง่ายจะมีด้านที่น่ารักเช่นนี้ เขาดู เหมือนเม่นแก่เล็กน้อย นางไม่เคยเห็นผู้อาวุโสใหญ่เช่นนี้มาก่อน ราวกับว่านางได้ค้นพบทวีปใหม่
แน่นอน มีเพียงนางเท่านั้นที่คิดอย่างนั้น สาหรับเย่ชิว เขารู ้แล้ว ว่าเมิ่งเทียนเจิ้งเป็ นคนแบบไหน อีกฝ่ ายแย่มาก ดังนั้น เขาจึงไม่ แปลกใจ
นักพรตเทียนหยวนยังคงกระตุ้น เมิ่งเทียนเจิ้งมองอีกฝ่ ายด้วย ความสนุกสนาน แต่แสร ้งทาเป็ นไม่ได้ยินอะไร หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเห็นว่านักพรตเทียนหยวนทนไม่ได้อีกต่อไป เขาก็ค่อย ๆ พูดขึ้น ว่า “ความลับสวรรค์ไม่อาจรั่วไหลได้”
“ฮ่าฮ่า! ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา เย่ชิวก็หัวเราะอย่าง บ้าคลั่ง สมดังคาด เขาเดามานานแล้วว่าเมิ่งเทียนเจิ้งจะไม่สามารถ ยับยั้งสิ่งดี ๆ ได้อย่างแน่นอน
หลังจากคุยกันอยู่นาน ทันใดนั้น ประโยคดังกล่าวก็พุ่งออกมา ท าให้ใบหน้าของนักพรตเทียนหยวนมืดลง ความลับสวรรค์รั่วไหล ไม่ได้ ในเมื่อมันรั่วไหลไม่ได้ เหตุใดเจ้าถึงโม้นานนัก
นักพรตใบหน้าของเทียนหยวนมืดลง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเมิ่ง เทียนเจิ้งไม่มีความตั้งใจที่จะบอกเขาตั้งแต่เริ่มต้น อีกฝ่ ายจงใจที่จะ กระตุ้นความอยากรู ้อยากเห็นและราดน้าเย็นใส่เขาอย่างไร ้ความ ปรานี
เวรเอ๊ย! มันอึดอัดมาก ราวกับว่ามีมดคลานอยู่บนร่างกาย เขา อยากจะตีใครสักคน
นักพรตเทียนหยวนเป็ นยอดฝี มือที่บรรลุเต๋า หากเป็ นคน ธรรมดา พวกเขาคงโจมตีไปแล้ว และเขากลับทนได้จริง ๆ!